ใครจะไปคิดว่า ในซอยสุดพลุกพล่านย่านฝั่งธนฯ อย่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ที่ยาวไปถึงบางแวก ทะลุออกเพชรเกษมก็ได้ ไปราชพฤกษ์ก็ได้ จะมีบ้านไม้สองชั้น ที่ทุกวันอาทิตย์และจันทร์ จะส่งกลิ่นเครื่องแกงหอมอบอวลจากครัวสู่บ้านละแวกนี้ ที่หากดูเผิน ๆ อาจนึกว่าเป็นเพียงบ้านที่ทำอาหารกินกันในครอบครัวเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วที่นี่พร้อมเปิดประตูบ้านต้อนรับพวกเราแบบส่วนตัวให้ได้ลองชิมกับข้าวฝีมือแม่ แถมยังเป็น อาหารใต้ ฉบับชุมพรอีกด้วย กับ Pid-Ta (ปิดตา)


จริง ๆ แล้วเรียกว่าร้านอาหารก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะจริง ๆ แล้วที่นี่ก็เป็นบ้านอยู่อาศัยทั่วไปนี่แหละ และในบ้านหลังนี้ก็มี คุณต่วย – ธีฆา พุ่มภักดี อาศัยอยู่กับ แม่ตุ๊ คุณแม่ของเขา โดยคุณต่วยเองเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่ Club Sava กับ Modern Day Culture : Record Bar ด้วย ภูมิลำเนาของแม่ตุ๊และคุณต่วยเองมาจากภาคใต้ และก็สามารถป่าวประกาศอย่างภาคภูมิใจได้ว่า คุณแม่ตุ๊ทำอาหารอร่อยจนอยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ลองชิม

ซึ่งความพิเศษของ อาหารใต้ สูตรชุมพรของที่นี่คือรุ่มรวยทางรสชาติและวัตถุดิบมาก ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้ววัฒนธรรมการกินของคนใต้เองก็ค่อนข้างเป็นคนช่างเลือกอยู่แล้ว เนื่องด้วยชัยภูมิและที่ตั้งของภาคใต้ที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีวัตถุดิบที่ต้องการครบถ้วน

ทำให้ติดนิสัยในการเลือกใช้แต่ของดีมาเสมอ (สังเกตว่าทำไมอาหารใต้ถึงมีน้ำพริกรสจัดกินคู่กับผักสดเป็นกระจาด หรือปลาสด ๆ อยู่เสมอ) การมากินอาหารที่นี่จึงเรียกว่าเป็นการกินข้าวแบบ “รสชาติของบ้านหลังนี้” เรียกว่าปกติแล้วที่บ้านกินรสชาติแบบไหน ก็เสิร์ฟแบบนั้น

Pid-Ta เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้คุณต่วยไม่สามารถทำงานบาร์เทนเดอร์ได้ จึงเกิดโปรเจกต์ต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น หากไล่ดูใน Instagram ของ Pid-Ta จะเห็นว่าช่วงแรก ๆ มีทั้งขายชา เครื่องดื่ม ผลไม้อบแห้ง และอาหารจานที่ชอบทำ เมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ปกติ คุณต่วยจึงได้โอกาสกลับไปทำอาชีพเดิมอีกครั้ง แต่การกลับไปทำงานในครั้งนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อได้ทราบข่าวอาการป่วยของคุณแม่
“มาที่นี่เราอาจจะเห็นวัตถุดิบบางอย่างที่แปลกตา หรือส่วนประกอบที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากจานคุ้นเคย แต่ยังคงรสชาติแบบตำรับใต้อยู่เช่นเดิม เรียกว่าทุกจานที่นำมาเสิร์ฟให้เราได้ลองชิม คือจุดร่วมที่ลงตัวของแม่-ลูกคู่นี้”

“เราไม่รู้ว่าแม่เราจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ อยากให้คุณแม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเราในช่วงเวลาที่เหลืออยู่” นี่คือสิ่งที่ทำให้โปรเจ็กต์ Pid-Ta ถูกปัดฝุ่น และปรับเปลี่ยนมาเป็นร้าน อาหารใต้ เฉพาะกิจ ที่นอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารใต้ฉบับแม่ตุ๊แล้ว เรายังได้เห็นความสัมพันธ์อันอบอุ่นที่อบอวลอยู่ในบ้านหลังนี้ เป็นมวลรวมของบรรยากาศที่พิเศษ และหาไม่ได้ในร้านอาหารทั่วไป

ทางร้านจะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์และวันจันทร์เท่านั้น (เพราะวันอื่น ๆ คุณต่วยก็ยังต้องไปทำบาร์ตามปกติ) และเปิดเป็นรอบ ๆ เท่าที่คุณต่วยและแม่ตุ๊ทำไหว โดยที่นั่งจะถูกจัดไว้ที่บริเวณสวนข้างบ้าน ใกล้กับครัวที่อยู่หลังบ้าน มาพร้อมกับคอร์สอาหารที่เสิร์ฟถึง 12 อย่าง สำหรับ 4 คน (ประมาณคนละ 600-700 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) มาพร้อมกับข้าวสวยที่สามารถเติมได้ไม่อั้น สำหรับเราถือเป็นราคาที่คุ้มค่าสุด ๆ

แม้จะบอกว่าที่นี่เสิร์ฟ อาหารใต้ แท้ ๆ แต่ที่จริงแล้วอาหารของที่นี่เขามาในรูปแบบทวิสต์เล็ก ๆ จากการเจอกันของรสมือเดิมของคุณแม่ตุ๊ กับไอเดียใหม่ ๆ ของคุณต่วย (ที่เรียกว่าเป็นนิสัยของบาร์เทนเดอร์ที่ชอบมิกซ์อะไรใหม่ ๆ อยู่แล้วด้วย) อาจจะเห็นวัตถุดิบบางอย่างที่แปลกตา หรือส่วนประกอบที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากจานคุ้นเคย แต่ยังคงรสชาติแบบตำรับใต้อยู่เช่นเดิม เรียกว่าทุกจานที่นำมาเสิร์ฟให้เราได้ลองชิม คือจุดร่วมที่ลงตัวของแม่-ลูกคู่นี้





ต้มกะทิปลาสลิดทอด แกงกะทิข้น ๆ ใส่ไหลบัวที่เคี้ยวง่าย ไม่เหนียว กับปลาสลิดทอดที่รสเค็มนิด ๆ มาพร้อมพริกทุบหยาบ ๆ ที่ต้องบอกเลยว่าจัดจ้านแบบไม่ประนีประนอมแต่อย่างใด ลองเอาน้ำแกงราด ไข่ผัดใบเหลียง ก็เสริมความมันของใบเหลียงได้มากขึ้น


ต้มพะโล้ไข่เค็ม เมนูโปรดที่เปลี่ยนจากไข่เป็ดต้ม มาใช้ไข่เค็มแทน มาพร้อมเต้าหู้และเนื้อหมูที่ไม่เละและไม่แข็งจนเกินไป ตัวน้ำพะโล้จะออกหวาน ตัดกับความเค็มของไข่เค็มได้เป็นอย่างดี ผัดสะตอกุ้งปลาหมึก จานนี้ใส่กะปิที่ปรุงรสในแบบฉบับของแม่ตุ๊มาแล้วด้วย ได้รสเค็มนัว และกะปิไม่มีรสคาวเลย


ข้าวหอมมะลิยำ ทางร้านคลุกข้าวกับน้ำบูดูมาแล้ว ท็อปด้านบนด้วยผักสด ส้มแมนดาริน และกุ้งเสียบ ปลาทอดขมิ้น เป็นเครื่องข้าวยำที่ไม่คุ้นเคย แต่กินแล้วสดชื่นดีมาก ๆ ปิดท้ายด้วย ขนมกล้วยบวชชีมะพร้าว ที่แอบเติมมะพร้าวคั่วเข้ามาด้วย เสริมรสชาติและรสสัมผัสกรุบกรอบให้กับกล้วยบวชชีถ้วยนี้ได้มากขึ้น

แอบบอกว่าถ้าโชคดี เราอาจจะได้ลองชิมเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์อย่างคุณต่วยก็ได้ และอาหารทุกจานของที่นี่ไม่มีส่วนประกอบของผงชูรสนะ ส่วนถ้าใครคิดว่าเสิร์ฟถึง 12 อย่างจะกินหมดไหม หากกินไม่หมดก็สามารถห่อกลับบ้านได้นะ แล้วไปลอง อาหารใต้ ฉบับชุมพรในบ้านหลังอบอุ่น (อย่าลืมว่าต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะ) ที่ Pid-Ta กันได้เลย
Pid-Ta (ปิดตา)
เปิดทุกวันอาทิตย์ – จันทร์ เวลา 12:00 – 17:00 น. (เช็กเวลาทำการของทางร้านอีกครั้ง)
บุ๊กกิงล่วงหน้าที่ 092-226-9414
ซอยพาณิชยการธนบุรี 11 จรัญสนิทวงศ์
MRT จรัญ 13 แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ