หลังจากที่ Routeen. พาไปทัวร์ทุกร้านบนอาณาจักรรูฟท็อปแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ อย่าง EA Rooftop At The Empire และเจาะลึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง Nobu Bangkok มาก่อนแล้ว (อ่านฉบับเต็มของ Nobu Bangkok ได้ที่นี่) ถึงเวลาไปลองอาหารจีนกันบ้าง และที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นร้านของเชฟมากฝีมือระดับมิชลินสตาร์จากฮ่องกงอย่าง Vicky Cheng (วิคกี้ เชง) กับ K By Vicky Cheng ที่ัชั้น 56 อาคารเอมไพร์ ทาวเวอร์


แม้จะเป็นร้านอาหารจีน แต่งานตกแต่งก็ยังผสมผสานความโมเดิร์นร่วมสมัย และความเป็นจีนอย่างที่เราคุ้นเคยเข้ามา ให้ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป แบ่งออกเป็นพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบเราด้วยกระจกใสโชว์วิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามาให้เราให้เทคกันเต็ม ๆ ตา จะมาช่วงมื้อกลางวัน หรือมื้อค่ำ ก็ได้ยรรยากาศที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีห้องแบบส่วนตัวถึง 4 ห้องรองรับอีกด้วย

แรงบันดาลใจของร้านได้มาจาก “กิเลน” สัตว์ในตำนานตามความเชื่อของจีน (ที่ยังพ้องกับชื่อร้านและชื่อเชฟอย่าง K ที่เป็นตัวอักษรขึ้นต้นของ Kirin ด้วย) แต่ทางร้านไม่ได้หยิบเอาความเป็นกิเลนมาใส่แบบโต้ง ๆ เลือกถ่ายทอดผ่านลวดลายต่าง ๆ เมื่อกิเลนเดินทางผ่าน

เราจึงจะได้เห็นลวดลายสีทองแปลกตาอยู่บนผนัง ที่แทนการเคลื่อนที่ของกิเลน หรืองานดีไซน์โคมไฟบนเพดานที่คล้ายกับก้อนเมฆพริ้วไหวเมื่อกิเลนว่ายผ่าน ไปจนถึงหมอนอิงบริเวณที่นั่งที่ออกแบบคล้ายเกล็ดผิวหนัง ซึ่งแทนเกล็ดของกิเลน และแต่งเติมในส่วนต่าง ๆ ของร้านทั้งหมด และยังคงเลือกใช้สีทองและแดงมาแต่งแต้มเพื่อความเป็นมงคลในแบบจีนอยู่


อย่างที่กล่าวไว้ ชื่อร้านอย่าง K By Vicky Cheng เองก็มาจากตัวอักษรหนึ่งของชื่อ “วิคกี้” ของเขา ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ร้านเป็นภาพสะท้อนของตัวเชฟ เหมือนกับร้าน Wing ร้านระดับมิชลินที่ฮ่องกงของเขาก็ตั้งมาจากชื่อจีนของเขาเอง ที่หมายถึง “นิรันดร”

ที่นี่พร้อมนำเสนออาหารกวางตุ้งในรูปแบบแต่จิ๋ว เพิ่มเติมไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้แต่ละเมนูดูพิเศษมากขึ้น เรียกว่าเป็นการตีความอาหารจีนที่บางเมนูเราก็เคยคุ้นกันดี ให้หรูหราและร่วมสมัยยิ่งขึ้น หลังจากที่เปิดตัว K By Vicky Cheng ทางร้านยังมีเมนูไม่มากนัก แต่ปัจจุบันเรียกว่าเพิ่มเมนูใหม่ ๆ มาให้เราได้ลองชิมกันแบบแน่น ๆ และครบทุกประเภทอาหาร ทั้งผัด ทอด ตุ๋น ต้ม นิ่ง และของหวาน Routeen. จึงขอลองเมนูใหม่กันแบบจัดเต็มสักหน่อย


เริ่มด้วย Appetizer กันทั้งเมนูเรียกน้ำย่อยแบบร้อนและเย็น เริ่มด้วยแบบเย็นกับ Smoked and Marinated Egg with Oscietra Caviar (480 บาท) ไข่ต้มที่นำไปแช่กับซีอิ๊ว และรมควัน ผ่าครึ่งให้เห็นการต้มแบบไข่แดงยังเป็นยางมะตูมดูเพอร์เฟค แล้วท็อปด้วยคาเวียร์เพิ่มรสชาติมากขึ้น
“ที่นี่พร้อมนำเสนออาหารกวางตุ้งในรูปแบบแต่จิ๋ว เพิ่มเติมไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้แต่ละเมนูดูพิเศษมากขึ้น เรียกว่าเป็นการตีความอาหารจีนที่บางเมนูเราก็เคยคุ้นกันดี ให้หรูหราและร่วมสมัยยิ่งขึ้น”

อีกจานกับ Chiu Chow Style Raw Ama Ebi (880 บาท) กุ้งหวานที่นำมาดองในสไตล์แต้จิ๋ว รสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจนเกินไปจนสามารถกินเปล่า ๆ ได้ และเข้ากับความหวานของกุ้งได้ดี

ส่วนจานร้อนเราลองเป็นติ่มซำอย่าง Glutinous Rice Black Pepper Beef Dumpling Ham Sui Gok (380 บาท) ฮั่มสุยก๊อเนื้อพริกไทยดำ ตัวแป้งเหนียวหนึบคล้ายโมจิ แต่แป้งไม่หนามาก กับไส้เนื้อรสเข้มที่เข้ากับแป้งเป็นอย่างดี

และ Crispy Fried Taro Smoked Duck Dumpling (380 บาท) เผือกทอดเนื้อหวานฟู กับไส้เป็ดรมควัน แอบบอกว่าเมนูติ่มซำที่นี่ทำใหม่ ๆ สด ๆ ไม่ใช่แช่แข็ง โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านติ่มซำ

เคลียร์ช่องปากด้วยซุปร้อน ๆ ก่อนเข้าสู่จานหลักกันด้วย Coconut Chicken Soup (380 บาท) ซุปไก่รสกลมกล่อมที่เติมความหวานด้วยน้ำมะพร้าว และเนื้อมะพร้าวหั่นชิ้นลงไปด้วย


ก่อนเข้าสู่จานหลักอย่าง K’s Signature Mud Crab with Chinese Olive Leaf and Garlic (2,880 บาท) ปูทะเลเนื้อตัวใหญ่ นำมาผัดกับใบหนำเลียบและกระเทียมสูตรเฉพาะของทางร้าน ปูสดและเนื้อแน่น หวาน ทอดมาเนื้อไม่แห้งจนเกินไป เราชอบตรงที่ใส่เครื่องมาแน่นมาก ๆ แกะเนื้อปูรอไว้ แล้วเอามาคลุกข้าว ใส่เครื่องเข้าไปเยอะ ๆ คนรักกระเทียมอย่างเราฟินสุด ๆ เลยล่ะ

ต่อกันที่ซีฟู้ดอีกจานกับ Eggplant Claypot with Fish Maw, Minced Pork and Salted Fish (1,580 บาท) มะเขือม่วงอบหม้อดิน ใส่ใส่กระเพาะปลา หมูสับ และปลาเค็มเสริมรสให้มีมิติมากขึ้น


ก่อนไปต่อที่ Wenchang Chicken with Scallion Soy Sauce (980 บาท) ไก่ไหหนานเหวินชางนึ่งซอส ทางร้านใช้ไก่ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน นำมาผัดกับหอมแดง ต้นหอม ซอสถั่วเหลือง เนื้อไก่ชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง และซอสก็รสนวล ๆ กินเปล่าก็ได้ กินกับข้าวก็ลงตัว



ปิดท้ายด้วยของหวานกับ Double Boiled Bird’s Nest with Chilled Coconut (780 บาท) รังนกพานาคอตตา ที่เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว รองฐานด้วยน้ำแข็งเกล็ดให้พานาคอตตาเย็นอยู่ตลอดเวลา เปฌ็นการปิดท้ายที่ชื่นใจดีมาก ๆ


นอกจากอาหารจีนแล้ว ที่ K By Vicky Cheng ยังมี Tea Bar ให้เราได้มาจิบชาจีนกันแบบ Specialty กันด้วย ที่นี่จะมี Tea Master คอยชงชาและพูดคุย พร้อมสร้างประสบการณ์การดื่มชาจีนให้กับเรา

อย่างวันที่เราไปเราเลือกลองเป็นชาอู่หลง Phoenix Danzhong (เฟิ่นห่วนตันจง) ที่ให้กลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้ เราจะได้เห็นขั้นตอนการชงชา และลองจิบชาแต่ละน้ำ ที่ให้รสชาติ กลิ่น และรสสัมผัสที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ช่วงกลางวันยังมี Lunch Set ให้ได้สั่งกันด้วย (แน่นอนว่า Routeen. จะพามาชิมเซ็ตมื้อกลางวันกันเร็ว ๆ นี้แน่นอน) สำหรับเรา K By Vicky Cheng เป็นร้านที่จะเข้ามายกระดับอาหารจีนในบ้านเราได้ไม่ยาก ทั้งบรรยากาศ จานอาหาร และความประณีต เหมาะทั้งมากับคนรัก มากับครอบครัว หรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ได้ทุกวัน
K By Vicky Cheng
เปิดทุกวัน 11:30 – 14:30 น. และ 17:30 – 22:30 น.
ชั้น 56 อาคารเอมไพร์ สาทร
BTS ช่องนนทรี / BRT ช่องนนทรี | มีที่จอดรถ