สำหรับแฟนแบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทยอย่าง Copenn. ต้องบอกว่าตอนนี้อย่าเผลอไปหน้าร้านที่เจริญกรุงล่ะ เพราะตอนนี้กำลังปิดชั่วคราวเพื่อรอการกลับมาใหม่อีกครั้งในเร็ววัน แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถชดเชยได้ด้วยการแวะเวียนไปยัง Pop Up ล่าสุดของเขา ที่ขยับไปตั้งอยู่ในย่านทรงวาด กับ Copenn. Songwat ได้เลย

หลังจากที่โดดไปเปิดสาขาที่สองในย่านใจกลางเมืองอย่างเส้นสุขุมวิทมาก่อนหน้านี้ พอมีโอกาสได้เปิดหน้าร้านอีกแห่ง ก็หวนกลับมายังย่านเมืองเก่าอีกครั้ง ปักหลักในย่านที่กำลังป๊อบสุด ๆ ในเวลานี้อย่าง “ทรงวาด” และก็เปิดมาได้สักพักแล้ว

เราแอบได้ยินว่าเราน่าจะได้เจอ Copenn. Songwat เพียง 1 ปีเท่านั้น ด้วยระยะเวลาการเช่าพื้นที่ ถึงอย่างนั้น เรื่องของงานดีไซน์และการตกแต่งร้านก็ยังใส่เต็มแบบไม่ประนีประนอม เพื่อให้สมกับการเป็น Design Concept Store ตัวอาคารขนาดสองคูหา ตั้งอยู่ริมถนนทรงวาด เชื่อชวนให้เราเดินเข้าไปตั้งแต่หน้าร้านสีดินผิวขรุขระ


เติมด้วยวัสดุโลหะที่ดัดโค้งคล้ายเป็นกันสาดเหนือประตู ที่หากมองดี ๆ แล้วจะเป็นเหมือนวัสดุปิดผิวที่ไม่ได้รื้อถอนโครงสร้างเดิมของอาคารออก ซึ่งทำให้ไม่ทำลายสถาปัตยกรรมเดิมของตัวอาคาร แต่ยังคงถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ Copenn. ออกมาได้อย่างดี และสามารถรื้อถอนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไปได้อีกแน่ ๆ


“อีกจุดที่น่าสนใจคือส่วนของฝั่งขวาทางหน้าร้าน เตะตาด้วยบริเวณดิสเพลย์สินค้าใหม่ ที่เลือกใช้เชือกถักผสานกับตาข่ายที่ทำมาจากโลหะ เป็นการผสมผสานระหว่างความอ่อนโอนและแข็งกร้าวของสองสัจจะวัสดุที่เข้ากันได้อย่างลงตัว”
แน่นอนว่างานตกแต่งภายในร้านยังคงเน้นการหยิบเอาสัจจะวัสดุมาใช้ ทั้งหินแกรนิต ที่ถูกนำมาใช้เป็นทั้งพื้น ชั้นวางสินค้า หรือบริเวณอ่างล้างมือ ไม้ ที่ถูกต่อเติมขึ้นมาจากชั้นแกรนิต เพื่อวางผลิตภัณฑ์เครื่องหอมต่าง ๆ โดยเลือกที่จะใช้สีและพื้นผิวเดิมของไม้โดยไม่ปิดทับใด ๆ และโลหะ ที่ประกอบในสเปซต่าง ๆ ของร้าน ทั้งชั้นลอยที่ช่วยยกสินค้าให้เตะตามากขึ้น ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์สำหรับการทดลองกลิ่นต่าง ๆ ด้วย

อีกจุดที่น่าสนใจคือส่วนของฝั่งขวาทางหน้าร้าน เตะตาด้วยบริเวณดิสเพลย์สินค้าใหม่ ที่เลือกใช้เชือกถักผสานกับตาข่ายที่ทำมาจากโลหะ เป้นการผสมผสานระหว่างความอ่อนโอนและแข็งกร้าวของสองสัจจะวัสดุที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

เชื่อมโยงไปยังต้นกกตากแห้งมัดใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ดุจงานศิลปะ ที่คิดว่าน่าจะเป็นวัสดุเดียวกับเชือกถักตรงชั้นดิสเพลย์ใกล้ ๆ นั่นเอง

ถึงจุดนี้แล้วก็ต้องของลองกลิ่นใหม่สักหน่อย (แอบบอกว่า Routeen. เป็นแฟน Copenn. ตัวยงสุด ๆ เพราะใช้มาแล้วครบทุกกลิ่น!) กับ Plant Portrait ที่ยังคงอยู่ในโทนไม้ ๆ ธรรมชาติ ๆ ตามสไตล์ของ Copenn. เช่นเดิม แต่ตัวนี้จะออกมาในแนว Greenery หน่อย ๆ โดยมีโน๊ตจาก Sage, Fennel, Geranium และ Frankincense ที่ทำให้เราคิดถึงกลิ่นของต้นไม้ใบหญ้าที่ต้องแสงแดดอยู่เหมือนกัน

ส่วนใครที่สงสัยว่ากลุ่มกลิ่นของ Copenn. จะอธิบายออกมาอย่างไรดี ก็ต้องบอกว่าสไตล์ของกลิ่นเขาก็สอดคล้องกับดีไซน์และวัสดุที่เลือกใช้ตกแต่งร้าน มีการดึงกลิ่นจากธรรมชาติต่าง ๆ มีความเอิร์ธ และคนชอบโทนไม้ ๆ น่าจะหลงรักกลิ่นของที่นี่ได้ไม่ยาก


แอบบอกว่ามาที่นี่ ไม่ใช่จะมีแค่ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมใช้ในบ้านอย่างก้านไม้หอม เอสเซนเชียลออยล์ หรือรูมสเปรย์เท่านั้นนะ แต่ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งสบู่ล้างมือ สบู่เหลว ไปจนถึงลิปสติกก็มี