Grandma’s Garden Bkk หนึ่งใน Hidden gem ย่านบางแค คาเฟ่เปิดใหม่ที่ใช้บ้านเดิมริมคลองภาษีเจริญทำเป็นร้านคาเฟ่ฟีลโฮมมี่ของคุณแม่วัยเกษียณ บรรยากาศเหมือนได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด แวะบ้านเพื่อน ทั้งอบอุ่น สบายตา และหายใจได้เต็มปอด
โชคดีที่เราได้เจอกับคุณแม่ ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ เจ้าของคาเฟ่แห่งนี้ และเป็นที่มาของชื่อร้าน Grandma’s Garden ด้วย คุณแม่เล่าให้เราฟังว่าจุดเริ่มต้นของการทำคาเฟ่นี้ ก็มาจากลูก ๆ ที่อยากหาอะไรให้แม่ทำหลังเกษียณจะได้ไม่เหงา จนเกิดเป็นคาเฟ่มู้ดอบอุ่นเหมือนบ้านขึ้นมา
เล่าย้อนกลับไปถึงพื้นที่ริมคลองภาษีเจริญที่ตั้งของคาเฟ่แห่งนี้ เดิมทีเป็นที่ของที่บ้านเองตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ทำสวนส้มเขียวหวานบางมด ส้มโอพันธุ์ทองดี ขายดิบขายดีจนเป็นที่พูดถึง แต่เมื่อเจอน้ำท่วมในปี พ.ศ. 2527 สวนส้มก็ตายไป เหลือส้มโอที่ยังไปต่อ และเพิ่มสวนมะพร้าวเข้ามา ดำเนินกิจการทำสวนเรื่อยมา จนเจอน้ำท่วมหนักอีกครั้งในปี พ.ศ. 2554 เลยถึงจุดที่เลิกทำสวนไป และหันมาพัฒนาพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัยแทน
ซึ่งจริง ๆ บ้านของคุณแม่ก็อยู่ในละแวกนี้อยู่แล้ว พื้นที่สวนเมื่อไม่ทำต่อ ลูกชายเลยขอทำเป็นพื้นที่ทำงานฝีมือ จนเกิดเป็นบ้านหลังที่เราเห็น ซึ่งแต่เดิมตั้งแต่แรกที่สร้างบ้านนี้ก็เป็นดีไซน์นี้เลย เพียงแต่มู้ดจะเป็นแนวลอฟต์ดิบ ๆ เมื่อตกลงกันได้ว่าจะทำคาเฟ่ เลยรีโนเวทให้เป็นมู้ดไม้ ๆ ให้ดูอบอุ่น
กว่าจะมาเป็นคาเฟ่แห่งนี้ ใช้เวลาหลายปีก่อนจะลงตัวเพราะเดิมทีไม่มีถนนตัดเข้าบ้านอย่างที่เห็น ผู้คนที่มีบ้านริมคลองนี้จะใช้วิธีสัญจรทางเรือและทางเดินปูนริมน้ำมาตลอด จนมีการแบ่งขายพื้นที่ให้กับหมู่บ้านไป เลยขอให้ตัดถนนทำทางเข้ามาให้กับคนในพื้นที่นี้
ซึ่งคลองภาษีเจริญนี้ปัจจุบันก็ยังมีเรือสัญจร คนริมคลองสองฝั่งก็ยังใช้เรือกันอยู่เป็นประจำ เพราะทุกบ้านจะมีท่าน้ำ และที่น่ารักมาก ๆ คือปัจจุบันไปรษณีย์ก็ยังส่งทางเรือ เรือขยะกทม.ก็ยังเก็บทางเรือด้วย บางทีมีก๋วยเตี๋ยวพายเรือมาขาย เป็นบรรยากาศที่มีเสน่ห์มาก ๆ
“บ้านเราชอบไปสามพราน มีสวนริมคลองเหมือนบ้านเรา เลยลองทำร้านดู ซึ่งที่นี่ก็ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตัวเมืองบางแค และมีหลายคนที่โหยหาอะไรแบบนี้ ตอนแรกคิดอยากทำร้านเล็ก ๆ เพราะทำกันเองในครอบครัว แต่พอทำไปทำมาก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนก็โหยหาพื้นที่สีเขียว”
พื้นที่คาเฟ่จะแบบออกเป็น 4 ส่วน คือด้านในร้านจะเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ชงกาแฟ มีที่นั่งเล็กน้อย ชั้น 2 ของบ้านจะมีห้องแอร์ให้นั่งได้อีกหลายโต๊ะ ตรงริมน้ำก็มีทำที่นั่งชิค ๆ ไว้ให้นั่งดูบรรยากาศริมคลอง และที่น่ารักมาก ๆ คือพื้นที่สนามหญ้า ทางร้านจะมีเก้าอี้ปิ๊กนิกให้ถือไปกางกันเอง เลือกที่เหมาะ ๆ แล้วนั่งได้เลยแบบฟรีสไตล์ หรืออยากจะปูเสื่อก็ได้นะ ชิลล์เวอร์
และแอบมีลานทรายเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ มาเล่นกันได้ด้วย (เพราะคุณแม่ก็มีหลานตัวน้อย ๆ เหมือนกัน) ที่สำคัญคือพื้นที่ตรงนี้ร่มรื่นมาก ๆ เพราะมีต้นจามจุรีและต้นหูกระจงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาอยู่ ไม่ต้องกลัวแดดจะลงจนนั่งไม่ไหว
มาถึงเรื่องอาหารและเครื่องดื่มของที่ร้าน ว้าวมาก เพราะพอถามมาถึงตรงนี้ ก็จึงได้รู้ว่าคุณแม่เป็นอาจารย์และเป็นถึงอดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีความเชี่ยวชาญด้านเมนูอาหารชาววัง และเคยสัมผัสกับการเป็นเชฟอาหารเต็มรูปแบบมาแล้ว ถ้าลองเสิร์ชชื่อคุณแม่ ก็จะเจอข้อมูลเกี่ยวกับอาหารชาววังมากมาย
แน่นอนว่าที่นี่มีเมนูอาหารฝีมือคุณแม่ให้เราชิมหลายเมนูเลย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวราดผัดพริกเกลือ เมนูถึงพริกถึงขิง แกงเขียวหวานกะทิ เมนูโบราณดั้งเดิมทั้งนั้น และไฮไลต์ที่ไม่อยากให้พลาดคือ หมูชะมวง เมนูสูตรต้นตำรับจากจันทบุรี หมูสามชั้นชิ้นโตรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดีเข้ากับข้าวร้อน ๆ แบบสุด (เพราะลูกสะใภ้เป็นคนจันทบุรีเราเลยได้กินเมนูนี้แบบรสออริจินอล)
แต่ต้องบอกว่าเมนูอาหารที่ร้านอาจไม่ได้มีพร้อมตลอดทุกวัน เพราะคุณแม่เป็นคนลงมือทำทุกเมนู หากวันไหนล้าก็อาจมีพักบ้าง ที่นี่เลยจะมีเมนูของคาวอย่างเบอร์เกอร์มาเสริมทัพ ซึ่งอันนี้มีตลอดไม่ต้องห่วง แถมอร่อยม้ากกก เป็นแบรนด์ Ampol Burgur ร้านเบอร์เกอร์โฮมเมดจากบางแสน ที่ลูกชายไปเจอแล้วถูกใจจนต้องนำกลับมาเปิดขายที่ร้าน ที่ชอบมากคือมาแบบชิ้นหนา ๆ ไม่เหมือนเบอร์เกอร์สำเร็จรูปแบบทั่วไป และทุกชิ้น ทุกเมนูทำใหม่เสิร์ฟแบบร้อน ๆ ด้วยนะ
เราได้ลองถึง 4 เมนู เริ่มที่ Leia (169 บาท) เบอร์เกอร์หมูซอสเห็ดทรัฟเฟิล มีเชดด้าชีสเพิ่มความฟิน หอมทรัฟเฟิลมาก ๆ ใครชอบทรัฟเฟิลตัวนี้คือชัดไม่ผิดหวัง ตัวที่ 2 เป็น C3-Po (189 บาท) เบอร์เกอร์หมูที่มาพร้อมเบคอนชิ้นโต มีเชดด้าชีสเพิ่มความฟิน และตัดรสด้วยสับปะรดไม่เลี่ยนเกินไป มาพร้อมซอสสูตรพิเศษ
Jabba Shrimp (129 บาท) เบอร์เกอร์กุ้งชุบแป้งทอดตัวอ้วน ๆ มีผักฟิลเลย์ มะเขือเทศสด ราดซอสสูตรพิเศษแบบฉ่ำ ๆ เมนูนี้น่าจะถูกใจเด็ก ๆ เพราะกุ้งดีและซอสกินง่ายเข้ากัน และ Dart Maul (209 บาท) เบอร์เกอร์เนื้อ (หอมมากกกก) มีเชดด้าชีส ราดซอสที่มีความเผ็ดหน่อย ๆ รสนี้จะเป็นขนมปังดีหมึกด้วย เป็นแนวฝรั่งจ๋ามากเพราะมีมะกอกดองมาด้วย
ในฝั่งเครื่องดื่มก็เยอะไม่แพ้กัน เมนูกาแฟที่ร้านจะใช้เมล็ดกาแฟ House Blend 2 กลุ่ม คั่วกลางเข้ม เป็นบราซิล-โคลัมเบีย และคั่วอ่อน เป็นเอธิโอเปีย กัวเตมาลา-เทพเสด็จ เชียงใหม่ ตรงนี้เป็นฝีมือของลูกชายล้วน ๆ เราลอง กาแฟอเมริกาโน่ส้ม (85 บาท) เป็นส้มที่ผสมหลาย ๆ ตัวให้รสกลมกล่อมสดชื่นดีมาก ฟีลลิ่งไม่เหมือนกาแฟส้มทั่ว ๆ ไป ส่วน คาปูชิโน่เย็น (85 บาท) เป็นคั่วกลาง-เข้มที่ไม่ขมเลย รสนวล ๆ ออกโทนช็อกโกแลต
ที่ร้านยังมีเมนู Soda Popping (85 บาท) ที่เอาแสงธรรมชาติ มาเป็นคอนเซปต์ของแต่ละเมนูเสริมด้วยเม็ด Popping ที่กัดแล้วจะมีน้ำผลไม้ระเบิดออกมาเพิ่มความสนุกในการดื่ม เริ่มด้วย Sunrise ลิ้นจี่พีชโซดา ที่มีสีเหมือนพระอาทิตย์กำลังขึ้นในตอนเช้า Sunshine ลิ้นจี่สับปะรดโซดา สีเหมือนแสงแดดที่เปล่งประกาย Sky บลูลิ้นจี่โซดา มีสีฟ้าเหมือนท้องฟ้าสดใส และ Sunset ลิ้นจี่สตรอว์เบอร์รีโซดา สีเหมือนท้องฟ้าขณะดวงอาทิตย์กำลังตกลับขอบฟ้า
จบด้วย ไอศกรีมโฮมเมด ขวัญใจเด็ก ๆ (69 บาท) มีเยอะมากและน่าสนใจหลายรส เราเลือกชิม ท็อฟฟี่เค้ก เนื้อไอศกรีมเหนียวกำลังดี มีถั่วให้เคี้ยวสนุก ๆ อีกรสเป็น กล้วยตาก ถ้วยนี้มีรสกล้วยนวล ๆ และเนื้อกล้วยผสมมาในเนื้อไอศกรีมด้วย สุดท้ายเป็น ยาคูลท์ปีโป้ เมนูที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีความเปรี้ยวหวาน สดชื่นมาก ๆ และมีเนื้อปีโป้มาด้วยนะ
ใครอยากได้มู้ดคาเฟ่ริมคลอง บรรยากาศดีแบบไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ เหมือนได้แวะมาเล่นบ้านเพื่อน ช่วยฮีลใจได้ดีสุด ๆ (แถมอาหารอร่อยทุกอย่าง เลิฟมาก)
Grandma’s Garden Bkk.
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) 10:00-19:00 น.
ซอย นาวีเจริญทรัพย์ บางแค
MRT หลักสองแล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
Google Maps