เมื่อพูดถึงชาจีน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องของคนแก่ มีแต่ผู้ใหญ่เท่านั้นแหละที่จะอินกับชาจีนจ๋า ๆ ที่ชงกับกาแบบดั้งเดิม สมัยนี้ใคร ๆ ก็กินชานมกันทั้งนั้น แต่ที่ ร้าน Have A Nice Day Tea House & Bar จะทำให้คุณทิ้งความคิดเดิม ๆ นี้ไป แล้วอยากเปิดใจให้กับชามากขึ้น
เราได้เจอ ร้าน Have A Nice Day Tea House & Bar ร้านชา Specialty ในเอกมัย แล้วสะดุดตากับคำว่า Slow Tea Bar มาก ๆ เพราะไม่บ่อยที่เราจะเห็นร้านชาโดยเฉพาะ และร้านนี้ยังดูเป็นคาเฟ่ที่สุดแสนจะโมเดิร์นสมัยใหม่ สีสันจี๊ดจ๊าด และกลางคืนยังแปลงร่างเป็นค็อกเทลบาร์ด้วย โชคดีที่เราได้เจอกับ คุณหยวน – ว่าน ทับกระจ่าง และ คุณหมี – ปรินทร์ เหล่าตระกูล หุ้นส่วน 2 ใน 3 ของที่นี่ เป็นโอกาสดีที่ได้คุยถึงที่มาของร้านนี้
จริง ๆ แล้ว หุ้นส่วนทุกคนไม่มีใครมีประสบการณ์ในการทำร้านอาหารหรือบาร์เลย คุณหยวนเป็นผู้จัดซีรีส์ ส่วนคุณหมีเป็น Concert Stage Designer และหุ้นส่วนอีกคน คุณตู้ – ณัฐพงษ์ ลีรุ่งเรือง เป็นวิศวกร จุดเริ่มต้นในการทำร้านคืออยากมีธุรกิจของตัวเอง และเริ่มมาจากความชอบดื่มชาของคุณหยวน และชอบดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อน ๆ
“จุดเริ่มต้นมาจากสตอรี่ขำ ๆ คือคุณพ่อชอบดื่มเหล้า และดื่มชาจีนทุกวัน แล้วเขาภูมิใจในตัวเองมากที่ร่างกายยังแข็งแรง เป็นทฤษฎีที่พูดกันเล่น ๆ ว่ากินชาแล้วมันช่วยล้างพิษ”
ด้วยความที่บ้านคุณหยวนมีความจีนมาก ๆ เลยมีชาจีนอยู่ในชีวิตมาตลอดและเป็น Serious Chinese Tea เลย ซึมซับความชอบนี้มา แล้วก็มีโอกาสไปจีนบ่อยแล้วเห็นว่าร้าน Tea House เป็นที่นิยมมาก ๆ แล้วที่นั่น คนรุ่นใหม่ก็เข้าถึงชาแบบนี้มากขึ้น แต่ในไทยยังรู้สึกว่าหายากอยู่เลยอยากทำร้านขึ้นมา
“จริง ๆ ชาจีนอร่อย แต่คนชอบคิดว่ามันแก่ ต้องกินในโรงเตี๊ยม ชงแบบชากังฟูเท่านั้น เราเลยอยากทำให้เข้าถึงง่าย มีเมนูที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่”
พอมีโปรเจกต์ในหัว ทีมเลยเริ่มหา Location กัน ซึ่งที่ตรงนี้ก็มาเจอโดยบังเอิญและรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างที่ตรงกับที่มองหา ส่วนการดีไซน์เริ่มจากเลือกสีหลักเป็นสีแดงก่อน หยอดสีดำให้เป็นตัวแทนของกลางคืน มีสีกลางคือสีขาว เข้ากับความเป็น Modern Chinese ส่วนโปสเตอร์ที่ผนังที่เหมือนกับป้าย Now Showing ก็ตั้งใจดีไซน์ออกมาให้ร้านดูสนุกขึ้น มีการใส่ Wording และภาพไว้ ให้คนมาดูและตีความเข้ากับข้อความได้ ดูกวน ๆ สนุก ๆ
และสิ่งที่สะดุดตามาก ๆ ตั้งแต่ทางเข้า คือกล่องไปรษณีย์ที่มีชื่อเดือนแปะอยู่ 12 กล่อง เป็นกิมมิกน่ารัก ๆ ที่ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ของคุณหยวนที่ทั้งไปอยู่และไปเที่ยวมาหลายประเทศ ชอบส่งโปสการ์ดให้ตัวเอง บางทีก็มีดีเลย์ไปหลายเดือน พอได้อ่านอีกทีก็รู้สึกดี หรือได้ความรู้สึกไปอีกแบบ เลยอยากมีตู้ไปรษณีย์ที่ไว้เขียนหาตัวเองหรือคนสำคัญในอนาคต ว่าเราได้ Have a nice day วันนี้ (บางคนเขียนถึงแฟน ในอนาคตอาจจะไม่ใช่คู่กันแล้ว ก็ช็อตฟีลดี)
ร้าน Have a Nice Day ก็จะมีใบชาที่ทางร้านคัดมาเยอะมาก ๆ แบ่งเป็นเมนูร้อนและเย็น เพื่อให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ไม่ยาก ซึ่งในฝั่งของเมนูเย็นจะมีใบชายืนพื้นอยู่ 5 เบส เลือกได้ทั้งชาผลไม้และชานม เป็นใบชาที่คัดมาแล้วว่าจับคู่กับผลไม้และนมอร่อย สำหรับผลไม้จะเป็นผลไม้สดทั้งหมด ไม่ใช้ไซรัปเลย เพื่อไม่ให้รสชาโดนไซรัปผลไม้กลบจนไม่ได้กลิ่น
ส่วนใบชาสำหรับชาร้อนจะเป็นอีกแบบนึง แบ่งประเภทจากการอบ และแต่ละเมืองก็ใช้กรรมวิธีที่ต่างกัน ไล่ระดับตั้งแต่ชาไลต์ ๆ แบบ Floral Tea ไปจนถึงระดับเข้มอย่าง Dark Tea ซึ่งแต่ละประเภท ทางร้านจะเลือกคัดตัวดัง ๆ มาไว้ด้วย สามารถเลือกชิมได้แบบไม่ต้องไปไกลถึงเมืองจีน ที่ร้านยังมีชุดชาแบบ Functional ที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องต่าง ๆ เหมือนกินชาให้เป็นยา คนชงชาก็จะเรียก Tearista เลย สามารถแนะนำใบชาแต่ละตัวให้ได้
ในส่วนของ Hot Tea เราเลือกเป็นชาเหลือง ฮั่วซานหัวหยา (250 บาท) เป็นชาหายากระดับหนึ่ง เสิร์ฟมาแบบชุดการ้อน ที่มีใบชาที่ต้มในน้ำร้อน แก้วกรองฟิลเตอร์ และแก้วแบ่งดื่ม ชุดนี้สามารถดื่มได้หลายคน หรือถ้าดื่มคนเดียวก็ดื่มได้หลายรอบเลย ตัวนี้หอมมาก ๆ มีความไลต์ เบา สดชื่น ไม่ขมฝาด
ส่วนชาผลไม้ เราเลือกเป็น ชาแดงจับคู่กับราสป์เบอร์รี (100 บาท) แก้วนี้สดชื่นดีมาก ๆ ดื่มแล้วจะรู้สึกถึงความอมเปรี้ยวนิด ๆ ของผลไม้ แต่ไม่รู้สึกว่ากลบรสและกลิ่นชาเลย ตัวชาก็ไม่ขมฝาดกำลังดี แม้รสผลไม้จะชัดแต่ยังทิ้งรสชาค้างในปากได้ดี
อย่างที่บอกว่าทางร้านตั้งใจทำเมนูชาให้เข้าใจง่าย แน่นอนว่าต้องมีชานมไข่มุก เราเลือกเมนู Signature เป็น ชาอู่หลงเถี่ยกวนอิมใส่ไข่มุกบราวน์ชูก้า (95 บาท) เบสชานมไข่มุกหวานน้อยค่อนไปทางไม่หวาน หอมชาเตะจมูก แต่จะได้ความหวานจะมาจากไข่มุกบราวน์ชูก้าแทน และมีความหนึบ อร่อย เข้ากันได้ดี
ส่วนขนมก็มีนะ เราอยากให้ลอง Financier ขนมฝรั่งเศสที่โรยใบชาเถี่ยกวนอิมไว้แบบแน่น ๆ (ช่วยเพิ่มความหอมชาฟุ้ง ๆ ขึ้นมา) เนื้อเค้กมีความแน่นแต่ชุ่มฉ่ำหอมเนยในตัว เมนูนี้กินคู่กับชาร้อนคือดีมาก ๆ และอีกเมนูเป็น พุดดิ้งชาอู่หลง ตัวนี้ราดไซรัปอู่หลงอีกที ตัวพุดดิ้งมีเนื้อเนียนนุ่ม ไซรัปมีรสชาหอม ๆ ไม่หวานเกินไป เป็นเมนูที่กินเพลิน ๆ แถมเสิร์ฟมาสวยอีกด้วย
ที่เห็นว่าชื่อร้านมีคำว่า Bar นั่นเพราะว่า ร้านนี้พอถึงช่วงกลางคืนจะแปลงร่างเป็นค็อกเทลบาร์นั่นเอง เป็นบาแบบ Speakeasy นั่นเอง! กลางวันเป็นร้านชา กลางคืนแปลงร่างเป็นบาร์จบในที่เดียวเลย แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะจิบค็อกเทลที่บาร์นี้ด้วย
ที่ทำบาร์ด้วย เพราะไม่ใช่แค่ ‘ชา’ ที่เป็นแพชชั่น ‘การดื่ม’ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของร้านและเพื่อน ๆ ชื่นชอบ เลยอตั้งใจอยากทำให้พื้นที่ตรงนี้ เป็นร้านเป็นหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ามีวันที่ดีได้ทั้งวันตั้งแต่กลางวันยันกลางคืนไปเลย
“ที่เลือกทำบาร์ เรามองว่าค็อกเทลเป็นศาสตร์ที่สามารถทำได้หลายอย่าง เราคิดว่าชาสามารถเป็นส่วนผสมของค็อกเทลได้ เป็น Tea Base Cocktail ซึ่งเข้ากับร้านชาตอนกลางวันด้วย”
การปรับมู้ดจากร้านชาเป็นบาร์ก็ทำได้ดีเลย หน้าบาร์ตอนกลางวันเราจะเห็นแผ่นป้ายขาว ๆ ซึ่งหลังป้ายนั้นคือขวดแอลกอฮอล์มากมาย เพียงแค่เอาแผ่นขาวออก ดิมไฟให้มืดลงสักนิด ฉาย Projecter ก็จะได้มู้ดของบาร์แบบ Speakeasy แล้ว และในวันศุกร์ มี DJ มาเปิดแผ่นด้วยนะ เริ่มตั้งแต่ 20:00 น.เป็นต้นไป
เมนูที่นี่จะมีทั้ง Cocktail และ Mocktail ซึ่งถ้าดูเมนู Mocktail Signature จะเห็นว่ามีชื่อเมนูที่มีความหมายเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ออฟฟิศเยอะมาก อย่าง Do not text me after Work, Emotional Boss, Salary 15,000 Workload 50,000 (ชื่อเมนูทัชใจมนุษย์ออฟฟิศสุด ๆ แสบม้ากก) ที่ตั้งชื่อแบบนี้เพราะเจ้าของร้านทุกคนยังทำงานประจำ บ่อยครั้งที่อยากดื่มแล้วยังดื่มไม่ได้เลยต้องจิบม็อกเทลแทน
ส่วนเมนูค็อกเทลชื่อเมนูจะอิงกับเรื่องราวในชีวิตมากกว่า ซึ่ง Cocktail Signature ของที่นี่มีถึง 14 ตัว แต่ละแก้วพยายามเล่นกับความหอมและการไล่ระดับของรสชาติ จะมี Taste และ After Taste ที่แตกต่างกัน อย่างที่บอกว่ามีบางตัวเป็น Tea Base Cocktail ด้วย หยิบเอาจุดเด่นของชามาผสมผสานกับแอลกอฮอล์ให้เกิดมิติใหม่ ๆ
แก้วแรกที่เราได้ลองเป็น Sugar Daddy (380 บาท) เหล้าขาวจีน Luzhou Laojiao เป็นเหล้าขาวจีนที่หายากในไทย แต่แมสในจีน แรงถึง 52 ดีกรี ทางร้านเอาจุดเด่นของเหล้าตัวนี้มามิกซ์เป็นค็อกเทล เข้ากับไลต์รัม เติมหวานนิด ๆ ด้วยบราวน์ชูก้า มีชิ้นเนื้อสับปะรดเบิร์นไฟหอม ๆ ดื่มไม่ยากอย่างที่คิด ตัวเหล้าจีนมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์หอมขึ้นจมูก
อีกตัวเป็น Chinese Born Thai (380 บาท) แก้วนี้เอาใบชาอู่หลงไป infused กับไลต์รัม ผสม Amaretto และมีความเปรี้ยวหวานจากสับปะรด และโฟม Coconut นุ่ม ๆ เปรียบชาอู่หลงเป็นจีนและมะพร้าวเป็นไทย อีกตัวเป็น Life in Bangkok (360 บาท) เบสเป็นวอดก้า น้ำผึ้ง เลม่อน พริก และขิง รสชาติจัดจ้าน มีรส Spice แบบไทย ๆ
ต่อมาเป็นเมนู First Time? (370 บาท) เบสเป็นวอดก้า มีไอศกรีมเสาวรสบีทรูทสีแดงสดและดอกเอลเดอฟลาวเวอร์ กิมมิกของแก้วนี้คือเบสเครื่องดื่มจะเป็นสีใส ๆ เมื่อไอติมละลายสีแดงจะค่อย ๆ กระจายตัวลงในแก้ว เป็น First time ที่ให้ไปตีความหมายกันเอง และสุดท้าย The Revenge (350 บาท) ชาดอกเก๊กฮวยจักรพรรดิ infused กับจิน Sweet Vermouth และ Campari แก้วนี้มาแบบเข้ม ๆ สาย Spirit Forward แต่มีความหอมหวานของเก๊กฮวยชัดมาก ๆ
Have A Nice Day Bar
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 18:00 – 00:00 น.
ริมถนนใหญ่ถนนเอกมัย ใกล้ ๆ ซอยเอกมัย 6
BTS เอกมัย | จอดรถได้ที่ Big C เอกมัย
Google Maps
