เราได้พบกับงานกิจกรรมที่สายกินจะต้องตาลุกวาว และสายดื่มจะต้องถูกใจไม่น้อย กับงาน ‘Make Time for the Life Artois & Sauce’ ที่ The Stella Artois (เดอะ สเตลล่า อาร์ทัว) แบรนด์เครื่องดื่มสัญชาติเบลเยียม ร่วมกับ Sauce เรื่องราวกินได้ จัดซีรีส์คอนเทนต์ สัมผัสรสชาติของเมนูสุดพิเศษ กับเรื่องราวของ 7 เมนู จาก 7 เชฟ 7 ร้านอาหารชื่อดัง ที่จะมาจับคู่กับสุดยอดเบียร์พรีเมียมจากเบลเยียม ซึ่งครั้งนี้เราได้ลิ้มลอง เป็น EP.3 โดย เชฟอ๊อฟ – ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ ดีกรีเชฟกระทะเหล็ก
กิจกรรมในซีรีส์นี้ นอกจากจะนำ 7 เชฟ มารังสรรค์เมนูสุดพิเศษแล้ว ยังจัดกิจกรรมให้ผู้ที่สนใจ ได้ร่วมสนุกลุ้นเป็นผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมงาน Make Time for the Life Artois & Sauce เพื่อได้กินเมนูพิเศษนี้ก่อนใคร และได้ยัง Voucher กลับบ้านอีกด้วย
ซึ่งภายในงานจะมี Exclusive Talk Session จากเชฟอ๊อฟ ที่จะมาเล่าเรื่องราวเบื้องหลังแรงบันดาลใจ กว่าจะกลายมาเป็นเมนูพิเศษที่ลงจาน ให้เราได้ดื่มด่ำในรสชาติของอาหารที่ถูกคิดค้นมาเป็นอย่างดี และมีเครื่องดื่มที่เข้าคู่กันอย่างสุดยอดเบียร์จากเบลเยียม Stella Artois อีกด้วย เรียกว่าทั้งได้กินอาหารอร่อย เครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม และใกล้ชิดกับเชฟชื่อดัง
โดยใน EP. นี้เป็นคิวของ เชฟอ๊อฟ – ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ แชมป์จากรายการ ‘เชฟกระทะเหล็ก The Next Iron Chef Thailand 2019’ มารังสรรค์ 2 เมนูสุดพิเศษ ในร้าน Red Nikkei Bar ซึ่งเป็นเมนูสไตล์ Nikkei ( นิเคอิ) Cuisine ที่อาจจะยังไม่คุ้นหู แต่ถูกปากคนไทยแน่นอน
ขอเล่าก่อนว่า เมนูอาหารสไตล์ นิเคอิ คืออาหารญี่ปุ่นในสไตล์เปรู เกิดจากคนญี่ปุ่นที่อพยพไปยังประเทศเปรูช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ลองทำอาหารญี่ปุ่นด้วยการปรับใช้เทคนิคและวัตถุดิบแบบเปรู เกิดเป็นวัฒนธรรมอาหารเก่าแก่และส่งต่อเรื่อยมา
เชฟอ๊อฟ เลือกนำเสนอ 2 เมนู ที่เกิดจากการทวิสต์ผสานเทคนิคการปรุงวัตถุดิบคุณภาพ และแน่นอนว่าต้อง Paring เข้ากับเครื่องดื่มลาเกอร์ได้ดี มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน ซึ่งทั้ง 2 เมนูพิเศษ จะเปิดให้ลิ้มลองที่ร้าน Red Nikkei Bar เพียง 1 เดือนเท่านั้นนะ
เริ่มจาก Tuna Tartare Crème Brûlée เมนูทูน่าทาร์ทาร์ ที่เชฟตั้งใจครีเอตให้มีความคอนทราสต์ของรสชาติ ด้วยทูน่าที่มีความมันใส่ในเสาวรสเพิ่มรสและกลิ่นให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ผสมผสานกับยูซุโคโชที่มีความเผ็ดนิด ๆ เชื่อมรสชาติด้วยไข่แดงที่นำไปทำเป็นเครมบูเร่ด้านบนมีความครีมมี่ เมนูนี้ดูผิวเผินเหมือนขนม แต่ซ่อนความอร่อยอัดแน่นไว้ด้านใน เข้ากับความนุ่มของฟองละมุนจากลาเกอร์ได้อย่างลงตัว
อีกเมนูเป็น Olive Fed Wagyu เนื้อวากิวเกรดพรีเมียม จากวัววากิวที่ถูกเลี้ยงด้วยมะกอกดำ แรปด้วยเครื่องเทศของเปรูที่เอามาคั่วให้ไหม้ก่อนนำไปย่างด้วยเตาถ่านจนได้สีสวย และเพิ่มรสสัมผัส หั่นออกมาพอดีคำ จะเห็นว่ามีความคอนทราสต์ สีเนื้อของบน-ล่างเป็นสีเข้มจากเครื่องเทศ และตรงกลางเป็นสีชมพู เป็นระดับเนื้อที่ Perfectly สุด ๆ จับคู่กับลาเกอร์ก็ยิ่งช่วยเติมเต็มรสชาติได้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
สำหรับ EP. ต่อไปของซีรีส์ Make Time for the Life Artois & Sauce จะเป็นเชฟท่านใด และที่ไหน หรือใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ความเป็นที่หนึ่งในสุนทรียภาพของการใช้ชีวิตตามแบบฉบับของ เดอะ สเตลล่า อาร์ทัว รอติดตามได้ที่ The Stella Artois และ Sauce เรื่องราวกินได้ ติดตามกิจกรรมพิเศษและเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาเซอร์ไพรส์เป็นประจำอย่างแน่นอน
Red Nikkei Bar
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 17:00 – 00:00 น.
ซอยย่อย สุขุมวิท 36
BTS ทองหล่อ (เดินต่ออีก 800 ม.) | มีที่จอดรถ (หน้าร้าน, ริมถนน)
Google Maps