Routeen. ยังคงพาฮอปปิ้งในย่าน สาธุประดิษฐ์ 41 หลังจากพาไปแวะคาเฟ่สุดป๊อปและร้านขายจานชามสีหวานกันไปแล้ว ในซอยนี้ยังมีอีกหนึ่งร้านที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก หรือไม่แน่ว่าหลายคนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะเค้าเปิดมานานหลายปีและมีถึง 3 สาขา ร้านที่เรากำลังพูดถึงก็คือ Envies Cafe คาเฟ่ สาขาสาธุประดิษฐ์
อย่างที่พูดไปว่าจริง ๆ เค้าเปิดมาหลายปีแล้วล่ะ แต่ที่น่าสนใจเพราะเค้าเพิ่งจะดีไซน์ปรับลุคใหม่ไม่นานมานี้ ทั้งมู้ดโทนสีสัน อย่างกับสตูดิโอย่อม ๆ

ก่อนจะไปดูว่า Envies Cafe สาขาสาธุประดิษฐ์ มีอะไรใหม่บ้าง เราขอนั่งพูดคุยกับคุณ นัท – ณัฐดนัย อัมพรเรืองรอง เจ้าของร้าน Envies ถึงจุดเริ่มต้นของการทำร้านกันก่อน เพราะส่วนตัวเราก็อยากรู้ว่า การเติบโตของ Envies จากตลาดน้อย สู่สาขาสาธุประดิษฐ์ และสาขาสีลม ทำยังไงให้คาเฟ่ดูเก๋ ชิค ได้ขนาดนี้
คุณนัทบอกเราว่า ตัวต้นเรื่องการทำคาเฟ่เริ่มมาจากแบรนด์เสื้อผ้า เดิมทีคุณนัทเป็นดีไซเนอร์ที่จบแฟชั่นดีไซน์มาโดยตรงเลย เริ่มทำแบรนด์แนวสตรีตเมื่อราว ๆ 5-6 ปีก่อน มีทั้งเสื้อยืด กางเกงยีน หมวกบักเก็ต ซึ่งตอนนั้นแนวโน้มค่อนข้างที่จะไปได้ดี มีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวจีน และชาวต่างชาติ ซึ่งระหว่างที่ทำแบรนด์เสื้อผ้า ก็มีไอเดียอยากให้แบรนด์มีมิติมากขึ้น ด้วยการเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่ในสโตร์ จับเอาแฟชั่นมาชนกับคาเฟ่
“เราได้ Inspiration มาจากที่เราได้เจอมาตอนไปต่างประเทศ มองว่าแบรนด์เสื้อผ้ามันไม่จำเป็นที่จะต้องขายแค่เสื้อผ้า แต่มีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นได้ด้วยการเพิ่มมิติของไลฟ์สไตล์ ที่มีทั้งเสื้อผ้าและของกินเข้าด้วยกัน ก็เลยมองหาว่าอะไรที่จะมาตอบโจทย์ เลยออกมาเป็นคาเฟ่”
เลยเอาแบรนด์ Identity ที่มีความเข้าถึงง่าย มาขยายต่อเป็นคาเฟ่ เกิดเป็น Envies Cafe ขึ้นมาในปี 2019 โดยสาขาแรกเลือกเปิดที่ย่านตลาดน้อย ซึ่งในยุคนั้นคาเฟ่ยังไม่มาก ความเป็นตลาดน้อยยังไม่บูมขนาดนี้ แต่ด้วยความที่มีบ้านอยู่ในละแวกนี้ เป็นคนพื้นที่ ทำให้มองเห็น Potential บางอย่าง เพราะนักท่องเที่ยวก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

ด้วยความที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านเครื่องดื่มหรืออาหารมาก่อน ก็เลยเปิดเป็น Coffee Stand เล็ก ๆ ไม่ได้ที่นั่งมากมาย แต่ผลตอบรับกลับเกินคาดมาก ๆ อาจเป็นเพราะ Envies ให้ความสำคัญกับการสร้างคาแรกเตอร์ของเครื่องดื่มให้มีความเป็น Mixology Coffee เลยทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
จากจุดเริ่มต้นที่คิดอยากทำคาเฟ่คู่ไปกับแบรนด์เสื้อผ้า แต่กลับเลือกเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ย่านตลาดน้อยก่อน เป็นเพราะคุณนัทมองว่าอยากทำให้แบรนด์แข็งแรง อยากฟังฟี้ดแบคลูกค้าก่อนถึงจะจับมาเจอกัน และตั้งใจเอาไว้ว่าการรวมสโตร์กับคาเฟ่จะอยู่ในเฟสถัดไป


ซึ่งจากผลตอบรับที่ดี ก็เลยตัดสินใจลุยเฟส 2 เกิดเป็นสาขาสาธุประดิษฐ์ ในต้นปี 2021 แต่จังหวะพลิกผันคือสถานการณ์โควิดที่ไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายในตอนนั้น ทำให้ต้องปิดแบรนด์เสื้อผ้าไปก่อน เพราะกลุ่มลูกค้าจริง ๆ ก็เป็นชาวต่างชาติด้วย และเรื่องการส่งออกก็ทำได้ยาก บวกกับความยากของการทำการตลาดที่มากขึ้น จากแต่เดิมแค่ถ่ายรูปลูกค้าก็สนใจแล้ว แต่ยุคนี้ต้องมีคลิป ต้องไลฟ์ ต้องใช้พลังมากขึ้น
“ถ้าเกิดเราจะทุ่มไปอันใดอันหนึ่ง นั้นเท่ากับว่าเราต้องเสียอันใดอันหนึ่ง ด้วยเหตุนี้แหละเราเลยมองว่า สิ่งที่มันขายได้ตลอดเวลาคงไม่ใช่เสื้อผ้า แต่คาเฟ่ เครื่องดื่ม ขนมเป็นสิ่งที่กลับมาได้บ่อย ๆ เลยตัดสินใจมาโฟกัสที่คาเฟ่แทน”
คาแรกเตอร์ที่เติบโตไปตามกาลเวลาของ Envies Cafe

สาขาตลาดน้อย เริ่มแรกมีการตกแต่งที่อาจจะไม่ได้เยอะ แต่มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนตรงที่เอาความเป็น Modernism และความร่วมสมัย ผสมผสานกับ Decoration แบบ 90’s ให้เข้ากับความเป็น Old Town มีสีสันที่ที่เห็นว้าว แต่พอเริ่มทำสาขาสาธุประดิษฐ์ แนวคิดก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มอยากที่จะมีความ Comfy และ Homie มีโทนสีที่เป็นโทนเบส-เอิร์ธโทนมากขึ้น ให้อยู่แล้วไม่อึดอัด


“Envies เหมือนเป็นการเติบโตของเรา ค่อย ๆ โตไปเรื่อย ๆ จากการเรียนรู้การใช้ชีวิต เรามองว่าไม่จำเป็นต้องตกแต่งร้านหวือหวา แต่ต้องเข้ามาแล้วไม่อึดอัด นั่งสบาย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีสไตล์ มีคาแรกเตอร์ ไม่ว่าเวลาผ่านไปอีก 5 หรือ 10 ปี ตรงนี้ถ่ายรูปมาก็ยังมีคาแรกเตอร์ของมัน”

อย่างที่บอกว่าดีไซน์ของ Envies Cafe เป็นเรื่องของการเติบโต พอเริ่มทำสาขา Trinity Complex ที่สีลม (สาขาล่าสุดที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน) เลยดูโตขึ้น ดูสุขุมมากขึ้นด้วยโทนสีอุ่น ๆ แต่ก็ยังมีงานดีไซน์และเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ อยู่นะ จุดนี้เองที่ทำให้สาขาสาธุประดิษฐ์เกิดการรีโนเวท เพราะอยากให้ทุกร้านดูเติบโตไปพร้อม ๆ กัน มีมิติใกล้เคียงกัน ดูกลมกลืนเป็นแบรนด์เดียวกัน


Envies Cafe สาขาสาธุประดิษฐ์หลังจากปรับลุคใหม่ จะมีกลิ่นอายสไตล์เรโทรหน่อย ๆ เพิ่มเติมคือเฟอร์นิเจอร์แน่นขึ้น ทั้งโซนกลางและด้านใน วางเฟอร์นิเจอร์แบบฟรีฟอร์ม เลือกหยิบจับมาแมทช์กันได้ลงตัวแบบคิดไม่ถึง ทำให้ถ่ายรูปสนุกขึ้นมาก ๆ เลยล่ะ
Mixology Coffee ความกล้าที่จะแตกต่าง
ความน่าสนใจของ Envies คือไม่ได้ว่าตัวเองเป็น Specialty ด้านกาแฟ แต่เลือกโฟกัสเครื่องดื่มที่ทำให้คนจดจำร้านได้ เป็นเมนูแบบ Mixology คล้าย ๆ กับดื่มค็อกเทล

จุดที่ทำให้มิกซ์กาแฟ เริ่มมาจากคุณนัทเองที่ไปฮอปปิ้งคาเฟ่มาหลายที่ แล้วรู้สึกว่าทำไมกาแฟถึงมีแต่ยูซุ หรือมีแต่ส้ม มองว่าเมนูสามารถเปิดกว้างได้มากกว่านั้น ซึ่งส่วนตัวก็ดื่มทั้งกาแฟ ทั้งค็อกเทล เลยพอเข้าใจว่ามันมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ให้สามารถทำเมนูที่มีคาแรกเตอร์ มีความแปลกใหม่ แต่อร่อย
“เรามองว่าแต่ละเมนู ลูกค้าจะต้องชิมแล้วรู้สึกได้ว่ามันมีจุดที่แปลกแต่ลงตัว เลยเอาเรื่องของค็อกเทลกับกาแฟมาผสมผสานกัน ซึ่งจริง ๆ บาริสต้าก็สามารถเป็นบาร์เทนเดอร์ หรือบาร์เทนเดอร์เองก็มาเป็นบาริสต้าได้เช่นกัน อยู่ที่ความเข้าใจองค์ประกอบของเครื่องดื่มนั้น ๆ”
ถึงจะไม่ได้เป็น Specialty แต่ก็ให้ความสำคัญกับเมล็ดกาแฟ มี House Blend ของทางร้าน ที่เน้นเป็นไทย อาราบิก้า Peaberry คั่วกลาง เข้ากับนม และน้ำผลไม้ได้ดี สิ่งสำคัญคือเรื่องการความบาลานซ์ ต้องไม่เปรี้ยวไป บอดี้ดี ไม่สโม้คหนัก เพราะการทำ Mixology Coffee ถ้า Taste-note บาลานซ์ไม่ดี จะทำให้เครื่องดื่มไม่อร่อย

เราได้ลอง Brut. (109 บาท) ช็อตกาแฟที่นำไปเชคกับไซรัปเมเปิ้ล ผสมน้ำแอปเปิ้ลและแพร์ มีความซ่าพร้อมกับรสหวานหอมนิด ๆ ฝาดปลาย ๆ คล้ายกับดื่ม Prosecco หรือสปาร์กกลิ้งไวน์

ถัดมาเป็น Fabulous Latte (89 บาท) แก้วนี้เป็นกาแฟนมที่ใช้กาแฟถึง 2 ช็อตเต็ม ๆ ตัวกาแฟออกโทนนัตตี้ช็อกโกแลตไม่ขมมาก นำไปผสมไซรัปเครมบูเล่ และไซรัปรสเปลือกส้ม ท็อปด้วยน้ำมันเปลือกส้มอีกที คล้าย ๆ กับค็อกเทล มีกลิ่นอายของส้มเต็ม ๆ

อีกแก้วเป็น Bloodmary (99 บาท) กาแฟที่ผสมน้ำส้มถึงสามชนิด คือ Orange, Sunkist และ Mandarin พร้อมเพิ่มมิติกลิ่นด้วยน้ำมันเปลือกส้ม เติมโซดาซ่า ๆ ให้มีความสดชื่น หวานอมฝาดนิด ๆ กำลังดีเลย

นอกจากเครื่องดื่มยังมีขนมคอนเซปต์เก๋ไม่แพ้กัน ด้วยการเพิ่มลูกเล่นและความฟิวชันลงไปให้ดูไม่น่าเบื่อ เราได้ลอง Vocado (119 บาท) เป็นชีสเค้กอะโวคาโดสูตรเฉพาะของทางร้าน หน้าตาเหมือนโดนัทแป้งนุ่ม แต่จริง ๆ เลเยอร์ล่างเป็นไวต์มอลต์ครัมเบิ้ลกรุบ ๆ ด้านบนเป็นครีมชีสผสมอะโวคาโดเนื้อเนียน หวานมันกำลังดีมา ราดซอสราสเบอร์รี่ช่วยตัดรส
Envies Cafe คาเฟ่ สาขาสาธุประดิษฐ์
เปิดทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
สาธุประดิษฐ์ 41 ช่องนนทรี ยานนาวา
BTS ช่องนนทรี แล้วต่อแท็กซี่ | ไม่มีที่จอดรถ
Google Maps