นึกถึงทะเลใต้ จะต้องมี ‘กระบี่’ ติดอยู่ในลิสต์ที่ต้องไป เพราะทั้งน้ำทะเลใส มีเกาะสวย ๆ ให้แวะ และมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย และยังว่ากันว่า ‘เที่ยวกระบี่ เที่ยวได้ทุกฤดู’ ซึ่งหลังจากเราได้รู้ข่าวดีว่านกแอร์ ได้กลับมาเปิดเที่ยวบิน ดอนเมือง-กระบี่ เราเองก็ไม่พลาด จองไฟลต์มาเที่ยวกระบี่ให้หายคิดถึง! ทริปนี้เราได้ เที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน กันแบบจุใจ ทั้งนั่งเรือทัวร์เกาะ ปีนผา พายคายัคลอดถ้ำ นวดสปา ไปจนถึงสายมู สักการะพญานาคน้ำเค็ม ใครที่กำลังแพลนเที่ยวกระบี่ ตามเราได้เลย
เดินทางไปกระบี่กับ Nok Air
อัปเดตข่าวสายเที่ยวสักนิด เดินทางไปกระบี่คราวนี้ จองไฟลท์กับนกแอร์ได้แล้ว เพราะนกแอร์เปิดตัวเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – กระบี่ พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
ต้องบอกว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทางใหม่ซะทีเดียว เพราะนกแอร์เคยเปิดเส้นทางนี้แล้วเมื่อหลายปีก่อน สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยากให้นกแอร์กลับมาเปิดเส้นทางบินตรงสู่กระบี่อีกครั้ง ตอนนี้เค้ารีเทิร์น กลับมาเปิดให้บริการแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (DMK) ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ (KBV) เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
เส้นทางบินนี้ ทางสายการบินนกแอร์จะให้บริการเที่ยวบินทุกวัน ด้วยเครื่องบิน Boeing 737-800 จำนวนที่นั่ง 189 ที่นั่ง สำหรับเที่ยวบินนกแอร์ดอนเมือง-กระบี่ สามารถสำรองที่นั่งได้แล้ว ผ่านทางเว็บไซต์ www.nokair.com หรือแอปพลิเคชัน Nok Air หรือ Call Center 1318
เที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน แบบครบรส
Day 1 ล่องเรือหัวโทง ชมเกาะยอดฮิตแบบติดแกลม
สำหรับวันแรก เราขึ้นเครื่องนกแอร์ Boeing 737-800 จากสนามบินดอนเมือง รอบ 09:30 น. ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบินกระบี่อย่างปลอดภัย แล้วมุ่งตรงไปที่ ท่าเรืออันดากระบี่ซีทัวร์ เพื่อจอยโปรแกรมล่องเรือ Luxury Longtail Boat
ใครชอบล่องเรือชมเกาะ ลองเปลี่ยนไวบ์จากเรือยอร์ชลำใหญ่ มาล่อง ‘เรือหัวโทง’ กัน จะได้ความรู้สึกถึงความคลาสสิก แต่สะดวกสบายไม่แพ้กัน และที่สำคัญได้ภาพสวย ๆ กลับไปเพียบ! เพราะเค้าจัดบริเวณหัวเรือให้เป็นจุดถ่ายรูป เตรียมหมอน ผ้า พร็อบดอกไม้ไว้ให้แบบพร้อมใช้ ไม่ต้องงมจัดเองให้เหนื่อย
โปรแกรม Krabi Vintage Luxury Longtail Boat จะพาเราไปทัวร์เกาะยอดฮิตอย่างเกาะห้อง และอีกหลายเกาะ โดยพิกัดแรกที่แวะ คือ เกาะห้องลากูน ซึ่งในวันที่เราไปเนี่ยลากูนอยู่ในช่วงน้ำลง เรือเลยไม่สามารถเข้าใกล้ได้ แต่จุดนี้เรือก็จะจอดลอยลำให้เราถ่ายรูปดื่มด่ำบรรยากาศกัน (แต่ถ้าใครอยากชมเกาะห้องลากูน สามารถพายแพดเดิลบอร์ดเข้าไปได้นะ)
จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง เกาะห้อง จุดนี้จะจอดให้เราลงไปชมความสวยงามกัน ใครอยากพักผ่อนริมชายหาด ทางเรือจะมีผ้าให้ไปปูนอนเล่นกันชิลล์ ๆ ส่วนใครสายลุย มาทั้งทีต้องขึ้นไปชมจุดชมวิวเกาะห้อง 360 องศา กับบันไดเหล็ก 419 ขั้น ที่เค้าบอกว่านี่คือหนึ่งเดียวในอันดามัน ขึ้นไปแล้วจะมองเห็นความสวยงามของเกาะห้อง และหมู่เกาะต่าง ๆ ในน่านน้ำของจังหวัดกระบี่และพังงา หายเหนื่อยเลยล่ะ
จากเกาะห้อง เราไปต่อกันที่ เกาะเหลาลาดิง เกาะที่มีความเงียบสงบ มีชายหาดโค้งเว้าสวยงาม และล้อมไปด้วยผาหิน พร้อมต้นมะพร้าวสูง ๆ เป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิต และเกาะนี้ยังสามารถดำน้ำดูปะการังที่หน้าหาดได้อีกด้วย
หลังจากไปสัมผัสความสวยงามของทะเลใต้ ลุยบันไดชมวิวสี่ร้อยกว่าขั้น เดินเล่นหาดทรายนุ่ม ๆ กลับขึ้นเรือมาต้องมีท้องร้องกันบ้าง ระหว่างเดินทางกลับ จะมีบริการอาหารที่จัดมาให้แน่นโต๊ะ มีทั้งบาร์บีคิวไก่และกุ้งซอสฉ่ำ ๆ สลัด ผลไม้ และเบเกอรี่
รายละเอียดโปรแกรม เช่าเรือลัคชัวรี่ ทัวร์เกาะห้อง ราคา 12,500 บาท (ราคานี้สำหรับลูกค้าจำนวน2ท่าน) ลูกค้าที่มาเพิ่มท่านต่อไปคิดเพิ่ม ผู้ใหญ่ท่านละ 1,500 บาท และ เด็ก อายุ 4 – 11 ปี ท่านละ 800 บาท ใครสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 096-651-1127 บริษัท อันดา กระบี่ ซีทัวร์ จำกัด รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.krabivintage.com/
หลังจากนั่งเรือกันทั้งวัน เข้าฝั่งแล้วเราเข้าตัวเมืองไปกินอาหารเย็นกันที่ ร้านเรือนทิพย์ สาขาคลองสน สวนอาหารบรรยากาศดี จัดเต็มอาหารใต้สุดหรอย ต้อนรับทริปประบี่ ใครมาแนะนำให้สั่งน้ำผลไม้ เพราะพรีเซนต์ออกมาได้จึ้งมาก เรียกว่าสร้างรอยยิ้มให้กับมื้อนี้เลย
อิ่มท้องกันแล้ว เรามุ่งหน้าไปยังตำบลอ่าวนาง เช็คอินเข้าที่พักกัน ทริปนี้เราพักกันที่ Deevana Krabi Resort เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวในอ่าวนาง ที่มีสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ท และมีห้องแบบ Pool Access ด้วยนะ เป็นที่พักที่ค่อนข้างใหญ่ สะดวก สามารถเดินไปสัมผัส Night Life ที่ถนนคนเดินอ่าวนางได้
Google Maps เส้นทางวันแรก : https://maps.app.goo.gl/38PZznkb5KCGXoCbA
Day 2 รวมกิจกรรมแอดเวนเจอร์ พายคายัค ปีนผา
หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่ วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการมุ่งหน้าไปยัง คลองยิงเสือ เพื่อขึ้นเรือหางยาว ประมาณ 15 นาทีไปยัง Tinidee Hideaway Tonsai Beach Krabi หาดต้นไทร เพื่อไปจอยกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ที่นี่เราจะใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ เลย
อุ่นเครื่องด้วยการ พายคายัค จากหาดต้นไทร ไปหาดถ้ำพระนาง (ระยะทางไม่ไกลเลย พายได้สบาย ๆ) จะมีจุดหวาดเสียวนิด ๆ คือพายเรือลอดถ้ำ เป็นระยะสั้น ๆ ไม่กี่อึดใจ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่พายนำทาง และคอยดูแลตลอดเส้นทาง
จากนั้นจะพายขึ้นเทียบหาดถ้ำพระนาง จอดเรือที่จุดนี้ แล้วเจ้าหน้าที่จะพาเดินเท้าขึ้นทางชันไป จุดชมวิวถ้ำค้างคาว มีไฮไลต์คือถ่ายภาพซิลลูเอทกับวิวทะเล มี 2 จุดให้ถ่ายรูปนะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรับบทเป็นช่างภาพถ่ายภาพสวย ๆ ให้ทุกคน ภาพออกมาเท่มาก ๆ
จากนั้นพายเรือคายัคกลับมาที่หาดต้นไทร แวะพักกินข้าวเที่ยวกันก่อนที่ห้องอาหารของ Tinidee แล้วไปลุยกันต่อกับกิจกรรม แอดเวนเจอร์ปีนผากับ โปรแกรมต้นไทรแอดเวนเจอร์ ซึ่งที่หาดต้นไทร จะมีทั้งผา Fire Wall และ Fire Cave เรียกว่าเป็น Destination ยอดฮิตของคนรักการปีนผาเลยล่ะ
สำหรับมือใหม่แบบเรา จะเป็นการเดินทางชันไปที่ Fire wall กัน ซึ่งจะมีความสูง 50-60 เมตร โดยเราจะได้ใส่อุปกรณ์เซฟตี้แบบนักปีนผามืออาชีพ ค่อย ๆ เดินไต่หินขึ้นไป จุดนี้จะทรหดนิด ๆ เพราะทางชันมาก ต้องใช้เทคนิคดึงเชือกพร้อมยกตัวให้ค่อย ๆ เดินขึ้นได้
กำลังใจในการเดินของเราคือจุดถ่ายรูป ที่จะมีเป็นช่วง ๆ ให้เราได้พักไปในตัว ที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์ของทริปนี้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยบรีฟท่าให้เราโพสต์ได้ราวกับนักปีนผามืออาชีพกันเลย มีทั้งจุดทิ้งตัวกับหน้าผา จุดที่กระโดดโพสต์ท่าแบบเท่ ๆ
มีบางช่วงที่ต้องลัดเลาะเข้าถ้ำ มุดถ้ำบ้าง บางจุดต้องมีการเดินไต่ผา ค่อย ๆ ขยับเซฟตี้เหมือนนักปีนผาจริง ๆ จุดนี้เสียวมาก! เพราะทั้งสูง ทั้งชน และต้องเดินไต่เหล็กเล็ก ๆ บนผา เป็นระยะทางสั้น ๆ ที่ตื่นเต้นมาก แต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยประกบ ดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอดนะไม่ต้องกลัว
รายละเอียดกิจกรรมแอดเวนเจอร์ หาดต้นไทร ขึ้นเรือที่ คลองยิงเสือ อ่าวนาง ไปหาดต้นไทร ค่าเรือไป-กลับ 200 บาท/ท่าน | กิจกรรมแอดเวนเจอร์ปีนผา โปรแกรมต้นไทรแอดเวนเจอร์ 1,000 บาท/ท่าน | กิจกรรมพายเรือไปถ้ำลอด ชมถ้ำค้างคาว 800 บาท/ท่าน
จบทริปแอดเวนเจอร์แล้วก็เย็นพอดี เราขึ้นเรือกลับมายังอ่าวนาง แล้วไปฝากท้องมื้อเย็นกันที่ สวนอาหารวังทรายซีฟู๊ด ร้านซีฟู้ดร้านเด็ดในอ่าวนาง และที่สำคัญติดทะเลด้วย นอกจากอาหารอร่อยแล้วเรายังได้ชมวิวสวย ๆ ของอ่าวนาง ให้มานั่งกินอาหาร พร้อมชมพระอาทิตย์ตกได้เลย
Google Maps วันที่ 2 : https://maps.app.goo.gl/H8EH6ZLpWEem2qjb9 และ https://maps.app.goo.gl/g7pNLowd1Ln5zHnL6
Day 3 นวดผ่อนคลาย และไปมูกับพญานาคลุ่มน้ำเค็ม
วันสุดท้ายสำหรับทริปกระบี่ เชื่อว่าต้องมีคนปวดขา ปวดแขนจากกิจกรรมเมื่อวานแหง ๆ เราก็เช่นกัน (ขำ) วันนี้เราเก็บกระเป๋าแล้วไปฮีลร่างกายที่เหนื่อยล้า ด้วยการนวดผ่อนคลายและแช่น้ำร้อน ที่ Wareerak Hot Spring and Wellness คลองท่อมเหนือ เมืองกระบี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
วารีรัก ฮ็อต สปริง แอนด์ เวลเนส เป็นรีสอร์ตน้ำพุร้อนธรรมชาติสไตล์ไทย ในอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ใจกลางธรรมชาติล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศผ่อนคลาย สบายใจมาก ๆ มีจุดเด่นคือน้ำจากน้ำพุร้อนของวารีรักมีลักษณะเป็น “Fluoride Containing Calcium Sulphate Bicarbonate Thermal Water” ซึ่งได้รับการรับรองจาก Institute Fresenius ว่าได้มาตรฐานเป็น “Natural Medicinal Water” ตามเกณฑ์ของ German Spa Association และ German Tourism Association
โปรแกรมผ่อนคลาย วารีรัก ฮ็อต สปริง แอนด์ เวลเนส มีเยอะมาก ๆ สามารถเลือกแพ็กเกจได้หลากหลาย อย่างเราได้ลอง โปรแกรมแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมนวดคอบ่าไหล่ โปรแกรมนี้จะให้เราเปลี่ยนชุด ล้างตัว แล้วเริ่มด้วยการขัดตัวก่อน (ขัดแล้วผิวนุ่มไปอีกหลายวัน ชอบมาก ๆ) จากนั้นจะให้เราลงแช่บ่อน้ำพุร้อน โดยเริ่มจากลงน้ำเย็น สลับไปน้ำอุ่น แล้วไปบ่อน้ำร้อน สลับไปสลับมาจนครบเวลา จากนั้นขึ้นจากบ่อไปนวดคอบ่าไหล่กันต่อ เป็นโปรแกรมที่ผ่อนคลายมาก ๆ
อีกหนึ่งโปรแกรมคือนวดแผนไทย (ฟินมาก) เป็นการนวดไทย โดยไม่ใช้น้ำมัน เน้นการนวดตัว นวดกดจุดและการคลายเส้น ให้ร่างกายกลับมามีพลัง สอบถามเพิ่มเติม โทร : 075 637130 หรือ อีเมล : [email protected] หรือ www.wareerak.co.th
หายเหนื่อยกันแล้ว เราปิดทริปกระบี่ ด้วยการไปกราบสักการะ องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช รูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ 3 องค์ ลักษณะหันหน้าออกทะเล ตั้งอยู่ลานด้านหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ในเมืองกระบี่เลย เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองที่สายมูห้ามพลาด
Fact : องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช จัดสร้างโดยนายก อบจ กระบี่ ตามที่นิมิตฝันเห็นว่าพื้นที่ตรง อบจ นี้มีน้ำท่วมไปหมด ต่อมามีร่างทรงแจ้งว่า ให้จัดสร้างองค์พญานาคเพื่อดูแลพื้นที่นี้ จึงได้จัดสร้างขึ้น และกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองกระบี่อีกแห่งหนึ่ง ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
ซึ่งชาวกระบี่เองก็ยังมีความเชื่อเรื่องพญานาค ลุ่มน้ำเค็ม มีตำนานเล่าขาน มีชื่อตามสถานที่จริง ได้แก่ เขาหงอนนาค แหลมหางนาค สะดือนาค วัดนาคาธรรมาราม ที่ประดิษฐานของทวดนาค หรือพญานาคสีน้ำเงินที่วัดแหลมสัก รวมถึง “ปู่ภุชงค์นาคราช ” แห่งนี้ ด้วย
ข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
จากนั้นมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติกระบี่ บินกลับกรุงเทพฯ กับ Nok Air เช่นเคย ต้องบอกว่าหลังจากนกแอร์เปิดเส้นทางบิน ดอนเมือง-กระบี่แล้ว บอกเลยว่าสะดวกมาก ๆ เที่ยวใต้ครั้งหน้า ลองแพลนทริปมากระบี่กัน บอกเลยว่ากระบี่ มีอะไรให้ทำเพียบ
Google Maps วันที่ 3 : https://maps.app.goo.gl/qXH7dq87m8swZnRZA
เที่ยวกับ Routeen. ยังมีอีกหลายทริปนะ
- เที่ยวพิษณุโลก เก็บทริปสายมู ไหว้พระ ขอพร 5 แห่ง ครบทุกศาสตร์
- สายมูต้องมา! กับ 8 วัด ใน เชียงคาน ที่ศักดิ์สิทธิ์แบบขอเรื่องไหน ได้เรื่องนั้น!
- แชร์ Route ที่เที่ยวเขาค้อ ฉบับ 1 Day Trip วันเดียวก็เที่ยวได้ ไปฮีลใจกับธรรมชาติ และไหว้พระแบบสายมูกัน!
- ฮีลกาย รีทรีตใจ ไปกับ Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas เขาหลัก พังงา รีสอร์ตแบบ Beachfront ที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรม มีอะไรให้ทำทั้งวันจนไม่ต้องออกไปไหน
- รวมกิจกรรมน่าทำย่าน ประตูท่าแพ แลนด์มาร์คเชียงใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ถ่ายรูปกับนกพิราบบิน อัปเดต 2024