BOUND CAFE ศูนย์รวมจิตใจของคนรักกาแฟ (และพายสุดอร่อย) ในอาคารทรงโบสถ์ย่านปุณณวิถี

ปุณณวิถี ถือเป็นอีกหนึ่งย่านบนเส้นสุขุมวิทที่อาจยังไม่มีคาเฟ่เกิดขึ้นมากนัก หากไล่มาตั้งแต่ต้นสุขุมวิท ส่วนใหญ่แล้วจะโดดข้ามย่านนี้ไป แล้วเราจะเจอคาเฟ่อีกทีที่อุดมสุข แต่ล่าสุดในซอยปุณณวิถี 27 ของซอยสุขุมวิท 101 มีคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดตัวสด ๆ ร้อน ๆ ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอย่าง BOUND CAFE ที่มองเผิน ๆ จะนึกว่า นี่เรากำลังมาคาเฟ่ หรือมาโบสถ์นิกายอะไรกันแน่นะ

BOUND CAFE
sunlight logo

ด้วยตัวอาคารทรงจั่วสีขาว ซุ้มประตูและหน้าต่างโค้ง เหนือประตูมีสัญลักษณ์วงกลมซ้อนเหลื่อมกัน 2 วง (ที่แวบแรกก็คิดว่าต้องเป็นไม้กางเขนสิ แต่คิดอีกที เอ๊ะ ที่นี่ไม่ใช่โบสถ์นี่นา) ที่ให้ฟีลลิงเหมือนมาโบสถ์คริสต์มาก ๆ จนอยากรู้ถึงแรวบันดาลใจของร้านเลยว่าได้มาจากไหน Routeen. จึงขออนุญาตจับตัวคุณฮั้น – ศิรวัชร กิตติสุพัฒน์ หนึ่งในหุ้นส่วนร้านมาพูดคุยกันสักหน่อย คุณฮั้นบอกว่าที่นี่ดูกันอยู่ 3 คน โดยมีคุณกิ๊บ – วิมลิน กิตติสึพัฒน์ แฟนสาว และคุณแก๊บ – พิชญุตม์ จันทวสุ น้องชายของคุณกิ๊บด้วย

 

จริง ๆ แล้วหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อครั้งที่คุณฮั้นและคุณกิ๊บเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ทั้งคู่เคยเปิดร้านกาแฟกันมาก่อนแล้วในย่านเดียวกันนี้ (แต่คนละซอย) เป็นร้านกาแฟธรรมดา ไม่ถึงกับคาเฟ่ ตามยุคสมัยเมื่อทศวรรษก่อน เพราะทั้งคู่ก็ชื่นชอบกาแฟเหมือนกัน เปิดได้ประมาณ 2-3 ปีก็ปิดตัวไป ประกอบกับที่พอเรียนจบ ทั้งคู่ก็ไปทำงานตามที่ตัวเองชอบ ในขณะที่คุณฮั้นเองก็ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์มาอยู่เรื่อย ๆ จึงสนใจในเรื่องนี้มาโดยตลอด พอมองมายังคาเฟ่ในบ้านเรา ก็พบว่าเรื่องของแบรนด์ หรือคอนเซปต์นั้น บางครั้งก็ยังไม่ชัดเจน จึงอยากลองทำคาเฟ่ที่มีทั้งคอนเซปต์และภาพลักษณ์ไปในทิศทางเดียวกันดู

“ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนรักกาแฟ อาจจะไม่ใช่พื้นที่จริงจังสำหรับสายสเปเชียลตี แต่เป็นเพียงพื้นที่สำหรับคนที่รักการดื่มกาแฟในทุก ๆ วัน”

บรรยากาศร้าน

“เราจะเจอคาเฟ่แนวมินิมอล แนวลอฟต์ หรือแนวสแกดิเนเวียน ได้ไม่ยากเลย แต่เราจะไม่ค่อยเจอการทำแบรนด์ที่มันซัพพอร์ตสไตล์เหล่านั้น บางที่อาจจะสร้างร้านเสร็จแล้ว ค่อยมาสร้างแบรนด์ตามร้านทีหลัง ผมเลยอยากลองทำทั้งคอนเซปต์ ทั้งแบรนด์ดิ้งไปพร้อม ๆ กันครับ” คุณฮั้นกล่าว

 

เริ่มด้วยการรีเสิร์ชหาสิ่งที่พวกเขาชอบกันก่อน ค่อย ๆ ตกผลึกความคิดไปเรื่อย ๆ จนหาคอนเซปต์เจอว่าอยากได้แนวแบบไหน อิมเมจจะออกมาเป็นอย่างไร จากนั้นจึงหาอินทีเรียที่ตอบโจทย์กับงานของเขา พร้อม ๆ ไปกับการทำแบรนด์ดิ้งไปด้วย หากจะพูดให้ละเอียดกว่านี้ จะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน

counter

Store Concept

BOUND CAFE Outdoor

จุดเริ่มต้นของร้านที่หน้าตาเหมือนโบสถ์นี้ เกิดขึ้นจากตำนานของเอธิโอเปียเรื่องหนึ่ง ที่มีเด็กเลี้ยงแพะคนหนึ่ง ทุก ๆ วันจะพาแพะออกไปเดินเป็นประจำ ซึ่งแพะของเขากลับเต้นสองขาได้! วันหนึ่งมีบาทหลวงคนหนึ่งเห็น จึงถามเด็กเลี้ยงแพะไปว่าทำไมแพะถึงเป็นแบบนี้ เด็กเลี้ยงแพะจึงบอกว่าเพราะแพะของเขากินเบอร์รี่เม็ดนี้เข้าไป บาทหลวงคนนั้นจึงเก็บเม็ดเบอร์รี่นี้ไปต้มดู เมื่อลองชิมก็รู้สึกตัวเองมีพลังงาน จึงเอาไปกินเมื่อเขาสวดมนต์ทุกวัน 

 

เรื่องราวนี้จึงกลายเป็นที่มาของคาเฟ่ทรงโบสถ์ที่ล้อไปกับตำนานเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนรักกาแฟ อาจจะไม่ใช่พื้นที่จริงจังสำหรับสายสเปเชียลตี แต่เป็นเพียงพื้นที่สำหรับคนที่รักการดื่มกาแฟในทุก ๆ วัน

cafe floor

แม้จะหยิบมู้ดของโบสถ์มาปรับใช้ แต่ก็ยังเติมความสแกดิเนเวียนเข้าไปด้วย เพื่อให้ดูโปร่ง โล่ง  หากมองจากด้านนอก จะเห็นว่าตัวร้านเป็นหลังคาทรงจั่ว แต่เมื่อเข้ามาในร้านจะกลายเป็นเพดานทรงโค้ง ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิกที่ทำให้คนเซอร์ไพรส์ในรูปร่าง อีกอย่างคือไม่ทำให้อึดอัดกับความเหลี่ยมแบบมุมจั่วนั้น ยังมีวัสดุหินและสแตนเลสที่เพิ่มเติมเข้ามา และใส่เฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ามาบ้าง เพื่อไม่ให้คาเฟ่ดูแข็งจนเกินไป ส่วนไอส์แลนด์ไม้กลางร้าน คุณฮั้นตั้งใจไว้ว่าในอนาคตอาจเป็นพื้นที่จำหน่าย Selected Items ที่เขาสนใจจากแบรนด์ต่าง ๆ โดยสินค้าจะไม่ใช่เพียงกาแฟอย่างเดียว แต่จะมีความหลากหลาย ทั้งของกิน ของใช้ ของตกแต่ง ส่วนด้านนอกเลือกโรยพื้นด้วยหินสีน้ำผึ้ง เพื่อขับตัวร้านสีขาวให้เด่นขึ้นอีกระดับ

Branding Concept

หากพูดถึงแบรนด์ ก็ต้องถามถึงชื่อ BOUND ก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งคำนี้มีสองความหมาย ความหมายแรกคือ “ผูกพัน” ตามความตั้งใจที่อยากให้ร้านนี้เป็นศูนย์รวมของผู้คน ต่อยอดมาเป็นคอนเซปต์ของร้านอย่าง “Connect With Coffee, Bound By Community” ให้ทุกคนเชื่อมโยงกันผ่านแก้วกาแฟ ในคอมมูนิตี้ที่ผูกเราไว้ด้วยกัน 

 

 อีกหนึ่งความหมายคือ “โชคชะตา” หรือ Bound To Happen เหมือนการที่เราได้มาเจอกัน มาคอนเนคกันและกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะเราชอบเหมือน ๆ กัน โชคชะตาจึงพาให้เรามาเจอกันนั่นเอง

barista

จากชื่อคาเฟ่ ก็ไหลไปจนถึงโลโก้ของคาเฟ่ คุณฮั้นเลือกใช้เชปทรงกลมที่สมูทที่สุด หยิบเอาวงกลมมาซ้อนกันเพื่อแทนความหมายถึงการเชื่อมต่อกัน กับสโลแกนของร้านที่หยิบวลีฮิตอย่าง As Above So Below มาใช้ประกอบด้วย

coffee type BOUND

ในส่วนของกาแฟเองก็มีคอนเซปต์ที่ชัดเจน แม้คุณฮั้นบอกว่ากาแฟที่นี่เลือกง่าย ดื่มง่าย ไม่แฟนซีอะไรขนาดนั้น แต่ก็ยังดูน่าสนุก ตัวแรกเรียกว่า Body เมล็ดกาแฟเบลนด์ไทยคั่วเข้มจากแถบเชียงใหม่ ที่ให้รสคาราเมลและสโมคกี้หน่อย ๆ ถัดมาเป็น Soul ยังคงเป็นเมล็ดกาแฟเบลนด์ของไทย แต่คั่วกลาง ที่ออกนัตตี้และคาราเมล สุดท้ายกับ Spirit ที่เบลนด์ด้วยเมล็ดกัวเตมาลา โคลอมเบีย และไทย คั่วกลางค่อนอ่อน รสชาติจะออกฟรุตตี้หน่อย ๆ ซึ่งสามารถเลือกตามสะดวก แต่หากสั่งกาแฟนม เราว่า Soul กับ Spirit น่าจะเวิร์กไม่หยอก

sound of autumn
Pop Star

เราลองสั่งเป็นแก้วซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Sound Of Autumn (130 บาท) เลือกใช้กาแฟตัว Body เทลงบนน้ำส้มสดที่ทางร้านผสมจากหลากหลายสายพันธุ์ รสหวานนำ ปลายเปรี้ยวนิด ๆ เติมด้วยโซดาเข้าไปให้สดชื่นยิ่งขึ้น แก้วนี้เรียกว่ารีเฟรชวันเหนื่อย ๆ ได้ดีเลย ตามมาด้วย Pop Star (120 บาท) ทางร้านเลือกใช้ตัว Body เช่นเดิม เพิ่มด้วยนมและไซรัปป็อปคอร์น ท็อปด้วยคาราเมลป็อปคอร์นหวาน ๆ ดื่มได้เพลิน ๆ หากใครชอบคาราเมลมัคคิอาโต ก็น่าจะชอบแก้วนี้ด้วยเช่นกัน

liver plate

อีกสิ่งที่เราเห็นแล้วอดใจไม่สั่งไม่ได้ เพราะน้อยครั้งนักที่จะได้เห็นเมนูนี้ในคาเฟ่ กับ Liver Plate (130 บาท) ตับไก่บดผสมเบคอน สูตรเด็ดของคุณแม่คุณกิ๊บ ทานคู่กับขนมปังที่ทางร้านอบเอง มีรสเปรี้ยวนิด ๆ (แต่ไม่ใช่ Sourdough นะ) ต้องยอมรับตรงนี้เลยว่าเราเองก็ไม่เชี่ยวชาญการกินเมนูที่มีวัตถุดิบจากเครื่องในเท่าไหร่ แต่พอลองเปิดใจก็พบว่ากินง่ายและอร่อยกว่าที่คิด รสตับที่เคยไม่ชอบจนกลัว ต้องบอกว่าแทบไม่มีรสและกลิ่นตับเลย ปาดตับบดลงขนมปังพูน ๆ รับรองฟินแน่นอน

lemon pie

สุดท้ายกับ Lemon Pie (165 บาท) ด้านล่างเป็นแครกเกอร์ ตามด้วยเลมอน โปะด้วยเมอแรงก์ ที่เราว้าวมาก ๆ แม้ว่าจะหวานไปนิด แต่เราว่าจะกินของหวานก็หวานสักหน่อยแบบนี้แหละ ความหวานของเมอแรงก์ที่ตัดกับรสเปรี้ยวของเลมอนมันเข้ากันมาก ๆ จนตอนแรกที่ลังเลว่าจะกินหมดถ้วยไหม ก็ต้องบอกว่าหมดเกลี้ยงไม่เหลือเลยจริง ๆ แบบไม่เกินจริง

สำหรับเราแล้ว BOUND CAFE น่าจะประสบความสำเร็จในความตั้งใจที่อยากให้ร้านของพวกเขาเป็นพื้นที่ของคนรักกาแฟมาเจอกัน เพราะไม่ใช่แค่ทั้งตั้งตัวเครื่องดื่มและขนมหวาน ถูกปากจนสามารถฝากตัวเอาไว้ได้แล้ว ที่นี่ยังเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ของพวกเรา ทางร้านเป็น Pet Friendly ให้พาเจ้าสี่ขาที่รักมาเที่ยวเล่นได้ที่โซนเอาต์ดอร์สุดกว้าง มีพื้นที่หลากหลายให้เลือกนั่งตามใจ หรือจะฝากท้องกับอาหารอิตาเลียนเป็นมื้อใหญ่ก็มีรองรับ เรียกว่าจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร BOUND CAFE ก็พร้อมยินดีต้อนรับพวกเราเสมอ

BOUND CAFE
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) เวลา 9:00 – 17:00 น.
(แต่ช่วงนี้ Soft Opening เปิดทุกวันนะ)
ซอยสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี 27) บางจาก
BTS ปุณณวิถี แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ

google maps