Earthy Society ร้านอาหารคูซีนยุโรปที่ตั้งใจใช้วัตถุดิบไทย ซัพพอร์ตเกษตรกรท้องถิ่น และสร้างไวบ์ใหม่ ๆ ที่ดีต่อใจให้กับชาวปรีดีฯ

ให้นึกถึงร้านอาหารอร่อย คงนึกออกกันหลายร้านแบบไม่ยาก แต่ถ้าให้นึกถึงร้านอาหารที่อร่อยด้วย และใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย ในบ้านเราเรียกได้ว่ายังมีน้อยมาก ๆ และครั้งนี้เราได้พบกับ Earthy Society ร้านอาหารที่พยายาม Support Local และเป็น Positive Impact Restaurant ซ่อนตัวอยู่ในย่านปรีดีฯ 26

Earthy Societ เป็นร้านอาหารที่เน้นคูซีนแนวยุโรป สเปน อิตาลี ที่เน้นหนักไปทางพิซซ่า พาสต้า Cold Cut Tapas ซึ่งเป็น All Day Dining ที่มีครบทั้ง Breakfast, Brunch, Lunch และ Dinner

ด้วยความที่คุณ ตั๋ง – อังกูร คล่องพิทักษ์ เจ้าของร้านนี้ เคยอยู่ต่างประเทศหลายสิบปี ทั้งสิงคโปร์และสเปน ทำให้ไวบ์ร้านมีความอินเตอร์อยู่ไม่น้อย ทั้งการมีที่นั่งชั้น 2 เปิดโล่งแบบไม่ใช่ห้องแอร์ การมีสวนเล็ก ๆ หน้าร้าน ที่คุณตั๋งบอกเราว่า ตั้งใจให้เป็น Pocket Park ให้กับคนในย่านได้มาใช้กัน

เมื่อสถาปนิก มาทำร้านอาหาร

ไวบ์ที่เราเห็น เดิมทีตรงนี้เป็นตึกทึบ ๆ เต็มพื้นที่จนถึงฟุตบาทตามปกติเลย ด้วยความที่คุณตั๋งเป็นสถาปนิก เลยแก้แบบ ออกแบบเอง โดยวางคอนเซปต์หลัก ๆ คือให้ความสำคัญกับความเป็นเอาท์ดอร์ค่อนข้างเยอะ ตัดสินใจทุบตึกส่วนหน้าทำเป็นที่นั่งเอาท์ดอร์กับสวนเล็ก ๆ 

ทุบชั้น 2 ทำเป็นเหมือนกับระเบียง และเว้นส่วนหน้าให้กลายเป็นเพดานสูง รับกับโซนสวน ส่วนการตกแต่งเลือกเฟอร์นิเจอร์จากโรงงานที่นำไม้เก่ามาทำเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เพื่อเป็นการ minimize วัสดุ

“เราอยากจะเป็นสเปซของคนปรีดีฯ เลยสร้าง Pocket Park ให้กับซอย เป็นเหมือนสวนหย่อมเล็ก ๆ ใครอยากจะเดินลัดก็เดินได้ เด็ก ๆ แวะมาเล่น คือไม่ต้องซื้ออาหารก็ได้ อย่างน้อยเค้าก็มีประสบการณ์ที่ดี ทำให้ Community มันน่าอยู่มากขึ้น”

จุดเริ่มต้นการทำร้านอาหารแบบ Positive Impact

จุดเริ่มต้นในการทำร้านอาหารที่มีแนวคิด Positive Impact คุณตั๋งเล่าว่า ต้องเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ทำงานเป็นสถาปนิก และได้ไปเรียนต่อที่สเปน เป็นที่ที่ทำให้ได้เรียนรู้กาแฟมากขึ้น รวมถึงกัญชาด้วย

พอกลับมาไทย ก็ได้ทำงานบริษัทฝรั่งเศส ซึ่งที่นี่ให้ความสำคัญของเรื่อง Sustainability และ Positive Impact ที่เกิดในสังคมไทย ทำให้ได้แรงบันดาลใจว่า ถ้ามีโปรเจกต์จะทำอะไรสักอย่าง มันควรทำเพื่อสังคมด้วย ไม่ใช่แค่ตัวเอง

พอออกมาทำร้านกาแฟกับร้านกัญชา เลยได้แรงบันดาลใจว่าทุกแก้วที่ขายก็บริจาคด้วย และเลือกซัพพอร์ตเกษตกรท้องถิ่น ทั้งเมล็ดกาแฟ และกัญชา 

“ตอนที่ไปทำบริษัท French Company ที่เป็น Digital Development เค้าให้ความสำคัญของ Sustainability และ Positive Impact ที่เกิดในสังคมไทย เราก็เรียนเมืองนอกมา เห็นว่าในเมืองนอกเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติมาก พอมาอยู่ในบริษัทฝรั่งเศสที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทย (มากกว่าคนในประเทศเสียอีก ขำ) เราเลยเหมือนได้ปลูกฝังจิตสำนึกดี ๆ”

เปิดร้านกาแฟได้ปีกว่า ๆ ก็ตัดสินใจเปิด Earthy Society ขึ้นมา จริง ๆ ตั้งใจจะทำร้านกาแฟแหละ แต่ในย่านพระโขนงนี้ร้านกาแฟเยอะแล้ว เลยอยากเพิ่มความวาไรตี้ให้กับย่านมากขึ้น เกิดไอเดียใหม่ อยากลองทำ Positive Impact Restaunt ใช้วัตถุดิบที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำร้านอาหารให้คนย่านปรีดีฯ

Earthy เกิดมาจากความตั้งใจที่ว่า “อยากช่วยเหลือเกษตรกร ชาวประมง ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม อยากทำเพื่อสังคมด้วย ไม่ใช่แค่ตัวเอง” เลยเสาะหาเลือกวัตถุดิบที่มาจากแหล่งที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงปลาหรือสัตว์น้ำรับมาจากเจ้าที่ทำประมงเรือเล็กเท่านั้น ต้องปลอดสาร มีอย. และมีการประกันราคาให้ชาวบ้าน

“เราเลือกซัพพลายเออร์ที่เขาทำงานอยู่กับชุมชน อย่างไข่ไก่ก็เป็นไข่ออร์แกนิกที่ฟาร์มทำตาม Sustainable Development Goal เราก็เลือกมาจากคนที่มี Mindset คล้าย ๆ เรา”

คูซีนยุโรป กับวัตถุดิบไทย เป็นไปได้จริงไหม

อย่างที่บอกว่า ที่ Earthy หลัก ๆ เมนูจะเอนไปทางยุโรป 80% หยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เคยกินที่สเปน ทำให้เราสงสัยว่าการใช้วัตถุดิบในไทย ทั้งหมู วัว ไข่ ไปจนถึงชีสต่าง ๆ ที่เราเองก็แทบไม่รู้มาก่อนเลยว่า ในไทยทำชีสได้ มาทำเป็นแบบคุยซีนยุโรปเนี่ย มันมีเอฟเฟ็กต์ไหม 

คุณตั๋งบอกเราว่า จริง ๆ มันอาจจะมีความท้าทายในเรื่องของความเข้าใจ อย่างเช่นเรื่องของคุณภาพชีส หรือว่าเรื่องของรสชาติชีสที่มันเกิดขึ้นในไทย มันอาจจะมีความที่มันไม่เหมือนที่เป็นยุโรปบ้าง แม้กระทั่ง  ไส้กรอก Cold Cut ทุกอย่างที่ร้านเลือกใช้เป็นเนื้อวัวไทย อาจจะมีเรื่องของเทกเจอร์ หรือชาติที่ไม่เหมือนกันมาก

“เราพยายามบอกทุกคนว่า คุณกินอาหารอร่อย กินที่ไหนก็ได้หมด แต่กินยังไงให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นด้วยนี่แหละสำคัญ เรามองว่าอันนี้มันคือคอนเซ็ปต์ของร้าน ที่เราอยาก Keep Going ต่อไป”

เรามาคราวนี้ ได้ลองหลายเมนูมาก ๆ ทั้งไส้กรอกไทย ชีสไทย และ Cold Cut ไทยเลย

เริ่มด้วย Gambas Al Ajiro (290 บาท) เป็นอาหารสเปน ที่ใช้กุ้งลายเสือตัวแน่นเด้ง ผัดกับพริกแห้ง กระเทียม น้ำมันมะกอกสไปซี่ เสิร์ฟมากับซาวโดจ์ โดยที่ร้านเลือกใช้เป็นกุ้งจากเกาะลันตา ที่ใช้ประมงเรือเล็กเท่านั้น ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม สด คุณภาพดี และยังปลอดสารพิษด้วย

ตามมาด้วยแก๊ง Tapas ที่กินกับไวน์เข้ากันสุด ๆ ทั้ง Cold Cut Salmon Caprese (160 บาท) แซลมอนชิ้นหนาที่ทางร้านมาบ่มเอง รสเค็มกำลังดี ชอบที่ทำแซลมอนออกมาชิ้นหนามาก! Cold Cut Thai Coppa (130 บาท) เป็น Cold Cut ที่ใช้วัตถุดิบไทย และผลิตในไทยเลย ทำออกมาได้รสชาติเข้มข้นดีมาก ๆ

ชีสเราลอง Earthy Cheese (120 บาท) เป็นชีสที่มาจากเชียงใหม่ที่ใช้นมวัวไทยในการผลิต รสชาติแน่นดี รู้สึกว่าไม่หนักเกินไป และ Roasted beef slices (160 บาท) เป็นเนื้อวากิว A5 จากขอนแก่น รมควันหอม ๆ ท็อปด้วยพาเมซานชีสไทยเช่นกัน

อีกจานเป็น Moolhoom Breakfast (330 บาท) เป็นไส้กรอกสไตล์ British Sausage โดยใช้หมูหลุมจากขอนแก่น (เป็นหมูที่เลี้ยงในคอกแบบวิถีชาวบ้าน ไม่ได้ขุนจนอ้วนแบบหมูอุตสาหกรรม ทำให้มีไขมันน้อยเนื้อแน่น) ด้วยความที่หมูไม่ค่อยมีไขมัน ทำให้เนื้อร่วนนิด ๆ มีความหอมสมุนไพร

และยังมี Margherita Pizza (270 บาท) พิซซ่าสไตล์นโปเลียน ที่ทางร้านทำเองตั้งแต่แป้ง ท็อปด้วย ใช้เป๊ปเปอโรนีจากเนื้อไทย และมอสเซอเรลล่าไทยเช่นกัน แป้งบางกำลังดี เหนียวนุ่ม ไม่แห้งเกิน

ที่น่าสนใจอีกเมนูคือ Beef Bolognese (280 บาท) พาสต้าบูราต้า ที่ใช้เป็นบูราต้าไทย เป็นโรงงานที่ใช้วัวไทยผลิต ซึ่งเจ้าของเป็นคนอิตาลีเลย ทำให้รสชาติเลยทำออกมาได้ค่อนข้างดี และมี Fish n Chips (470 บาท) เป็นปลาแบบ Fish of the day จากลันตาเช่นกัน ทอดมากรอบ ๆ เนื้อแน่น กินกับซอสทาร์ทาร์เข้ากันดี

เป็นร้านอาหารที่ให้ทั้งความอร่อยดีต่อใจ แถมยังดีต่อสิ่งแวดล้อม ใครแวะเวียนมาย่านปรีดีฯ ลองมาเอนจอยกัน

Earthy Society
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 08:30 – 22:30 น.
ปรีดี พนมยงค์ 24
BTS พระโขนงแล้วต่อพี่วิน | จอดรถได้ในซอย
Google Maps