หนึ่งในหมุดหมายที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ในย่านทองหล่อเวลานี้ คงหนีไม่พ้น Marche Thonglor คอมมูนิตี้สเปซที่รวบรวมเอาการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ทองหล่อควรจะมีใส่เข้าไว้ด้วยกัน และพูดถึงทองหล่อ ถนนที่ตกกลางคืนเต็มไปด้วยสีสัน (และเสียงเพลง) ทั้งที จะให้ในโครงการนี้ไม่มีบาร์หรือไนต์คลับได้อย่างไร และหนึ่งในร้านที่กำลังเป็นกระแสในเวลานี้คงต้องยกให้ ECHELON Bangkok เขาเลย


ECHELON (อ่านว่า เอเชอลอน – ไม่ใช่ เอ็ด ชีราน แต่อย่างใดนะ) เกิดขึ้นโดยหุ้นส่วนคนหนึ่งของทางร้านที่ชอบสังสรรค์ หนึ่งในกิจกรรมที่ชอบคือ Bar Hopping เดี๋ยวไปจิบค็อกเมลก่อนตอนหัวค่ำ แล้วหาร้านนั่งฟังดนตรีสักหน่อย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการออกสเต็ปสักนิด พอมีโอกาสได้มาเป็นร้านเป็นของตัวเอง โจทย์แรกที่ถูกวางเอาไว้คือ อยากให้พื้นที่แห่งนี้เป็น Bar Hopping โดยไม่ต้องเดินทางได้ไหม
ที่นี่จึงอาจนับได้ว่าเป็นแห่งแรกที่สามารถมอบประสบการณ์ทั้ง Night Club และ Cocktail Bar ในที่เดียว โดยทางร้านตั้งแต่แบ่งทั้ง 2 ประสบการณ์ออกเป็นสองฝั่งกันแบบไม่ต้องแย่งกัน ฝั่งหนึ่งตั้งค็อกเทลบาร์เอาไว้ ส่วนอีกฝั่งมีสเตจดีเจพร้อมมิกซ์เพลงทั้งคืน ทั้งสองฝั่งหันหน้าเข้าหากันเพื่อที่จะสื่อว่า ไม่ว่าจะชอบแบบไหน ก็สามารถสนุกในพื้นที่เดียวกันได้เสมอ

“หากมีการจองโต๊ะเข้ามาล่วงหน้า เราจะได้รับ “ตั๋วโดยสาร” ที่ระบุชื่อของเราเอาไว้ด้วย ให้ฟีลเหมือนกำลังจะขึ้นขบวนเอ็กซ์เพรสของชนชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้นเลย”
และเมื่อจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากการเดินทางแล้ว การสร้างบรรยากาศ และการตกแต่งจึงต้องสอดคล้องกันไปด้วย หุ้นส่วนทั้งหมดก็ร่วมกันนำเสนอรูปแบบของ ECHELON และมีสิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือเหล่าหุ้นส่วนชอบดูซีรีส์เรื่อง Snowpiercer เป็นชีวิตจิตใจ (เนื้อเรื่องเล่าถึงโลกที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และมีมนุษย์กลุ่มเดียวที่รอดชีวิตโดยอาศัยอยู่ในขบวนรถไฟยักษ์ที่เดินทางรอบโลกโดยไม่มีวันหยุด) และพื้นที่ของร้านก็เป็นตอนลึกคล้ายตู้รถไฟพอดี จึงหยิบไอเดียของเคบินแรกของขบวนนี้ ที่มีไว้เฉพาะผู้โดยสารระดับ First Class เท่านั้นมาออกแบบพื้นที่ งานตกแต่งที่ดูคล้ายขบวนรถไฟ เบาะสีแดงสุดหรูสไตล์ Art Deco กับของตกแต่งที่มีความ Futuristic เข้ากันได้อย่างลงตัว และเพดานทรงโค้งให้ความรู้สึกคล้ายอยู่ในตู้รถไฟ บุรอบพื้นที่ด้วยวัสดุสะท้อนแสง ทำให้แสง สี ที่สาดเข้ามาคล้ายกับพื้นที่แห่งนี้กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่ด้วย รวมไปถึงการได้รับบริการในระดับ First Class ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากสื่อถึง ทำให้สามารถมอบประสบการณ์การเดินทางแบบ Journey To Space ได้อย่างตั้งใจ

เพื่อให้สมกับการเป็นการเดินทาง ที่ ECHELON จึงมีกิมมิกต่าง ๆ ซ่อนอยู่มากมาย อาทิ การเร่งจังหวะของพื้นที่โดยเริ่มจากการเปิดเพลง และฟีลของแสง สี เสียง ที่ชวนให้เราเดินไปสั่งค็อกเทลสักแก้วในช่วงหัวค่ำ ก่อนที่จะเร่งจังหวะ ปรับเปลี่ยนบีตของเพลง รวมถึงแสง สี และดีเจที่ขึ้นสเตจวันละ 3 คนตลอดทั้งสัปดาห์ ที่ขึ้นเปิดเพลงกันตั้งแต่ 2 ทุ่มยาวไปจนร้านปิด เรียกว่างานดีเจคือจัดแน่นที่สุดแห่งหนึ่งบนเส้นทองหล่อเลยก็ว่าได้ หรือหากมีการจองโต๊ะเข้ามาล่วงหน้า เราจะได้รับ “ตั๋วโดยสาร” ที่ระบุชื่อของเราเอาไว้ด้วย ให้ฟีลเหมือนกำลังจะขึ้นขบวนเอ็กซ์เพรสของชนชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้นเลย


ด้วยความที่เรามาตั้งแต่หัวค่ำ จึงขอมูฟตัวเองไปที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์สักหน่อย สำหรับค็อกเทลของที่นี่จะมาในคอนเซปต์ Space ให้ล้อไปกับ Journey To Space ด้วย และส่วนของ Signature Cocktial จะนำคลาสสิคค็อกเทลมาทวิสต์ในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย Spirit ที่หลากหลาย
เราลองแก้วแรกเป็น Chemical X (390 บาท) เครื่องดื่มที่มีเบสเป็น Gin และประกอบด้วย Midori, Blue & Blossom Cordial, Tonic และ Blue Curacao ท็อปด้วยเยลลี่น้องหมีหลากสีสันบนก้อนน้ำแข็ง เวลาเสิร์ฟจะมีกิมมิกโดยวางไว้บนแท่นที่เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ทำให้ตัวเครื่องดื่มเล่นกับไฟดูสนุกสนาน แก้วนี้จะมาหวาน ๆ มีกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย แต่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี เราแนะนำให้แช่เยลลี่น้องหมีเอาไว้ในแก้วแล้วค่อยกินตอนท้าย จะเหมือนฟีลเยลลี่แช่แอลกอฮอล์เลยล่ะ


ต่อมากับ In Every Universe (420 บาท) ที่ประกอบไปด้วย Vermouth, Malibu นม และน้ำสับปะรด ท็อปด้านบนด้วยไวน์แดงให้เป็นเลเยอร์ และมี Lollipop วางไว้ด้วย แนะนำว่าไม่ต้องมิกซ์ Spirit เข้าด้วยกัน ให้ดื่มโดยปล่อยให้ไวน์แดงไหลผ่านลงไปก่อน แล้วค่อยตามด้วยค็อกเทลที่เหลือ ก็จะได้รสชาติใหม่ ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยล่ะ

สุดท้ายกับ Goddess Of Love (790 บาท) แก้วนี้ที่สาว ๆ น่าจะชอบกับ Lillet, Cointreau เติมความหอมด้วยชากุหลาบ และท็อปด้วยโฟมลิ้นจี่ ความพิเศษของแก้วนี้คือเป็น Interactive Cocktail ด้วยนะ เราสามารถสั่งให้โต๊ะอื่น หรือให้ใครที่เรากำลังหมายตาอยู่ในร้านได้ โดยเมื่อถึงเวลาเสิร์ฟ สปอตไลต์ในร้านจะโฟกัสไปยังผู้ที่สั่งให้ และผู้ที่ได้รับด้วย งานนี้ไม่ต้องเหงากลับบ้านคนเดียวแน่นอนถ้าสั่งแก้วนี้!

เราลองสั่ง Spicy Dog (350 บาท) มาเป็นจานแกล้มในคืนนี้สักหน่อย ไส้กรอกพรีเมียมที่ชิ้นหนึ่งจะเป็นรมควัน ส่วนอีกชิ้นจะเน้นไปทางเฮิร์บหน่อย ๆ โรยด้วยใบไทม์และพริกไทยดำ เสิร์ฟคู่กับพริกหวานกริลล์ กับซอสโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง รสชาติคล้าย ๆ ศรีราชามาโยนิดหน่อย

สำหรับเรา ECHELON เปรียบดั่งขบวนรถไฟที่พาเราทะลุสเปซได้อย่างที่เขาตั้งใจไว้จริง ๆ ทั้งด้วยการตกแต่ง ไปจนถึงการอัปบีตของร้านตั้งแต่มาแนวป๊อบ ๆ โอลด์สกูลในช่วงหัวค่ำ ก่อนที่จะพาเราทะยานสู่จุดสูงสุดด้วยฮิปฮอปและบีตหนัก ๆ ชวนโยก กับเครื่องดื่มที่ไม่ได้มีแค่ค็อกเทลเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องดื่มหลสกหลายที่รองรับทั้งมาเดี่ยว มาคู่ หรือยกกันมาทั้งแก๊งก็ได้ เรียกว่าที่นี่ช่วยปลุกทองหล่อที่ห่างหายบรรยากาศไนต์คลับสุดเหวี่ยงแบบนี้ไปนานได้ดีทีเดียว
ECHELON BANGKOK
เปิดทุกวัน เวลา 19:00 – Late
ชั้น 3 โครงการ Marche Thonglor ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
BTS ทองหล่อ แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ