หนึ่งในคอมมูนิตี้ที่น่าจับตาของย่านอุดมสุข และวัยรุ่นอย่างเราก็ปักหมุดเอาไว้ว่าอยากแวะเวียนไปสักครั้ง ก็คงหนีไม่พ้นพื้นที่ที่ชื่อ Neighborhood Drama ในซอยอุดมสุข 7 ที่รวบรวมทั้งคาเฟ่ บาร์ และสเปซต่าง ๆ เอาไว้ (ไปจนถึงร้านตัดผม และร้าน Exotic Pet Shop ก็ยังมี) แต่ถ้าเดินทะลุเข้ามายังพื้นที่หลังโครงการ จะพบกับบ้านไม้หลังเล็กสีแดงสด ตัดกับประตูสีฟ้า และหน้าต่างสีเขียว ที่เป็น คาเฟ่ หลังเล็ก รอต้อนรับอยู่ในชื่อ Jsu a la Maison
หากมองลอดผ่านกรอบหน้าต่างเข้าไป เราจะเห็นพนักงานที่กำลังง่วนอยู่กับการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ อยู่ในบ้านคนเดียว และนี่คือ คุณฝ้าย – สุณิชา ชูโต ที่เป็นทั้งเจ้าของร้าน และพนักงานในทุกตำแหน่งของ Jsu a la Maison แห่งนี้นี่เอง (อาจจะเป็นคุณรุจในปัจจุบันก็ได้นะเนี่ย)
แม้คุณฝ้ายจะยุ่งแค่ไหน แต่ Routeen. ก็ยังแอบถือวิสาสะขอพูดคุยกันสักหน่อย จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้คุณฝ้ายก็เป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป โดยเป็นดีไซน์เนอร์ฝั่งเสื้อผ้า แต่เมื่อทำงานไปเรื่อย ๆ ก็พบว่า การนั่งออฟฟิศอาจไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์คุณฝ้ายมากนัก การทำงานตามโจทย์อาจไม่ได้เป็นตัวเองอย่างที่ต้องการจริง ๆ แล้วสิ่งที่เป็นตัวเองนั่นคืออะไรล่ะ?
แล้วคุณฝ้ายก็พบว่าสิ่งที่เป็นตัวเขาคือการทำขนม ปกติก่อนหน้านี้ คุณฝ้ายเอาก็ทำขนมแบ่งให้เพื่อน ๆ ไปจนถึงทำขนมขายออนไลน์อยู่เป็นประจำก่อนหน้าอยู่แล้ว แล้วพบความสุขจากการได้ทำขนม ใช้เวลาอยู่นานจนมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่เป็นตัวเราจริง ๆ จึงตัดสินใจลาออกจากงาน
“ตัว คาเฟ่ ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันที่เตะตา มาพร้อมช่องหน้าต่างที่ให้ทุกคนเปิดเพื่อสั่งแบบ Grab & Go ได้ เมื่อตัว คาเฟ่ หน้าตาออกมาเป็นบ้านของตัวเองมาก ๆ เลยตั้งชื่อร้านให้น่ารัก ๆ อย่าง Jsu a la Maison ที่แปลง่าย ๆ ว่า เจ๊สุอยู่บ้าน โดยหยิบเอาฉายา “เจ๊สุ” ที่เพื่อน ๆ ชอบเรียกตัวเองเมื่อครั้งทำอาหารเล่นในสมัยก่อนที่ติดหูมาใช้นั่นเอง”
ในช่วงปลายโควิด-19 คุณฝ้ายมีโอกาสได้มาที่ Neighborhood Drama จากการรู้จักกับ คุณซัน – เมธัส เทพนวล หรือ ซัน Smile Club เนื่องเพราะเคยทำงานหลังบ้านให้กับคุณซันมาก่อน และพื้นที่นี้ก็เป็นบ้านของคุณซันด้วยในยุคนั้น คุณฝ้ายได้เห็นพื้นที่ด้านหลังตรงนี้ที่คุณซันต่อเติมเอาไว้พอดี เพื่อขยับขยายเป็นคอมมูนิตี้อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คุณฝ้ายเลยขอจับจองพื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้เอาไว้ก่อนเสียเลย
ตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นร้านขายอาหารเช้า เพราะย่านนี้ก็มีออฟฟิศค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความเป็นคนไม่ตื่นเช้า การขายอาหารเช้าเลยอาจไม่เข้ากับการใช้ชีวิตของตัวเอง (เป็นที่มาว่า ทำไม คาเฟ่ แห่งนี้ถึงเปิดเที่ยง และปิดค่ำ แตกต่างจาก คาเฟ่ อื่น ๆ นั่นเอง) จึงเปลี่ยนเป็นร้านขายกาแฟและขนมแบบที่เป็นในทุกวันนี้
คุณฝ้ายจัดแจงปรับปรุงตัวบ้านไม้ที่ต่อเติมขึ้นมานี้เสียใหม่ และเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบว่า มีการทุบกำแพงให้เป็นช่องเข้าไปเล็ก ๆ ขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีก ทำให้หลังบ้านไม้เล็ก ๆ นี้ ยังมีพื้นที่นั่งแอร์เย็น ๆ รองรับอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าใครชอบนั่งแบบโอเพ่นแอร์ ก็ยังมีพื้นที่ในลานสเก็ตกว้างหน้าร้าน ที่เรียกตรงนี้ว่า Backyard Corner ให้เราได้นั่งและหามุมถ่ายรูปเล่นได้เพลิน ๆ อีกด้วยเช่นกัน
ตัวร้านต้องบอกว่าเป็นสไตล์ของคุณฝ้ายเอง หยิบเอาของสะสมที่อยู่ที่บ้านมาจับเล็กผสมน้อย ตกแต่งจนกลายเป็นเหมือนบ้านอีกหลัง ทั้งตุ๊กตา จานชาม ทีวี รูปถ่าย เก้าอี้ โซฟา หนังสือ แผ่นไวนิล และของจุกจิกอื่น ๆ (ที่บางชิ้นจะมีราคาติดอยู่ด้วย แปลว่าชิ้นนั้นถ้าเราชอบใจ ก็สามารถสอยกลับบ้านได้เช่นกันนะ) ตัวร้านถูกแต่งแต้มด้วยสีสันที่เตะตา มาพร้อมช่องหน้าต่างที่ให้ทุกคนเปิดเพื่อสั่งแบบ Grab & Go ได้ เมื่อตัว คาเฟ่ หน้าตาออกมาเป็นบ้านของตัวเองมาก ๆ เลยตั้งชื่อร้านให้น่ารัก ๆ อย่าง Jsu a la Maison ที่แปลง่าย ๆ ว่า เจ๊สุอยู่บ้าน โดยหยิบเอาฉายา “เจ๊สุ” ที่เพื่อน ๆ ชอบเรียกตัวเองเมื่อครั้งทำอาหารเล่นในสมัยก่อนที่ติดหูมาใช้นั่นเอง
ที่นี่เราจะเรียกลูกค้าว่า “เพื่อน” เพราะอยากเซ็ตบรรยากาศให้เหมือนเพื่อนมาบ้าน แล้วเจ้าของบ้านก็ทำโน่นนี่ให้ลองชิม ซึ่งเมนูต่าง ๆ ในร้านก็เลือกสิ่งที่คุณฝ้ายชอบมาทั้งหมด ด้วยความเป็นคนทำกาแฟดื่มเองทุกวันอยู่แล้ว จึงไปศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการทำเครื่องดื่ม และลองคิดสูตรเครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วยตัวเอง (แก้วไหนมีชื่อ Jsu ขึ้นหน้า แปลว่าเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านนะ) ตัวเมล็ดกาแฟใช้เมล็ดคั่วกลางจาก Nana Coffee Roaster สำหรับกาแฟนม และเมล็ดบราซิลเบลนด์ที่เข้มน้อยลงมาอีกนิด สำหรับกาแฟดำ
เราลอง Jsu’s Coffee (120 บาท) กาแฟคั่วกลางที่ใส่บิสคอฟคุกกี้ลงไปด้วย ส่วนใครที่ชอบอะไรสดชื่น เปรี้ยวหวาน อยากให้ลอง Jsu’s Lemonade (100 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้เลมอนคั้นสดกับน้ำโซดา เสริมมิติด้วยใบเบซิล และไซรัปดอก Elderflower เติมความหอมเข้าไปอีกสักหน่อย ต้องบอกว่าแก้วนี้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดตาตื่นดีมาก ๆ หากใครชอบหวานหน่อย สามารถให้เพิ่มหวานได้นะ
นอกจากนี้ยังมี Mini Donuts (เช็ตละ 139 บาท จำนวน 6 ลูก) โดนัทโฮมเมดลูกกลมที่มาพร้อมไส้ทั้งหมด 5 ไส้ ทั้งไส้ Biscoff ไส้ Choco ไส้ Earl Gray ไส้ Vanilla และไส้ Lemon Curd หากไม่ชอบแบบมีไส้ ก็มีแบบ Plain ให้ได้สั่งเช่นกัน (แอบบอกว่าในอนาคตจะมีไส้เพิ่มอีก และจะเป็นไส้คาวด้วยนะ)
ความน่ารักคือไส้จะถูกบีบล้นออกมาเป็นกลีบดอกไม้ แล้วมีเยลลี่วางเป็นเกสรชวนให้ถ่ายรูปด้วย ตัวโดนัทแป้งนุ่ม แน่น กับไส้ที่รสไลต์ ไม่หวานจนเกินไป จะกินเปล่า ๆ ก็ได้ หรือกินคู่กับเครื่องดื่มก็เข้ากันดี (เซ็ตเครื่องดื่ม 1 แก้วกับ Mini Donuts 2 ลูก ราคา 150 บาท)
เรียกว่าเป็น คาเฟ่ หลังเล็ก ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลายแบบเกินขนาดของร้านมาก ๆ หากมีโอกาสแวะเวียนมายังย่านอุดมสุข ก็ลองแวะไปนั่งเล่นที่บ้านของเจ๊สุได้เสมอ เจ๊สุพร้อมรอต้อนรับทุกคนอยู่นะ
Jsu a la Maison
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 12:00 – 20:00 น.
โซน Backyard Corner ในโครงการ Neighborhood Drama
ซอยอุดมสุข 7 บางนาเหนือ
BTS อุดมสุข แล้วเดิน หรือต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ