การมาถึงของธุรกิจใหม่ ๆ ความทันสมัยที่แทรกตัวเข้ามาในย่านโลคอลที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างยาวนาน มักตามมาด้วยความยากที่จะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ ทั้งความแปลกแยก การเปลี่ยนวิถีชีวิตและความคลาสสิคที่มีให้หายไป ไปจนถึงการอยู่ร่วมกับคนในพื้นที่อย่างไร ให้พวกเขายังอ้าแขนต้อนรับอยู่ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ Routeen. ก็มีคำถามอยู่ในใจมาตลอด จนวันนี้ ความสงสัยเหล่านั้นได้จางหายไป เมื่อเราได้มารู้จักกับร้านกาแฟลุคเท่ ในย่านสุดโลคอลอย่าง ราชวัตร ที่ชื่อ Groundwork Specialty Coffee & Workplace


หากให้เล่าย้อนกลับไป ที่จริงแล้วตัวอาคารเดิมของ Groundwork นั้นมีเรื่องราวซ่อนอยู่มากมาย บริเวณนี้จะประกอบไปด้วย 3 อาคาร ได้แก่อาคารด้านใน (ที่ปัจจุบันเป็นโรงแรมสุดบูทีคในย่านนี้อย่าง YANH Ratchawat) ด้านหน้าของโรงแรมจะเป็นร้านอาหาร ‘ครัวจำแลงแปลงกาย’ และอาคารที่อยู่หัวมุมถนนนครไชยศรี คือที่ตั้งของ Groundwork ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่โซนนี้เป็นธุรกิจของตระกูลชินวัตรที่เรารู้จักกันดี โดยในอดีต อาคารนี้เคยถูกใช้เป็นออฟิศของกลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์อย่าง Pagers และ Yellow Pages หรือสมุดหน้าเหลือง (ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้จะรู้จัก) รวมถึงอาคารนี้เป็นการถือกำเนิดของ AIS เครือข่ายโทรศัพท์ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน ในเวลานั้นอาคารนี้จึงเปรียบเสมือเป็นธุรกิจ Start Up ของ AIS เลยก็ว่าได้

“ชื่อ Groundwork เองก็มาจากคอนเซปต์ของ Connecter และ Pioneer โดยความเป็น “นักบุกเบิก” ก็สะท้อนผ่านตัวคาร จนถึงยุคปัจจุบัน ก็ยังเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ของย่านนี้อีกครั้ง ส่วนความเป็น “นักเชื่อมโยง” ก็มาจากความตั้งใจที่จะนำสิ่งเก่าและสิ่งใหม่มาเชื่อมกัน”
เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น ธุรกิจ Pagers และ Yellow Pages ก็ปิดตัวลง ส่วน AIS เองก็เติบโตจนต้องขยับขยายพื้นที่ไปยังอาคารที่ใหญ่ขึ้น ทำให้อาคารนี้ถูกปล่อยไว้ไม่ได้ใช้งาน และกลายเป็นที่เก็บเอกสารไปเสียเฉย ๆ จนทาง SC ASSET ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ในตอนนี้ มีนโยบายในการพัฒนาพื้่นที่ธุรกิจ Retailing Income จึงเกิดเป็นโรงแรมและคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นมา ภายใต้การบริหารงานของ SC Expedition โดยคาเฟ่นี้เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา และชั้นบนยังมี Co-Working Space ที่ให้บริการสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมานี้เอง
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้พื้นที่นี้เป็นการพบกันระหว่างสิ่งเดิม กับสิ่งใหม่ (OLD x NEW) เพื่อให้อยู่ร่วมกับย่านนี้อย่างกลมกลืน ในขณะเดียวกันก็ยังสร้างความคึกคักและสีสันเพิ่มเติมให้ย่านที่สงบเงียบนี้ด้วย ทาง SC Expedition จึงเลือกที่จะสื่อสารความคลาสสิคผ่านตัวโรงแรม และสื่อสารความใหม่ผ่านคาเฟ่แห่งนี้


แม้จะบอกว่าเลือกนำเสนอความใหม่ แต่ยังคงเป็นความใหม่ที่สามารถอยู่ในย่านนี้ได้ การรีโนเวทร้านนี้จึงไม่ได้มีคำจำกัดความที่ตายตัว เลือกคงเส้นสายของอาคารเดิมอย่าง “ตึกขาว” นี้เอาไว้ เก็บกระเบื้องโมเสกสีขาวเดิมที่กรุผนังของอาคารเอาไว้ แต่ภายในถูกปรับเปลี่ยนใหม่ โดยหยิบเอาความเป็น Labolatory ที่ให้กลิ่นคล้ายห้องทดลอง ฟีล Industrial เข้ามาปรับใช้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อลูมิเนียม คุมโทนให้เป็นสีเงิน-เทา-ขาว ยังสอดแทรกความเป็นกระเบื้องโมเสกในด้านในเพิ่มเติม โดดเด่นที่เคาน์เตอร์บาร์รูปเกือกม้าขนาดใหญ่กลางร้าน ที่เดินเข้ามาก็ต้องเห็นเป็นอย่างแรก กับโคมไฟสุดโมเดิร์นที่ระโยงระยางอยู่ด้านบน ให้ความรู้สึกเกมือนเดินเข้ามาอีกโลกหนึ่งผ่านอาคารสุดคลาสสิคนี้

ชื่อ Groundwork เองก็มาจากคอนเซปต์ของ Connecter และ Pioneer โดยความเป็น “นักบุกเบิก” ก็สะท้อนผ่านตัวคาร และเรื่องราวของพื้นที่นี้ที่บุกเบิกธุรกิจต่าง ๆ มาอย่างที่เล่าไปก่อนหน้านี้ จนถึงยุคปัจจุบัน ก็ยังเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ของย่านนี้อีกครั้ง ส่วนความเป็น “นักเชื่อมโยง” ก็มาจากความตั้งใจที่จะนำสิ่งเก่าและสิ่งใหม่มาเชื่อมกัน ทางร้านตั้งใจที่จะเทรนให้พนักงาน และบาริสต้าในร้านยึดถือความถ่อมตนเป็นอย่างแรก เพื่อให้เราเป็นลูกหลานที่น่ารักกับกลุ่มคนเจเนอเรชั่นก่อน ๆ ในย่านนี้ รวมถึงกับลูกค้าที่มาเข้าใช้บริการทุกคนด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ที่ Groundwork ยังมองไปไกลกว่า ด้วยความอยากให้ตัวเองเป็น Local Connecter ที่ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงความโลคอลในย่านราชวัตรเท่านั้น หากยังหมายถึงภาพใหญ่อย่างประเทศไทยเลย โดยเริ่มจากการเลือกใช้เมล็ดกาแฟจากบ้านปางขุม จ. เชียงใหม่ โดยได้ Local Roaster อย่าง Sauce Coffee มาช่วย Sourcing ให้ รวมถึงยังได้คุณพลอยจาก Sauce Coffee นี่แหละมาช่วย Setup และเทรนพนักงานในร้านให้ รวมถึงช่วยทำ House Blend ให้กับทางร้านอีกด้วย และในอนาคต ทาง Groundwork ยังอยากให้เกิด Local Support ไปยังชุมชนบ้างปางขุมไว้ว่าทางใดก็ทางหนึ่งอีกด้วย


โดย Groundwork Blend จะเป็นเมล็ดจากบ้านปางขุม กับเมล็ดลาว ที่ให้รสโกโก้ อัลมอนด์ และทอฟฟี่ปิดท้าย
แต่ในส่วนของเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันจนต้องขอสั่งมาลองดูสักหน่อย เราเริ่มจาก Good Morning Krub (140 บาท) เครื่องดื่มซิกเจเนอร์ของร้านที่นำกาแฟกับชาไทยมาพบกัน หากเลือกสั่งแบบร้อน ทางร้านจะเสิร์ฟมาในแนวแก้วกาแฟโกปีเตี๊ยมโบราณ มีปาท่องโก๋ให้กินแกล้ม หรือฉักใส่ลงไปในแก้วก็ได้ตามใจ แต่พอเป็นแบบเย็น ทางร้านจึงมองหามิติอื่นที่ไม่ใช่ปาท่องโก๋ (ที่ไม่น่าจะเข้ากับเครื่องดื่มเย็น) จึงได้เป็นพานาคอตตาที่ก้นแก้ว เวลาดูดเครื่องดื่มขึ้นมาก็จะได้สัมผัสนุ่ม ๆ และกลิ่นหอม ๆ ของพานาคอตตาเข้ามาด้วย ถือเป็นแก้วที่ดื่มง่ายและสนุกไม่หยอก

อีกแก้วเป็นเมนูใหม่ของทางร้านที่ตอนนี้ยังไม่มีบรรจุในเมนู (แต่แอบสั่งได้เลย มีขายแน่นอน) กับ Chocolate Mint (140 บาท) เมนูที่กำลังเป็นกระแสในเวลานี้ ทางร้านเลือกใช้ผงโกโก้เบลนด์ หอม และหวานน้อย ด้านล่างเป็นเครื่องดื่มมินท์สีสวย ท็อปด้วยช็อกโกแลตจากประจวบคีรีขันธ์ สายช็อกมินต์ต้องบอกว่าเข้มข้นเอาใจไปเลย ส่วนใครไม่ใช่แฟนช็อกมินต์ก็ลองเปิดใจดูสักครั้ง รับรองว่ารสชาติไม่เหมือนกินยาสีฟันแน่นอน


ทั้งนี้ ในบริเวณชั้น 2 และ 3 ของอาคาร ยังเป็นที่ตั้งของส่วน Workplace สำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นที่นั่งทำงาน ประชุม หรือพูดคุยธุรกิจอีกด้วย พื้นที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ยังคงให้ความรู้สึกแบบ Industrial ด้วยการเปิดเพดานโล่ง เห็นโครงสร้างของหลังคาและโครงเหล็ก เน้นการใช้โทนน้ำเงินที่รู้สึกอบอุ่นและสบายตา เติมวัสดุไม้ และหยอดสีส้มเข้ามาเล็กน้อยเพื่อสร้างความรู้สึกโฮมมี่และสีสันที่ช่วยให้ไม่ง่วงจนเกินไป มีทั้งพื้นที่แบบ Hot Desk (เริ่มต้นที่ 150 บาทต่อ 4 ชั่วโมง และ Private Hot Desk ที่ 350 บาทต่อ 4 ชั่วโมง) ที่เราชอบมาก ๆ เพราะใช้เก้าอี้ Ergonomic Chair จาก HermanMiller และยังใช้โต๊ะแบบปรับระดับความสูงด้วยไฟฟ้าอีกด้วย (นั่งเบื่อ ๆ ก็ยืนทำงานได้ชิลล์ ๆ) มี Mini Meeting Room สำหรับ 4 ท่าน (ชั่วโมงละ 200 บาท) ห้องประชุมสำหรับ 8 ท่าน (เริ่มต้นที่ 250 บาทต่อชั่วโมง) และสำหรับ 10 ท่าน (เริ่มต้นที่ 350 บาทต่อชั่วโมง) ที่มาพร้อมสมาร์ตทีวีขนาด 65 นิ้ว อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ไวต์บอร์ด และ Chromecast
นอกจากนี้ยังมีห้อง Nap Pod (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ไว้คอยรองรับเวลานั่งทำงานเหนื่อย ๆ แล้วอยากนอนพัก เอนหลังสักหน่อย กับห้องสไตล์ญี่ปุ่นไว้ผ่อนคลาย และยังมีห้องเงียบ หรือห้องคุยงานเล็ก ๆ ไว้ให้ใช้งานอีกด้วย
นี่คือหมุดหมายแห่งใหม่ที่จะทำให้ย่านราชวัตร (ที่จริง ๆ แล้วย่านนี้ของกินอร่อยมากกก) คึกคักขึ้นอีกครั้ง ยังส่งผลถึงการค้าในย่านนี้ที่อาจเป็นที่รู้จักมากขึ้น และการอยู่ร่วมอย่างกลมกลืนของ Groundwork ก็ยืนยันให้กับเราได้ว่า ความ Old x New เป็นขั้วตรงข้ามที่ไปด้วยกันได้เสมอ และบางครั้งก็ไปได้ดีเสียด้วย
Groundwork Specialty Coffee & Workplace
เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 21:00 น.
ถนนพระราม 5 นครไชยศรี ดุสิต
BTS อนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ แล้วต่อแท็กซี่หรือพี่วิน | จอดรถได้ที่โรงแรมย่าน ราชวัตร