หากพูดถึงร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพฯ ที่มีรสชาติแบบออริจินัล Punjab Grill (ปัญจาบ กริลล์) เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราจะคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเค้าเป็นเครือใหญ่ที่มาจากประเทศอินเดียเลย มีสาขากระจายตัวอยู่เยอะมาก ๆ ในประเทศอินเดีย ส่วนประเทศไทยเองก็ถือเป็นแห่งที่ 3 สำหรับสาขาต่างประเทศด้วย ทำให้เราแน่ใจว่า นี่แหละคือรสชาติแบบอินเดียแท้ ๆ
ย้อนทำความรู้จัก ปัญจาบ กริลล์ กันนิด จากชื่อก็พอเดาได้ว่าที่นี่นำเสนอรสชาติแบบรัฐปัญจาบแน่ ๆ ซึ่งเป็นรัฐดั้งเดิมทางเหนือของอินเดีย หากให้พูดง่าย ๆ เป็นรสชาติอาหารอินเดียแบบที่คนไทยค่อนข้างคุ้นลิ้นกันดี โดยการนำเสนอแต่ละเมนูจะออกมาในรูปแบบโมเดิร์นสมัยใหม่ หน้าตาสวยงาม และยังได้รับรางวัลที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินไกด์ถึง 3 ปีซ้อน
ร้านปัญจาบ กริลล์ ตั้งอยู่บนชั้น G ของโรงแรม Radisson Suites of Bangkok Sukhumvit ในซอยสุขุมวิท 13 บรรยากาศภายในร้านมีความหรูหรา ด้วยพื้นที่ที่โอ่โถง มีเครื่องแก้วจานชามที่จัดมาแบบรองรับการกินเป็นคอร์ส รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เก้าอี้เบาะนุ่ม คุมโทนด้วยไฟโทนสีวอร์ม ๆ ของร้าน ยิ่งทำให้โดยรวมดูพิเศษสมกับเป็นร้านแบบไฟน์ไดน์นิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ที่นี่แอบมีไวบ์สบาย ๆ ที่ให้เรามานั่งเอนจอยกับมื้ออร่อยแบบ Daily ได้ โดยไม่ต้องเกร็งมากนัก
แม้ว่าอาหารจะเปิดมาหลายปี (เปิดครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2559) แต่ที่นี่ก็คอยครีเอต Tasting Menu หรือคอร์สเมนูพิเศษ ที่ใช้เทคนิคใหม่ ๆ ออกมาให้เราลิ้มลองอยู่เสมอ โดยมีเชฟ Bharath S. Bhat (บารัธ บัต) เชฟมากฝีมือที่มีประสบการณ์มากกว่า 12 ปีในการสร้างสรรค์อาหารระดับมิชลินมาตรฐานทั่วโลก เป็นผู้รังสรรค์เมนูให้เราได้ชิม
ความพิเศษของ Tasting Menu ที่ ปัญจาบ กริลล์ จะมีคอร์สสำหรับมังสวิรัติด้วย แบ่งเป็น Non-vegetarian (1,999++) และ vegetarian (1,499++) ซึ่งดีไซน์ออกมาให้เป็นเมนูเดียวกัน มีรสชาติ หน้าตาที่ใกล้เคียงกัน ต่างกันที่วัตถุดิบเท่านั้น
ลองชิม Tasting Menu อาหารอินเดียสุดพิเศษที่ Punjab Grill
โดยในหนึ่งคอร์สจะมีทั้งหมด 6 เมนู ไล่เรียงลำดับความหนักเบาไปจนถึงเมนูของหวานในตอนท้าย ซึ่ง Routeen. เอง ได้ลองทั้ง 2 คอร์สเลย เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังถึงความพิเศษของแต่ละเมนูกัน
เริ่มที่ KHUMB CHAAT เมนูนี้จะได้เหมือนกันไม่ว่าจะเลือกคอร์ส เนื้อสัตว์หรือมังสวิรัติ เป็นเห็ดสับชิ้นเล็ก ๆ คลุกเคล้ากับชัทนีย์ เสิร์ฟพร้อมครีมเห็ดทรัฟเฟิลเนื้อเนียน ท็อปด้วยเห็ดเข็มทองกรอบ ๆ และแผ่นแป้งคาคาร่ามะเขือเทศ แอบมีรสเผ็ดนิด ๆ เรียกน้ำย่อยได้ดี
ถัดมา ในคอร์สมังสวิรัติจะเสิร์ฟเป็น LESHUNI AUR LAL MIRCH GOBHI ดอกกะหล่ำหมักเครื่องเทศ รสเผ็ดขึ้นมากว่าจานแรก และฝั่งเนื้อสัตว์เป็น LESHUNI AUR LAL MIRCH JHEENGA กุ้งลายเสือตัวใหญ่ ๆ เครื่องเทศคล้าย ๆ กันแต่เผ็ดน้อยกว่าดอกกะหล่ำเล็กน้อย มาแบบผ่านกลางกินง่าย เนื้อเด้งดี ทั้ง 2 จานมีโฟมมะพร้าวเสิร์ฟมาด้วย เพิ่มความมัน ๆ นัว ๆ ตัดรสเครื่องเทศได้ดีเลย
ไล่เรียงความมเข้มข้นขึ้นมาอีกระดับ เป็นซอสหมักรสเผ็ดสไตล์รัฐกัวในอินเดียมาพร้อมซอสแครนเบอร์รี่ชัทนีย์รสเปรี้ยวแบบผลไม้ ฝั่งมังสวิรัติเสิร์ฟเป็น PANEER CAFREAL ชีสขึ้นชื่อของอินเดียเสิร์ฟมาแบบร้อน ๆ ถูกใจคนรักชีสแบบสุด ๆ ส่วนฝั่งเนื้อสัตว์เป็น GALINHA CAFREAL สะโพกไก่หมักเนื้อนุ่ม เนื้อฉ่ำ ไม่แห้งกระด้างเลย
ก่อนจะเข้าเมนูจานหลัก ทั้ง 2 คอร์สจะมีการเสิร์ฟ NIMBU PUDINA SODA น้ำมะนาวและสะระแหน่ปรุงรสด้วยเกลือดำ เสิร์ฟมาแบบโฟมสวย ๆ นุ่มปาก มีความเปรี้ยวนิด ๆ ช่วยเบรกรสหนักที่ผ่านมาได้ดีทีเดียว
เข้าสู่เมนูที่น่าจะเป็นจานหลักของมื้อ ฝั่งมังสวิรัติเป็น RAHRRA SOYA CHAAMP เนื้อถั่วเหลืองตุ๋นในน้ำเกรวี่โยเกิร์ต ด้านล่างเป็นถั่วเหลืองสับปรุงด้วยเครื่องเทศ ส่วนฝั่งเนื้อสัตว์เป็น RAHRRA CHAAMP ซี่โครงแกะนิวซีแลนด์ และเนื้อบดกับเครื่องเทศ รสชาติเข้มข้น ทั้งคู่เสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นแป้ง warqi paratha อิ่มแน่นอน
ปิดจบคอร์สด้วยเมนูของหวานเป็น GULABI RABDI GHEVAR หรือ Kulfi ของหวานดั้งเดิมจากอินเดียคล้าย ๆ ไอศกรีมรสนมกุหลาบ ท็อปด้วยรังผึ้งแป้งหวานกรุบ ๆ ตอนเสิร์ฟจะมีลูกเล่นเล็กน้อย โดยจะมีการบีบกลีบกุหลาบแห้งที่นำไปแช่ไนโตรเจนจนแข็ง เพิ่มความตื่นตาตื่นใจก่อนจบคอร์ส
เมนู A la carte ก็ห้ามพลาด
นอกจาก Tasting Menu ยังมีเมนู A la carte ที่ห้ามพลาดอีกหลายเมนู ทั้งข้าวหมก Biryani เมนูข้าวที่มาแบบไซซ์ใหญ่ จานนี้แบ่งได้ 4-5 ที่เลยทีเดียว เป็นข้าวหมกที่เครื่องเทศไม่ฉุนมาก มีเครื่องเคียงเป็นโยเกิร์ต ให้คลุกเคล้าเพิ่มมิติรส กินเพลิน
อีกเมนูที่เราเลือก (และพลาดไม่ได้ถ้ามาที่ปัญจาบ กริลล์) คือแกงไก่ Butter Chicken รสนุ่มนวล ไม่เผ็ดมาก เครื่องเทศไม่จัด ทำให้กินได้เรื่อย ๆ มีไก่ชิ้นเล็ก ๆ เนื้อนุ่มดี เมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งนานรสเนยกระเทียมหอม ๆ แผ่นโต
จบด้วยจานใหญ่ (เกินคาด) อย่าง Platter ที่รวมหลากหลายเมนูไว้ในจานเดียว ในเซตมีทั้งไก่ กุ้ง และซี่โครงแกะหมักเครื่องเทศหอม ๆ เป็นจาน Sharing ที่เหมาะกับกลุ่มที่มากันหลาย ๆ คน
ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟหลากหลายประเภทจริงจังไม่แพ้อาหารเลย เราสั่งค็อกเทล 2 แก้ว และลองม็อกเทลอีกหนึ่งแก้ว เริ่มกันที่ IMLI PASSION INFUSION (275 บาท) เบสเป็นเตกีล่า มีรสเสาวรสเปรี้ยวอมฝาดและท็อปด้วยปานีปูรี ขนมของว่างยอดฮิตของอินเดีย
อีกแก้วเป็น NIKKI TE TIKHKHI (275 บาท) เบสเป็นวอดก้า แก้วนี้มีรสเผ็ดชัดเจนเพราะมีส่วนผสมของพริกเขียว ตัดด้วยรสเค็มนิด ๆ เปรี้ยวหน่อย ๆ แซ่บถูกใจคนไทยอย่างเรา
ส่วนม็อกเทลเป็น REJUVENATE (175 บาท) เป็นน้ำทับทิม วานิลลา มิ้นต์ และมะนาว มีความหวานหอมอมเปรี้ยว เหมาะกับการเป็นแก้วเรียกน้ำย่อย หรือตัดเลี่ยนได้ดีสุด ๆ
ด้วยบรรยากาศที่หรูหรา เมนูที่หลากหลาย และรสชาติที่เข้าใจง่าย ทำให้ ปัญจาบ กริลล์ เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารอินเดียที่มาทานแบบ Daily ก็ได้ หรือมาดื่มด่ำมื้อพิเศษ ในโอกาสพิเศษก็ไม่ผิดหวังเลยล่ะ
Punjab Grill (ปัญจาบ กริลล์)
วันจันทร์ – ศุกร์ 18:00 – 24:00 น. | วันเสาร์ – อาทิตย์ 12:00 – 15:00 น. และ 18:00 – 24:00 น.
ด้านหน้า Radisson Suites Bangkok Sukhumvit สุขุมวิท 13
BTS นานา/อโศก | มีที่จอดรถ
Google Maps