ถ้าพูดถึงอาหาร อิตาเลียน เราอาจจะนึกถึงพิซซ่า หรือพาสต้ากันก่อนเป็นอันดับแรก แต่จริง ๆ แล้ว อิตาลี เองก็มีอาหารในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างไปไม่ต่างจากบ้านเราหรือประเทศอื่น ๆ และกลุ่มอาหารซีฟู้ดที่มาจากทางตอนใต้ของอิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารสไตล์อิตาเลียนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือเป็นที่แพร่หลายมากนัก และร้านอาหารแนวนี้ก็ยังไม่มีมากนักในบ้านเรา
ถึงอย่างนั้น หากใครอยากลองมาเปิดโลกอิตาลีตอนใต้ ก็สามารถมาที่ชั้น 1 ของศูนย์การค้า Gaysorn Plaza กับ Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar ได้เช่นกัน


หากมาถึงแล้วอาจจะต้องมองหา Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar สักหน่อย นั่นเพราะตัวร้านตั้งอยู่หลังประตูของ ONE II Club The Exclusive Lounge อีกที (โดยเมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว ตัวร้านจะอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาจะเป็นประตูลับสำหรับเลาจน์ที่สามารถใช้บริการโดยเฉพาะสมาชิกวีไอพีเท่านั้น) หากยังมองหาป้ายร้านไม่เจอ สามารถสังเกตง่าย ๆ จากกำแพงกระจกที่มีคอนญัก (Cognac) สุดลักชูรีอย่าง Louis XIII ตั้งเรียงรายอยู่ นั่นแหละแปลว่าเรามาถึงร้านแล้ว

ที่ทาง Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar เต็มไปด้วยราชาแห่งคอนญักแบรนด์นี้ตั้งอยู่ นั่นเพราะเจ้าของร้านเป็นคนที่ชอบแบรนด์นี้เอามาก ๆ จึงหยิบเอา Louis XIII เข้ามาไว้ในเลาจน์ รวมถึงร้านอาหารแห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังชื่นชอบในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน อิตาลีตอนใต้เป็นพิเศษ และอยากส่งต่อรสชาติแบบ Sicilian (ซิซิเลียน) ให้เป็นที่รู้จักของนักทานอาหารชาวไทยมากขึ้น รวมถึงสำหรับใครที่ชอบอาหารแนวนี้อยู่แล้ว แต่ยังหาลองไม่ได้ง่ายนักในบ้านเรา ก็ให้ Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีได้

ส่วนใครยังสงสัยว่า Sicilian นั้นอยู่ที่ไหนของอิตาลีกันนะ ถ้าพูดว่า Sicily (ซิซิลี) น่าจะคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง นี่คือหนึ่งในห้าแคว้นปกครองตัวเองของประเทศอิตาลีที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และยังเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีอีกด้วย นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว แน่นอนว่าที่นี่ก็รุ่มรวยทางด้านวัฒนธรรมอาหารที่มีวัตถุดิบเป็นซีฟู้ดมากมาย และรสชาติที่แตกต่างออกไปจากอาหารอิตาเลียนที่เรารู้จัก

“จุดนำสายตาอีกอย่างหนึ่งคือเคาน์เตอร์ขนาดยาวที่วางอยู่ด้านในร้าน เปรียบดั่ง Open Kitchen ที่มีเชฟปรุงเมนูละจานกันให้เราเห็นแบบสด ๆ ไปเลย แทบทุกเมนูของร้าน โดยเฉพาะอาหารเย็น และเมนู Crudo จะถูกแล่ ปรุง และจัดจานกันที่เคาน์เตอร์นี้ทั้งหมด”
อาหารของที่นี่จึงจะมาในรูปแบบของซีฟู้ดแถบเมดิเตอร์เรเนียน และอาหารสไตล์ครูโด หรืออาหารดิบ อย่างชื่อ Ricci เองก็หมายความว่า “หอยเม่น” ที่เปรียบดั่งราชาแห่งอาหารทะเลของอิตาลี จึงหยิบเอามาเป็นชื่อร้านเสียเลย

ไม่ใช่แค่ชื่อร้านเท่านั้น แต่การตกแต่งร้านเองก็พาเราเหมือนลงไปอยู่ในโลกใต้ท้องทะเลกันด้วย ตกแต่งเพดานให้เป็นริ้วดูพริ้วไหวเหมือนเกลียวคลื่นและสายลม แต่งเติมด้วยภาพวาดปลาทูน่าตัวใหญ่โดดเด่นจากศิลปินไทย และฝูงปลาตัวเล็ก ๆ ที่วาดมือทั้งหมด มีจำนวนมากกว่า 300 ตัว และะใช้เวลาวาดยาวนานถึง 2 เดือน แต่เลือกใช้สีคอปเปอร์ และสัจจะวัสดุที่เลือกใช้ เพื่อเสริมความลักชูรีได้มากขึ้น แทนสีครามหรือสีน้ำเงินของน้ำทะเล แม้กระทั่งภาพปลาทูน่าที่เพ้นต์อยู่ในร้านทั้งหมดก็เปลี่ยนให้เป็นสีคอปเปอร์ด้วยเช่นกัน

จุดนำสายตาอีกอย่างหนึ่งคือเคาน์เตอร์ขนาดยาวที่วางอยู่ด้านในร้าน เปรียบดั่ง Open Kitchen ที่มีเชฟปรุงเมนูละจานกันให้เราเห็นแบบสด ๆ ไปเลย แทบทุกเมนูของร้าน โดยเฉพาะอาหารเย็น และเมนู Crudo จะถูกแล่ ปรุง และจัดจานกันที่เคาน์เตอร์นี้ทั้งหมด บางจานที่จำเป็นต้องปรุงกันในครัว ก็จะถูกนำมาจัดจาน และยกเสิร์ฟจากเคาน์เตอร์นี้เลย สร้างประสบการณ์ Casual Fine-Dining ที่ให้ความรู้สึกพิเศษในทุกจานที่เราสั่งได้ด้วย

แน่นอนว่าวัตถุดิบของทางร้านเองก็มาจาก Sicilian กันเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัตถุดิบขึ้นชื่อบางตัว อาทิ Sicilian Red Prawn นอกจากนี้ยังคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลกอีกกว่า 17 แห่ง เช่น หอยนางรมจากฝรั่งเศส หรือไข่หอยเม่นจากญี่ปุ่น เพื่อมอบประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุด และเมนูส่วนใหญ่ที่เป็น Raw Seafood จึงต้องสดและดีจริง ๆ


Seafood Salad (550 บาท) อีกหนึ่งจากคลาสสิกของทางอิตาลี ในจานจะเต็มไปด้วยมิกซ์ซีฟู้ด ทั้งล็อบสเตอร์ กุ้ง และหอยแมลงภู่ เชฟจะคุกก่อนนำไปหมักเอาไว้ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้เครื่ิองเทศซึมเข้าไปในเนื้อ และดึงรสชาติออกมามากขึ้น เราชอบที่ใส่มะกอกมาด้วย ช่วยเสริมรสเปรี้ยวและทำให้จานนี้สดชื่นขึ้นมาก

Vitello Tonnato (580 บาท) จานที่ไม่ใช่ซีฟู้ด แต่เป็นเนื้อลูกวัวที่ Sous Vide 1-2 วัน ท็อปด้วยใส่ซอสทูน่า เสิร์ฟพร้อมกับ Sicilian Capers และแตงกวาดอง

และอีกหนึ่งเมนูขายดีกับ Burrata (480 บาท) ที่ได้ความหวานจากมะเขือเทศสด ที่นี่จะไม่ได้ราดบัลซามิกมาให้นะ (แต่ก็อร่อยลงตัวแล้ว) แต่ถ้าต้องการบัลซามิกก็สามารถขอได้ โดยทางร้านจะมีบัลซามิกใส่ Olive oil มาให้ ซึ่งโอลีฟออยล์ที่นี่จะติดขมนิด ๆ ก็เข้ากับรสเปรี้ยวของบัลซามิกได้ดี

สำหรับ Main Course เราลองเป็น Rigatoni (700 บาท) ผัดกับมะเขือเทศ ออริกาโนสด ท็อปด้วยทูน่าดิบ ที่ใส่น้ำปลาอิตาลีอย่าง Colatura Di Alici รสเค็มคล้ายน้ำปลาบ้านเรา แต่จะหวานติดปลายนิด ๆ แม้ว่าพาสต้าจะยังไม่ใช่เส้นสด แต่ก็ต้องบอกว่าคุกมาแบบอัลเดนเต้ และกลิ่นของน้ำปลาจาง ๆ ก็ช่วยเสริมความทะเลได้ดีทีเดียว

ส่วนใครที่เจอแต่เมนูซีฟู้ดมาเยอะแล้ว อยากเปลี่ยนมาเป็นสายเนื้อบ้าง ทางร้านก็มีพร้อมเสิร์ฟเช่นกัน เราสั่ง Black Angus Beef Tenderloin (1,600 บาท) เทนเดอร์ลอยด์จากออสเตรเลีย เสิร์ฟคู่กับมันบด และเครื่องเคียงอย่างเห็ดโมเรล ที่กลิ่นเห็ดชัด มาพร้อมซอส Truffle Jus จะกินพร้อมซอส หรือกินเปล่า ๆ ก็ได้ เพราะเชฟจะโรย Sea Salted มาพร้อมแล้ว

แอบบอกว่าหากเงินพร้อม หรืออยากให้รางวัลกับตัวเองสักหน่อย ลองสั่ง Louis XIII มาจิบคู่กับเทนเดอร์ลอยด์สักแก้ว (หรือจะยกขวดเลยก็ได้ไม่ว่ากัน สนนราคาอยู่ที่ประมาณขวดละ 290,000++ บาท) ก็ต้องบอกว่าสวรรค์ลอยอยู่แล้วขอบแก้วนี่เอง
Louis XIII มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก ๆ หากสรุปง่าย ๆ แบรนด์นี้ริเริ่มโดย เรมี มาร์แตง โดยเริ่มเบลนด์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2364 ก่อนที่ลูกชายของเขาจะจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2417 เป็นการเบลนด์ eaux-de-vie ประมาณ 1,200 ตัว แล้วนำไปบ่มใน Tiercons ถังโอ๊กจากป่าลีมูแซง (Limousin) ก่อนบรรจุลงขวด (ที่แค่ขวดเปล่า บ้านเราก็ขายต่อกันที่ 4,000 – 5,000 บาทแล้ว)


ปิดท้ายด้วยของหวานยอดฮิตของร้านทั้ง Tiramisu (500 บาท) ที่แน่นอนว่ากินคู่กับ Louis XIII ก็ดีอีกแล้ว และ Pannacotta (450 บาท) ที่ใส่ลูกฟิกสดแทนเบอร์รี่หรือมะม่วง และโฮมเมดแยมที่ไม่หวานมาก และยังได้ความเปรี้ยวเล็ก ๆ ฝาดหน่อย ๆ ของลูกฟิกเข้ามาเสริมด้วย
หากใครยังไม่มีแพลนจะไปไหนช่วงเทศกาล หรือช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่ Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันนะ เพราะทางร้านเองก็เปิดให้บริการทุกวัน มาสตาร์ตดินเนอร์กันที่นี่ แล้วไปฉลองส่งท้ายปีกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งตรงข้ามก็สะดวกมาก ๆ
Ricci Italian Restaurant And Crudo Bar
เปิดทุกวัน เวลา 12:00 – 23:00 น.
ชั้น 1 ศูนย์การค้า Gaysorn Plaza
ราชประสงค์ ปทุมวัน
BTS ชิดลม | มีที่จอดรถ