[Routeen. Fukuoka] ทำไม วัด และ ศาลเจ้า ใน ฟุกุโอกะ 3 แห่งนี้ ถึงเป็นที่ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง?

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า จังหวัด Fukuoka (ฟุกุโอกะ) เป็นจังหวัดที่มีวัดและศาลเจ้ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ศรัทธาและต้องการขอพรกราบไหว้ จะแวะเวียนมายัง Fukuoka กันอย่างเนืองแน่นตลอดทั้งปี และไหน ๆ ที่นี่ก็เป็นอันดับที่ 3 ถ้าอย่างนั้น Routeen. ขอจัด Top 3 วัด และ ศาลเจ้า ที่ไม่ควรพลาด หากมีโอกาสมา Fukuoka กันสักหน่อย พร้อมเหตุผลเล็ก ๆ ว่า แล้วทำไมทริปของทุกคนจึงควรบรรจุ 3 วัดและศาลเจ้านี้เข้าไปด้วย!


Nanzo-in (วัดนันโซอิน)

หากพูดชื่อว่า วัดนันโซอิน บางคนอาจไม่คุ้นหู (เพราะจำชื่อวัดไม่ได้) แต่ถ้าบอกว่าเป็นวัดที่มีพระนอนขนาดใหญ่แล้วล่ะก็ หลายคนคงจะต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันที วัดนี้ตั้งอยู่ในเมือง Sasaguri (ซะซะกุริ) ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 1 จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 88 แห่งของเมืองเลย

Nanzo-in วัดนันโซอิน พระ ไดบุตสึ ฟุกุโอกะ เที่ยว ญี่ปุ่น

วัดแห่งนี้มีประวัติมายาวนานกว่า 180 ปีแล้ว ในอดีตแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่คนจะมาขอพร หรือมาสารภาพบาปกัน แต่ปัจจุบันตัววัดเอิงจะโด่งดังในเรื่องการมาขอโชคลาภเรื่องเงินทอง เรื่องเสี่ยงดวง และยังเป็นจุดเริ่มต้นในเส้นทางแสวงบุญของภูมิภาคคิวชูอีกด้วยนะ

เพราะเป็นที่ตั้งของพระนอนทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

จุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้น “พระใหญ่ไดบุตสึปางไยยาสน์” หรือองค์พระทองสัมฤทธิ์ท่านอนนั่นเอง ซึ่งนับเป็นองค์พระทองสัมฤทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และหนักกว่า 300 ตัน เรียกว่าหากจับพระองค์นี้ยืนขึ้น จะมีความสูงพอ ๆ กับเทพีเสรีภาพของอเมริกาเลยล่ะ!

Nanzo-in วัดนันโซอิน พระ ไดบุตสึ นอน ใหญ่ ฟุกุโอกะ เที่ยว ญี่ปุ่น

บริเวณมือขององค์พระ จะมีผ้าห้าสีพันรอบเอาไว้อยู่ แล้วถูกโนงลงมาศาลาไม้เล็ก ๆ เบื้องล่าง จุดนี้คือจุดขอพรกับองค์พระนั่นเอง เนื่องด้วยความใหญ่ที่เราอาจไม่ได้สามารถเข้าถึงได้ ผ้านี้จึงเปรียบดั่งจุดเชื่อมให้เราจับ ก็คล้ายว่าเราจะได้จับมือกับองค์พระและขอพรนั่นเอง ส่วนที่เชือกต้องมี 5 สีนั้น นั่นเพราะสีทั้ง 5 ของเชือกนั้น เชื่อว่าเป็นแสงที่พระพุทธเจ้ามองเห็นเมื่อครั้งตรัสรู้นั่นเอง

Nanzo-in วัดนันโซอิน พระ ไดบุตสึ นอน ใหญ่ ฟุกุโอกะ เที่ยว ญี่ปุ่น เท้า ลาย ยันต์

ถ้ามาแล้วก็อยากให้ถอยออกไปมองให้เห็นเต็มองค์ จะได้รับความอลังการใหญ่โตแบบสุด ๆ แล้วลองเดินไปที่บาทขององค์พระด้วย เพราะที่ฝ่าเท้าจะมีสลักลวดลายที่เรียกว่า “บุตโซขุ” เอาไว้ เป็นลายขอพรของศาสนาพุทธในยุคแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในอินเดีย การแวะมาที่วัดแห่งนี้แล้วได้เห็นองค์พระนอนของจริง ถือว่าคอมพลีตแล้วนะ

เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย และยังมีสะพานเมโลดีด้วย!

ไม่ใช่แค่องค์พระนอนใหญ่เท่านั้น แต่ที่วัดนี้ยังมีอาณาเขตกว้างมาก ๆ (แถมยังร่มรื่นด้วยเพราะอยู่ในป่าบนเขา) จึงมีอองค์พระต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่มากมาย ไฮไลต์เด่น ๆ น่าจะอยู่ที่ “รูปปั้นอจละ” และ “โอคุโนะอิน” พระเจ้าหน้าดุที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกับต้นไม้ต้นหนึ่งที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะวันหนึ่งเจ้าต้นไม้ต้นนี้ถูกฟ้าผ่าลงมาแบบเต็ม ๆ จนเนื้อไม้ข้างในกลวงโบ๋ แต่กลับไม่ล้ม คนที่นี่จึงเชื่อว่าต้นไม้นี้ช่วยปกปัก ดูดซับเอาสิ่งร้ายที่จะเกิดให้แล้ว และมีพระเจ้าอจละ ที่เป็นเทพปกป้องจากภัยพิบัติต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง

Nanzo-in วัด นันโซอิน พระเจ้า อจละ เที่ยว ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ Fukuoka
Nanzo-in วัด นันโซอิน เที่ยว ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ Fukuoka ศาลเจ้า

นอกจากนี้ยังมี “อุโมงค์ 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภ”  มีองค์พระเอบิสึ องค์ขาวและองค์ดำ ที่ใครต้องการของเรื่องเงินทอง และการทำธุรกิจ ต้องมากราบไหว้ และบูชาเครื่องรางกลับมาด้วย (เราก็จัดมาเรียบร้อยไม่พลาด)

Nanzo-in วัด นันโซอิน เที่ยว ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ Fukuoka สะพาน เมโลดี

อีกอย่างที่ชวนเพลิดเพลิน คือสะพานเล็ก ๆ ระหว่างที่เราเดินมาจากสถานีรถไฟ สู่ตัววัด มองเผิน ๆ เหมือนเป็นแค่สะพานโดยสารข้ามคลองธรรมดา ๆ แต่จริง ๆ แล้ว แผ่นเหล็กบริเวณซ้ายและขวาของทางเดินข้ามสะพาน มีความลับซ่อนอยู่ เราจะเจอไม้เคาะเล็ก ๆ เหน็บเอาไว้ที่หัวสะพานทั้ง 2 ฝั่ง หากเราหยิบมาเดินตีแผ่นเหล็กไปด้วย ก็จะกลายเป็นเพลงขึ้นมา! โดยทั้ง 2 ฝั่งจะมีคนละเพลงกัน เป็นเพลงเด็ก ๆ ของญี่ปุ่นอย่าง Furusato (ฟุรุซาโตะ) และ Medaga No Kakko (เมะดะกะ โนะ คักโค) นั่นเอง

Nanzo-in Temple

เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 16:30 น.
สถานี  Kidonanzoinmae แล้วเดินประมาณ 3 นาที | มีที่จอดรถ

google maps


Dazaifu Tenmangu (ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ)

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมือง Fukuoka ที่ต้องแวะเวียนมาด้วยตัวเอง ศาลเจ้าที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีจุดให้แวะชมความสวยงามและเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมมากมาย รวมถึงที่นี่ยังมีต้นบ๊วยเป็นจำนวนมาก ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนจะหลั่งไหลมายัง Dazaifu Tenmangu เพื่อชมความสวยงามเมื่อดอกบ๊วยบานนั่นเอง

Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ ปิด ซ่อม เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka

แต่สำหรับใครที่จะไป Dazaifu Tenmangu ในตอนนี้ คงต้องเผื่อใจไว้หน่อยนะ เพราะตัวศาลเจ้าหลักนั้นอยู่ในช่วงปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเริ่มปิดปรับปรุงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา และจะปิดซ่อมยาวไปอีก 4 ปี เปิดกันใหม่อีกครั้งใน พ.ศ. 2569 เลยนะ ถือเป็นการปิดปรับปรุงและซ่อมแซมครั้งใหญ่ในรอบ 124 ปีเลยล่ะ

เพราะมี “ป่าลอยน้ำ” บนหลังคาที่ต้องมาเห็นสักครั้ง

ถึงแม้อาคารศาลเจ้าจะปิดซ่อม (ใช่แล้ว เราเองก็ไม่ได้เห็น ฮือ) แต่จริง ๆ แล้วการแวะมา Dazaifu Tenmangu ของเราในครั้งนี้คือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างมาทอดแทนในช่วงศาลเจ้าหลัดปิดนี่แหละ เพราะพาศาลเจ้าหลักปิด ทางศลเจ้าจึงสร้างโถงสักการะชั่วคราวเอาไว้ด้านหน้าขึ้น ซึ่งความเท่ของอาคารนี้อยู่ที่ เขายกเอา “ป่า” ขึ้นไปไว้บนหลังคาได้อย่างน่าทึ่ง เป็นป่าขนาดย่อม ๆ ที่ไม่แค่มีต้นไม้เล็ก ๆ กับสนามหญ้าเท่านั้น แต่มีต้นไม้ใหญ่เล็ก เจริญเติบโตกันอย่างหนาแน่นบนหลังคานั้นเลย

Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka ป่าลอยน้ำ

งานนี้ได้สถาปนิกอย่าง Sou Fujimoto (โซ ฟุจิโมโต) มาออกแบบ ตัวหลังคาถูกวางให้มีความลาดเอียง มีเพียงแผ่นดินชั้นบาง ๆ เป็นหน้ากินของต้นไม้ทั้งหลาย และดูแลด้วยระบบน้ำ จึงเรียกได้ว่าเป็นป่าลอยน้ำที่น่าทึ่งและตื่นตามาก ๆ เลยล่ะ

เพราะเป็นศาลเจ้าที่ใครกำลังเรียนอยู่ต้องมา

ที่บอกแบบนี้เพราะสิ่งที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าที่นี่คือ Sugawara no michizane (สุกะวะระ โนะ มิจิซะเนะ) ท่านเป็นนักวิชาการและนักการเมือง รวมถึงยังเป็นนักเขียนที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาก ๆ ในช่วงปี ค.ศ. 800 – 900 แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยงามนัก เพราะด้วยความที่ฉลาดหลักแหลมจนเกินไป ถึงกระทั่งได้รับตำแหน่งมงโจฮากาเสะ ตำแหน่งสูงสุดสำหรับนักวิชาการในสมัยนั้น แต่ก็โดนคนอิจฉาและใส่ร้ายป้ายสี มอบความผิดให้แก่เขาที่ไม่ได้ก่อขึ้น จนตัวเองต้องถูกเนรเทศจากถิ่นฐานที่ Kyoto (เกียวโต) มาอยู่ที่เมือง Dazaifu แห่งนี้ จนจบชีวิตลงที่นี่นั่นเอง

Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka วัว ลูบ
Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka บรรยากาศ ฟุกุโอกะ

ด้วยความปราดเปรื่อง เขาจึงถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา ที่ใครกำลังจะขอเรื่องการเรียนต่าง ๆ ก้จะต้องเดินทางมาขอพร พร้อมซื้่อเครื่องรางไปบูชาเพิ่มเติม นอกจากนี้ ความศักดิ์สิทธิ์ของเขายังทำให้เกิดศาลเจ้า Tenmangu กระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นอีกกว่า 12,000 แห่ง แต่ที่นี่คือจุดเริ่มต้นนั่นเอง

เพราะมีถนนคนเดินสุดคึกคัก และ Starbucks สาขาที่สวยสะกดตั้งอยู่

เดินศาลเจ้าเสร็จแล้ว อย่าลืมออกมาเดินต่อกันที่ถนนคนเดินหน้าศาลเจ้า ที่เชื่อมระหว่างศาลเจ้าและสถานีรถไฟ กับ Dazaifu Monzen Machi (ดะไซฟุ มนเซ็น มะจิ) ถนนคนเดินระยะทางประมาณ 200 เมตร แต่มีร้านรวงมากมายให้เดินได้อย่างสนุกสนาน

Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka Umegae Mochi

มาถึงที่นี่ก็ต้องไม่พลาดที่จะชิม Umegae Mochi (อุเมะกะเอะ โมจิ) ด้วย โมจิเหนียวนุ่มที่หน้าตาอาจจะคล้ายขนมมันจู ข้างในเป็นไส้อังโกะ หรือถั่วแดงต้มใส่น้ำตาลแล้วเอามากวน รสชาติหอมหวานนิด ๆ รวมถึงแวะชิม Mentaiko Ozhazuke (เมนไทโกะ โอชะสุเกะ) กันด้วยนะ Routeen. เคยรวบรวม 8 อาหารที่น่าสนใจของ Fukuoka เอาไว้แล้ว นอกจาก 2 เมนูนี้ มีเมนูไหนน่าสนใจไม่แพ้กันบ้าง คลิกดูที่นี่ได้เลย

Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ เที่ยว ญี่ปุ่น Fukuoka starbucks

และก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks สาขา Dazaifu ด้วยนะ เพราะที่นี่มีงานตกแต่งร้านที่โดดเด่นมาก ๆ สถาปนิกผู้ออกแบบอย่าง Kuma Kengo (คุมะ เคนโงะ) เลือกใช้งานตกแต่งแบบ “คิกุมิ” หรือการนำไม้มาประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้ตัวยึด หรือตะปูใด ๆ แต่ใช้การสร้างรอยบาก ที่นำมาขัดกันได้ และยึดกันแน่นนั่นเอง

Dazaifu Tenmangu

เปิดทุกวัน 6:00 – 19:30 น.
สถานี Dazaifu แล้วเดินประมาณ 7 นาที | มีที่จอดรถ

Google maps


Dazaifu Tenmangu (ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ)

นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนอยากมาดูด้วยตาตัวเอง และเป็น 1 ใน 3 สถานที่นอกเหนือจาก Nanzoin Temple (วัดนันโซอิน) และศาลเจ้าแห่งเครื่องราง Dazaifu Tenmangu (ดะไซฟุ เทนมันกุ) และเพราะจังหวัด Fukuoka นั้นถือเป็นจังหวัดที่มีศาลเจ้ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามพลาดเยอะมาก ๆ

Miyajidake Shrine fukuoka ฟุกุโอกะ

ถึงอย่างนั้น ชื่อเสียงของ Miyajidake Shrine สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ก็อาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างหรือเป็นที่แบบ “ห้ามพลาด” อย่าง 2 สถานที่ที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ทั้ง ๆ ที่นี่ก็มีความพิเศษไม่แพ้กับอีก 2 แห่งเลย นั่นอาจเป็นเพราะที่ตั้งที่แยกออกมาจากทั้ง 2 แห่งก่อนนี้ที่สามารถเดินทางไปวันเดียวกันได้ แต่ Miyajidake Shrine จะฉีกออกมาอีกด้าน ทำให้หลายคนต้องตัดศาลเจ้านี้ออกไปจากแพลนอย่างเสียมิได้

เพราะเป็นศาลเจ้าที่มีวิวสวยสุดสตันต์

Miyajidake Shrine เป็นศาลเจ้าของศาสนานิกายชินโต ทั้งพื้นที่ของศาลเจ้าจะรวมด้วยศาลเจ้าอื่น ๆ อีก 8 แห่ง ที่สามารถขอพรได้แตกต่างกันออกไป ศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นจากโฆษณาของสายการบิน Japan Airlines (JAL) ที่นำเอา 5 หนุ่มวง Arashi (อาราชิ) ในยุคที่กำลังดังเป็นพลุแตกไปทั่วเกาะญี่ปุ่น (ตอนนี้อาราชิไม่มีแล้วนะ แง้) มาเป็นพรัเซนเตอร์ชักชวนให้ทุกคนมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น และหนึ่งในสถานที่ที่ทาง JAL เลือก ก็คือศาลเจ้าแห่งนี้ ที่ชวนต้องมนตร์ด้วยภาพบันไดสูง ที่มีเสาโทริอิอยู่เป็นระยะ โดยบันไดนี้ถูกเชื่อมต่อไปยังถนนสัญจร ที่ทอดยาวไปยังทะเลเบื้องหน้า โดยที่มีอวงอาทิตย์สาดแสงสีสองขณะกำลังจะลับขอบฟ้า ลงตรงเป็นเส้นระนาบเดียวกัน เป็นวิวสุดสตันท์ที่กลายเป็นภาพจำของที่นี่ไปแล้ว

Miyajidake Shrine Fukuoka Japan เที่ยว ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ

สำหรับเราที่แม้จะไม่ได้แวะมาในช่วงเย็นเพื่อมาดุภาพดวงอาทิตย์ตกอย่างที่ใครต่อใครร่ำลือ แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อมาเห็นของจริงแล้วก็รู้สึกตรงปกเป็นอย่างมาก เพราะวิวที่เราได้เห็นด้วยตาเนื้อเป็นอย่างที่เห้นในภาพโฆษณาจริง ๆ จนคิดเสียดายว่าหากมาตอนอาิทตย์ตกน่าจะฟินกว่านี้แน่ ๆ

Miyajidake Shrine sunset อาทิตย์ ตก มุม ถ่ายรูป เที่ยว ญี่ปุ่น

แอบบอกเคล็ดลับว่า หากอยากเห็นอาทิตย์ตรงแบบเป็นเส้นตรงกับถนนและบันไดขึ้นศาลเจ้าแล้วล่ะก็ ต้องลองมาในช่วงประมาณวันที่ 20 ของเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนตุลาคมดู อาจจะได้เห็นปรากฎการณ์แบบเดียวกับ “แมนฮัตตันเฮนจ์” ในนิวยอร์กนะ

เพราะมีเชือก Shimenawa (ชิเมะนะวะ) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

นอกจากวิวสุดยอดนี้ ศาลเจ้านี้ยังมี “สามสิ่งที่เป็นที่สุด” บรรจุเอาไว้อยู่อีก ได้แก่ Shimenawa (ชิเมะนะวะ) หรือเชือกฟางที่เราเห็นแขวนไว้บริเวณหน้าศาลเจ้า ที่นี่นับว่าเป็นศาลเจ้าที่มีเชือก Shimenawa ขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และมีน้ำหนักมากถึง 3 ตัน หากลองเงยหน้าขึ้นไปมองที่ปลายเชือกที่ถูกตัดห้อยไว้ จะเจอเหรียญ 1 เยนเสียบอยู่เอาไว้มากมายเต็มไปหมด เป้นการขอพรอีกอย่างหนึ่งนอกจากการโยนเหรียญ 5 เยนลงในกล่อง จะว่าไปก็คล้ายกับการโยนเหรียญลงบ่อน้ำขอพรในวัดบ้านเราอยู่เหมือนกัน

Miyajidake Shrine fukuoka ฟุกุโอกะ Shimenawa (ชิเมะนะวะ)
Miyajidake Shrine fukuoka ฟุกุโอกะ Shimenawa ขอพร สวดมนต์

รวมถึงยังมี “กลองไทโกะ” และ “ระฆังใหญ่” ซึ่งถือเป็น 3 ความใหญ่ที่มีที่นี่ หากใครมีโอกาสมาแล้วก็อย่าลืมตามหาทั้ง 3 สิ่งนี้ให้ครบกันนะ

Miyajidake Shrine

เปิดทุกวัน 09:00 – 17:00 น.
นั่งรถไฟสาย Kagoshima ลงสถานี Fukuma จากนั้นต่อรถเมล์สาย 1-1 เพื่อไปยังศาลเจ้า

Google maps