เป็นต้นปีที่คึกคักในเรื่องของงานศิลปะสุด ๆ เพราะมีนิทรรศการศิลปะน่าแวะไปชมมากมายทั่วกรุงเทพฯ ทั้งกับงานเทศกาลใกญ่ และงานศิลปะจากศิลปินมากหน้าหลายตา หนึ่งในนั้นคือ October29 – Takrit Krutphum ที่ครั้งนี้เขาจะชวนเราไปลงนรกพร้อมกันผ่านนิทรรศการเดี่ยวครั้งใหม่ของเขา INFERNO


หลายคนอาจคุ้นลายเส้นจาก October29 หรือ คุณแพน – ฐกฤต ครุธพุ่ม ที่มีผลงานกับทาง River City Bangkok มาอย่างต่อเนื่อง จริง ๆ แล้ว October29 อยู่ในวงการศิลปะมากว่าทษวรรษ และร่วมงานกับแบรนด์ดัง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนจากทำตามโจทย์ ลองมาทำตามใจตัวเองบ้าง ด้วยการด้วยการพัฒนาผลงานทั้งสไตล์และลายเส้น

จนออกมาเป็นรูปแบบที่เราเห็นแล้วก็จำได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นงานของเขาแน่ ๆ อย่างเจ้า Hele (เฮเล) คาแรกเตอร์กระต่ายสีดำ รวมถึงการใช้โทนสีที่จัดจ้าน ด้วยหยิบความชอบส่วนตัวอย่างเรื่องราวของความเชื่อ ตำนาน และแสงไฟ เข้ามาร่วมด้วย

เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่เขาอยากพาเราดำดิ่งลงสู่โลกแห่งขุมนรก แต่เป็นนรกที่ถูกตีความใหม่จากตัวของศิลปินเอง ที่อยากให้เราลบภาพจำความน่ากลัวของนรกไปก่อน แล้วมาดูว่า นรกที่เขาอยากนำเสนอนั้นจะร่าเริงได้แค่ไหน

ตัวนิทรรศการสร้างบรรยากาศให้เหมือนเรากำลังก้าวเท้าเข้ามาในที่ที่ไม่คุ้นเคย ต้อนรับเราด้วยซุ้มประตูหิน กับทางเข้าทอดยาวที่มีควันกรุ่นอยู่ ก่อนจะไปเจอกับห้องวิดีทัศน์แรก ที่จะให้เราเห็นที่มาของนิทรรศการนี้ และการเตรียมงานทั้งหมดกว่าจะเป็น Inferno แล้วเราจะได้พบกับเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเท่ ที่เหมือนพาหนะพาเราเข้าไปสู่นรกด้านใน
“นี่คือนรกที่ถูกตีความใหม่จากตัวของศิลปินเอง ที่อยากให้เราลบภาพจำความน่ากลัวของนรกไปก่อน แล้วมาดูว่า นรกที่เขาอยากนำเสนอนั้นจะร่าเริงได้แค่ไหน”


ต้องบอกว่านี้คือการหยิบเอาความชอบของทั้ง 2 สิ่งของศิลปินอย่างศิลปะ และมอเตอร์ไซค์มาไว้รวมกันได้ โดยนำ Harley Davidson มาสร้างเป็นผลงานศิลปัที่ไม่ใข่เพียงการเพ้นต์ลงบนตัวถัง แต่ยังใส่องค์ประกอบของชิ้นงานต่าง ๆ ลงไปในรถ ให้เชื่อมโยงกับผลงานภาพด้านในให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วย

เมื่อเดินผ่านเข้ามาด้านในจะพบกับห้องจัดแสดงผลงานสีแดง คล้ายกับการพาเราลงสู่นรกแต่ละขุม ที่คราวนี้น้อง Hele เขาหน้าตาเปลี่ยนไป จากกระต่ายสีดำ กลายเป็นยมทูตจากนรก ที่หูกระต่ายกลายเป็นเขาสีแดงไปแล้ว และยังมาพร้อมผองเพื่อนจากในนรกอีกมากมาย ที่งานนี้ไม่น่ากลัวเลย แต่น่ารักมากจริง ๆ

ผลงานในนิทรรศการนี้ยังคงความจัดจ้านของสีสัน มาพร้อมกับขนาดของภาพที่ต้องบอกเลยว่า ไม่มีชิ้นเล็ก ๆ เลย ถูกวาดลงบนแคนวาสผืนใหญ่สะใจทั้งหมด และยังมีงานศิลปะในรูปแบบอื่น ๆ อีก ทั้งงานเพ้นต์บนเปียโน งานประติมากรรม เป็นต้น


ที่ท้ายของห้องในสุดของนิทรรศการ ยังมีโซนขายของที่ระลึกในงานอยู่ด้วย โดยได้ Knowwhere Stufio มาสร้างคอลเลคชัน Inferno มีทั้งเสื้อ กระเป๋า ผ้าโพกหัว นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่น ๆ ทั้งหมอน โปสต์การ์ด ให้เราได้สอยกลับบ้านกันด้วย