แวะไปเที่ยวเชียงใหม่คราวนี้ นอกจากเสพธรรมชาติ (ที่ฝุ่นอาจจะหนาไปหน่อย) กินอาหารเมืองลำ ๆ อีกหนึ่งสิ่งที่เราตั้งใจ เรียกว่าใส่ในแพลนไว้ว่าจะไปลองให้ได้ ก็คือ ร้าน Roamer Burger ร้านเบอร์เกอร์สไตล์คราฟต์ ที่เรารู้มาว่านี่เป็นแบรนด์จากฝีมือของทีม Graph Coffee ร้านกาแฟที่คร่ำหวอดในวงการกาแฟเชียงใหม่มาเนิ่นนาน
สิ่งที่ทำให้เราอยากลอง Roamer Burger ให้ได้ ก็เพราะเราเองเป็นแฟนคลับของทีม Graph Coffee อยู่ไม่น้อย และรู้ดีว่าทีมนี้ชอบทำโปรเจกต์สนุก ๆ และทำถึงอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการเปิดร้านเบอร์เกอร์ ที่ดูจะฉีกจากความเป็นเครื่องดื่มสักหน่อย แต่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ คุณ ตี่ – ฆฤพร สาตราภัย เจ้าของแบรนด์ GRAPH เล่าไว้ว่านี่เป็นโปรเจกต์ที่จริงจังมาก ๆ กว่าจะคลอดก็ใช้เวลานานกว่า 1 ปีเลย
“หนึ่งปีเต็มกับการคิดและทดลองทำเบอร์เกอร์ หาวัตถุดิบ ทำขนมปัง สูตรซอส และเนื้อที่ได้ตามความต้องการ ออกแบบและทำทุกอย่างด้วยทีม GRAPH”
ร้าน Roamer Burger เปิดตัวสาขาแรกในย่านสวนดอก (ซอยหมู่บ้านดาวดึงส์ ซอย 2 ถนนสุเทพ) เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ขนาด ที่รีโนเวทจากห้องครัวเดิมที่ไม่ใช้แล้ว จนแทบจำภาพเดิมไม่ได้ ภายในถูกตกแต่งอย่างดี สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า มีทั้งเตา เคาน์เตอร์ ตู้เครื่องดื่ม และที่นั่งที่นั่งที่บุกำหมะยี่สีเขียว นั่งสบายใช้ได้
“โจทย์คือพื้นที่ 20 ตร.ม. สามารถใส่พื้นที่ทำอาหาร ชั้นวางสินค้าและที่นั่งลูกค้า 8-10 ที่นั่ง มีระบบไฟ แก๊ส น้ำ แอร์ ที่แทรกตามผนัง พื้น เพดานต่าง ๆ และเคาน์เตอร์ที่สามารถทำงานได้คล่องตัว”
ส่วนสาขาอื่น ๆ ของ Roamer Burger ตอนนี้รวมแล้วมีทั้งหมด 3 สาขา คือ Roamer Burger Classic สวนดอก / Roamer Burger Lost Boy ใน Red Iron Space (เวิ้งเหล็กแดง) และ Roamer Burger Woodside ในบ้านข้างวัด
ร้าน Roamer Burger กับ เบอร์เกอร์ในอุดมคติ
ความตั้งใจของ ร้าน Roamer Burger คือการทำเบอร์เกอร์ในแบบอุดมคติ เป็นเบอร์เกอร์สไตล์คราฟต์ ที่หน้าตาเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แต่แฝงไปด้วยรสชาติที่ซับซ้อนหลายมิติ ซึ่งนอกจากสูตรซอสจะคิดเองแล้ว เค้ายังลงทุนทำตัวบันเองเลย เป็นขนมปังที่นวดด้วยมือ ใช้เวลานวดจนเนียนกว่า 5 ชั่วโมง และอบทำแบบ Artisan Bun จนได้เป็นบันเนื้อนุ่มเหนียวเคี้ยวสนุก
เมนูที่ Roamer Burger ตอนนี้ยังมีไม่มาก เน้นเป็นที่เบอร์เกอร์เนื้อ มีหมูเป็นทางเลือกให้ 1 เมนู เมนูทานเล่นหรือ Side Dish และเครื่องดื่ม ซึ่งเราว่าก็เพียงพอเลยนะ
เราได้ลอง เป็น Lostboy (280 บาท) เนื้อออสเตรเลียแผ่นโตชิ้นหนากำลังดี ที่กริลล์จนหอม ราดซอสสูตรเฉพาะที่ทางร้านเคี่ยวเอง มีผักสดกรอบ มะเขือเทศ แตงกวาดองโฮมเมด ชีสแผ่นใหญ่ เบคอนกรอบ ประกบด้วยขนมปังที่กริลล์กับเนยจนหอม เป็นการรวม Combination ที่กินแล้วเข้ากันได้ดีไว้อย่างพอดี ที่ได้ลองแล้วแทบวางไม่ลง
นอกจากเนื้อออสเตรเลีย ก็ยังมีเนื้อวากิว และเนื้อ Local จากเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ตั้งใจใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และมี Classic Pork สำหรับคนไม่กินเนื้อด้วยนะ
ฝั่งเมนูกินเล่นก็มีให้พอกรุบกริบ มี เฟรนฟรายส์ และ หัวหอมทอด (50 บาท) เราเลือกเป็นหัวหอม ทอดร้อน ๆ กรอบนอก ฉ่ำใน กินกับซอสมัสตาร์ดเข้ากันดีสุด ๆ
ส่วนเครื่องดื่มก็ไม่ใช่น้ำอัดลมธรรมดา ๆ เพราะเค้ารวมเอาความคราฟต์เข้าไว้ด้วยกัน อย่าง Co-Gane (65 บาท) เป็นคราฟต์โคล่าจากแบรนด์ Earth tone ผู้ผลิตที่สืบทอดการหมักน้ำตาลอ้อยกับถั่วเหลืองด้วยกรรมวิธีแบบโบราณของชาวจีนโพ้นทะเลที่มาตั้งรกรากที่ปากน้ำโพ และยังคงสืบทอดมากว่า 100 ปีจนถึงปัจจุบัน
จนได้เป็นซอสที่อร่อย หอม หวาน นำมาเป็นวัตถุดิบหลัก เคี่ยวกับเครื่องเทศ และมะนาวจนได้ที่ ผสมผสานกับความซ่า เกิดเป็นรสชาติที่กลมกล่อม และยังมีอีกหลายรสชาติให้เลือกลอง
ใครเป็นแฟน Graph Coffee หรือมาเชียงใหม่กำลังหาอะไรอร่อย ๆ กินสักมื้อ เบอร์เกอร์ ที่ Roamer Burger ก็เป็นอีกเมนูที่เราจะเชียร์ให้มาลองกัน อย่างที่ร้านบอกเราว่า
“ความหิวเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เราได้เดินทางไปสู่หมุดหมายที่เราตั้งใจ ซึ่งสิ่งนี้เองได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เรารังสรรค์และขับเคลื่อนผู้คนด้วยอาหารที่เรียบง่ายอย่างเบอร์เกอร์ แต่แฝงไว้ด้วยรสชาติที่หลากหลายจากวัตถุดิบท้องถิ่นและคุณประโยชน์ ที่ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่ Roamer Burger ก็เป็นคำตอบได้เสมอ”
Roamer Burger Classic
เปิดทุกวัน (11:00 – 21:00 น.)
ซอยหมู่บ้านดาวดึงส์ ซอย 2 ถนนสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ (ติดกับ General Coffee)
จอดรถได้ริมถนน
google maps