ใครเป็นแฟนขนมฝรั่งเศสสไตล์ญี่ปุ่น ของเชฟชาวญี่ปุ่นที่มาเปิดในไทยที่โรงแรมนิกโก้กันบ้าง ร้านที่เรากำลังพูดถึงก็คือ Chez Shibata 365 ร้านเค้กและเบเกอรี ของเชฟชิบาตะชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ตอนนี้เค้าย้ายร้านสู่บ้านหลังใหม่ในซอยสุขุมวิท 38 เป็นที่เรียบร้อย บ้านไม้สีขาวบรรยากาศโฮมมี่ ใหญ่และครบเครื่องกว่าเดิม
ครั้งแรกที่ผ่านซอยสุขุมวิท 38 แล้วเห็นป้ายร้าน Chez Shibata 365 (เชชิบาตะ 365) ก็แอบนึกว่าสาขาสองหรือเปล่านะ แต่พอได้พูดคุยกับคุณ ขนม – ทิตานัน หรุ่นเริงใจ หนึ่งในเจ้าของร้านจึงได้รู้ว่า นี่คือบ้านใหม่ที่ Chez Shibata 365 ย้ายออกมาปักหลักอยู่ที่นี่แทนแล้ว
เราขอพาย้อนกลับไปเล็กน้อยสำหรับใครที่อาจจะยังไม่คุ้นชื่อร้าน Chez Shibata 365 ต้องบอกว่าร้านนี้เป็นร้านของเชฟชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ทาเคชิ ชิบาตะ เป็นเชฟผู้หลงใหลในการทำขนม เคยใช้ชีวิตและทำงานในฝรั่งเศส ด้วยความเข้าใจในความต้องการของคนญี่ปุ่น เขาเลยหาจุดที่ลงตัวระหว่างขนมญี่ปุ่นและฝรั่งเศส จนได้รสชาติที่ถูกปากคนญี่ปุ่น และสามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองแห่งแรกที่เมืองทาจิมิ ในปี 1995
ด้วยหน้าตาที่สวยงาม รสชาติที่ถูกใจคนเอเชีย ทำให้เขาสามารถขยายสาขาได้อีกหลายแห่งในญี่ปุ่น จนกระทั่งมาเปิดที่ประเทศไทยครั้งแรกในปี 2019 ที่โรงแรม Nikko ย่านทองหล่อ จากการชักชวนของพาร์ทเนอร์คนไทยที่ชื่นชอบการทำขนมและอยากเปิดร้านขนมเหมือนกัน โดย เชชิบาตะ ในไทยจะแตกต่างจากที่ญี่ปุ่นเล็กน้อย ทั้งโลโก้ และชื่อร้านที่มีเลข 365 ต่อท้าย คุณขนมเล่าว่า ตัวเลขนี้ตั้งใจสื่อว่า อยากให้มากินขนมอร่อย ๆ ทุกวันแบบ 365 วันเลย และก็ดูจำง่ายด้วย
ขนมต่าง ๆ ก็เป็นสูตรของเชฟชิบาตะทั้งหมด โดยเชฟจะมาเทรนด์พนักงานและวางสูตรไว้ให้ ส่วนตัวเชฟเองจะเบสอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก แวะเวียนมาทุก ๆ สามเดือน ซึ่งโชคดีมาก ๆ วันที่เราไปเป็นช่วงจังหวะที่เชฟมาไทยพอดี เลยมีโอกาสได้แชะภาพมาฝาก และเชฟยังนำมีดจากญี่ปุ่นมาให้ชม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่จะให้มีดกันในวันเปิดร้านใหม่ และก็ใช้มีดนี้แหละตัดแบ่งขนมให้เราได้ลอง (คมมาก ๆ)
จุดเด่นของเค้กที่เชชิบาตะ 365 คือหน้าตาและรสชาติ เรียกว่าเป็นเค้กฝรั่งเศสสไตล์ญี่ปุ่น ข้อดีคือถ้าลองไปชิมเค้กที่ยุโรปจะรู้สึกว่าหวาน แล้วก็ชิ้นใหญ่ แต่ว่าคนญี่ปุ่นเขาเข้าใจคนเอเชียมากกว่า ซึ่งคนเอเชียมักจะรับรสชาติได้เยอะกว่า มีความ Sensitive กับรสชาติมากกว่า เชฟเลยทำแบบหวานน้อยลงมากกว่าเดิม และมีการปรับให้ portion ให้ไม่ใหญ่มาก แล้วสไตล์ของเชฟชิบาตะเอง จะเป็นคนทำสไตล์เนื้อแน่น ไม่ได้เบาฟูมาก
“เค้กเราไม่ได้สวยที่สุดนะ แต่เชฟเขาจะมีลิมิตว่า เขาจะไม่ใช้สีที่มันมีอยู่ในนั้นจริง ๆ เช่น จะไม่มีกรีนทีสีชมพู จะไม่มีเค้กสีฟ้า มันอาจจะไม่ได้แฟนซี แต่หลัก ๆ เขาก็จะต้องใช้แบบธรรมชาติที่มันมีอยู่ในนั้นจริง”
นอกจากจะทำเค้กและขนมแล้ว ยังมีบริการด้านของขวัญที่ทำขึ้นมาอย่างจริงจัง ทั้งจัดเซต ริบบิ้น กล่องของขวัญ บริการส่ง มาเสริมให้ลูกค้าเลยว่าเป็นเซอร์วิสหนึ่งที่เกิดขึ้น และได้รับผลตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด
บ้านใหม่สีขาวของ Chez Shibata 365
จุดที่ทำให้เชชิบาตะ 365 ย้ายบ้านใหม่ ส่วนหนึ่งเกิดจากเซอร์วิชเรื่องของขวัญเยอะขึ้น ทำให้ที่เก็บของเริ่มไม่พอ ต้องใช้ที่สต๊อกของเยอะมาก กลายเป็นว่าเซอร์วิสของขวัญที่ดีขึ้น ทำให้อุปกรณ์ทำของขวัญก็เยอะขึ้น เลยมองหาที่ที่ใหญ่ขึ้น
ซึ่งกว่าจะได้บ้านหลังนี้มา ก็ใช้เวลาหาร่วมปีเลยทีเดียว จุดสำคัญคือต้องมีที่จอดรถ เดินทางสะดวก และยังอยากอยู่ในละแวกเดิม ซึ่งที่ต้องมีจอดรถ เพราะว่าช่วงโควิดที่โรงแรมต้องปิด เคยได้ย้ายไปเปิดร้านชั่วคราวที่คอมมูนิตี้ย่านสุขุมวิท 49 ทำให้เห็นว่าลูกค้าต้องการที่จอด ไม่ว่าจะคนมันจะแวะ pickup เค้กไว ๆ หรือว่าจะเป็นคนที่มานั่ง ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก
พอตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้ ก็เริ่มรีโนเวท ซึ่งดูเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ เพราะเดิมทีข้างหน้าจะมีต้นไม้เยอะมาก แล้วร้านก่อนหน้านี้ทำสิ่งปลูกสร้างเต็มพื้นที่ข้างหน้าเลย (ใครเคยผ่านกลับมาคราวนี้จำไม่ได้แหง ๆ) โดยร้านเริ่มเคลียร์พื้นที่ข้างหน้าเพื่อทำเป็นที่จอดรถ ส่วนแต่ตัวบ้านยังเก็บโครงเดิมไว้ จัดการทำความสะอาด ปูพื้นใหม่ ติดไฟ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าอายุประมาณ 60 ปีได้แล้ว
“เราพยายามทำที่นั่งให้ลูกค้าอยากนั่งมากขึ้น มองหาที่ที่มีแสงธรรมชาติ ที่ลูกค้าถ่ายรูปได้ เพราะก็มีลูกค้าที่มองที่ถ่ายรูปได้ ซึ่งตอนเราอยู่ในโรงแรมที่เป็นอินดอร์ สีก็อาจจะเพี้ยนบ้าง เราก็มาเติมเต็มตรงนั้น และยังมีโซนสวน ที่เป็น Pet Friendly พาน้องหมาน้องแมวมานั่งได้”
เมนูต้องลองที่ Chez Shibata 365
ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือ ที่นี่มีอาหารคาวแล้ว เข้ามาช่วยตอบโจทย์ลูกค้าให้มีทางเลือกนอกจากเครื่องดื่ม กับขนมแล้ว ก็ยังมีเมนูอาหารให้กินจริงจังได้ ซึ่งเชฟชิบาตะก็ถนัดอาหารอิตาเลียนอยู่แล้วด้วย
“เราอยากมาเติมสิ่งที่หายไปของร้านอาหารแถวนี้ ที่ส่วนใหญ่จะเป็น fine-dining หรือ luxury แล้วก็ค่อนข้างแพง ของเราจะเป็นแบบจานเดียวง่าย ๆ โฮมมี่ ๆ หน่อย เราอยากเป็นเซฟโซน”
เราได้ลองเมนูง่าย ๆ อย่าง ข้าวผัดเนยกระเทียม (135 บาท) ข้าวผัดเนยแท้ที่มีความหอยกระเทียมกำลังดี ข้าวเม็ดร่วนสวย เป็นเมนูเซฟโซนสำหรับใครที่อยากกินอะไรง่าย ๆ เบา ๆ
อีกเมนูเป็น สปาเกตตี้เบคอนพริกแห้ง (220 บาท) เมนูเอาใจคนไทยสุด เป็นสปาเกตตี้ผัดแห้ง ๆ รสจัดจ้านหอมใบโหระพา เพิ่มเทกเจอร์ด้วยเบคอนกรอบ กินเพลิน
มาที่นี่ต้องลอง Caramel High (195 บาท) เมนูขนมเมนูแรกของเชฟ ที่มีมานานมากกว่า 20 ปี เป็นเอแคลร์สูตรเฉพาะที่สอดไส้คาราเมลโฮมเมดแบบแน่น ๆ หวานฉ่ำ ท็อปด้วยเนยฝรั่งเศส และเกลือหิมาลายัน ตัวแป้งที่ไม่หวานมากและเนยช่วยตัดรสหวานของคาราเมลได้ดี
Mont Blanc (325 บาท) เค้กเกาลัดมองบลังค์รสหวานมันสูตรเฉพาะของเชฟ ด้านในเป็นไวท์ช็อกโกแลตและวิปครีมเนื้อเนียน ความพิถีพิถันคือเกาลัดเพสชั้นนอกใช้มือบีบขึ้นลายแบบแฮนด์เมด จนได้ลายที่สวยและสมมาตรสุด ๆ
และเมนูขวัญใจโซเชียล Mini Strawberry Summer (395 บาท) สตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก ที่ไซน์เป็นคริสตัลเจลลี่อัดแน่นด้วยสตรอว์เบอร์รีสดชิ้นโต สดฉ่ำเต็มคำ ตัวชีสเค้กเนื้อเนียน ข้างในมีเลเยอร์ของเจลลี่อีกชั้นช่วยเสริมรสชาติความเป็นสตรอว์เบอร์รีมากขึ้น และมีฐานเป็นครัมเบิ้ลกรุบ ๆ เพิ่มเทกเจอร์
ส่วนเครื่องดื่มเน้นเป็นเมนูสด ๆ อย่าง Milky Strawberry (185 บาท) นมสดกับแยมสตรอว์เบอร์รีโฮมเมดท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีสด คนเข้ากันแล้วจะได้นมสดที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานมันหอมสตรอว์เบอร์รีและมีเทกเจอร์ให้เคี้ยวเพลิน ๆ
และ Ice Rose Tea Peach (230 บาท) ชาพีชรสเปรี้ยวหวานสดชื่น หอมกลิ่นกุหลาบ และยังท็อปด้วยผลไม้เปรี้ยว ๆ ให้ความรู้สึกเฟรช
นอกจากนี้ที่ทางร้านยังมีในส่วนของขนมที่เป็นเหมือนขนมที่แพ็กใส่กล่อง แพ็กเกจจิ้งสวย ๆ เป็นขนมกรอบ ๆ ไว้กินเล่นกับชา กาแฟ หรือเอาไปเป็นของขวัญ ของฝากก็ได้เช่นกัน ซึ่งขนมเหล่านี้ก็จะมีอัปเดตใหม่ ๆ เรื่อย ๆ รวมถึงเซอร์วิชส่งของขวัญตอนนี้ทางร้านก็พัฒนาเซอร์วิชที่สั่งขนมและจ่ายจากต่างประเทศ เพื่อส่งในไทยได้แล้ว สอบถามหรือติดตามได้ทางเว็บไซต์ https://chezshibata365.com/
Chez Shibata 365
เปิดทุกวัน 08:30 – 19:30 น. (ส.-อา. เปิดถึง 20:30 น.)
สุขุมวิท 38
BTS ทองหล่อ | มีที่จอดรถ
Google Maps