Natural Wine หรือไวน์ธรรมชาติกำลังเข้ามามีกระแสในคอไวน์บ้านเรา ด้วยความธรรมชาติแบบดิบ ๆ ที่ไม่ปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม ทำให้เกิดความสนุกในการชิมไวน์แต่ละขวดที่รสชาติไม่เหมือนกัน วันนี้ Routeen. จะพาไปจิบ Natural Wine ที่ Botti Wine Bar ไวน์บาร์ลับ ๆ บรรยากาศน่าหลงใหล บนชั้น 2 ในบ้านเก่ากว่า 140 ปี ย่านสารทร
Botti เป็นไวน์บาร์เล็ก ๆ ที่พึ่งเปิดเมื่อ เดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมา แต่ยังเป็นบาร์ลับที่หลายคนไม่รู้ เพราะเค้ามีโต๊ะเพียง 4 โต๊ะหลัก รองรับได้ 18 ที่นั่ง ด้วยความที่เป็นบ้านไม้เก่าโครงสร้างเดิม และมีพื้นที่จำกัด ทำให้รองรับคนได้ไม่มากนัก หากอยากมาชิลล์ที่นี่จะต้องจองโต๊ะล่วงหน้าก่อน Botti เลยเป็นบาร์ที่ค่อนข้างให้มู้ดเป็นส่วนตัว
ตัวบาร์แห่งนี้ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบ้านไม้เก่าอายุมากกว่า 100 ปี เป็นบ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่เหลือหลังเดียวและหลังสุดท้ายในย่านสาทร จริง ๆ แล้ว บ้านเก่าหลังนี้เป็นแกลเลอรีเครื่องครัว ‘Cucina Galleria’ รวมเครื่องครัวล้ำ ๆ แบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเจ คุณเจ – กฤตนัน สนธิจิรวงศ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Cucina Galleria ถึงที่มาที่ไปของแกลเลอรีที่อยู่ชั้น 1 และ ไวน์บาร์ ที่ตั้งอยู่บนชั้นสองของบ้านหลังนี้
คุณเจเล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของการมีไวน์บาร์ในแกลเลอรีเครื่องครัว มาจากความแนวคิดที่ว่า เครื่องครัวเองก็มีความเชื่อมโยงกับอาหารและเครื่องดื่มอยู่แล้ว การมีไวน์บาร์ก็จะช่วยทำให้แกลเลอรีแห่งนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น จึงได้นำส่วนชั้น 2 ของบ้านมาเปิดพื้นที่เป็นไวน์บาร์ และยังตั้งใจปรับพื้นที่ให้ทำได้หลายรูปแบบ ทั้งบาร์ชิลล์ ๆ เมื่อนำโต๊ะออกก็สามารถทำเป็นห้องโล่ง ๆ จัดแสดงนิทรรศการได้ หรือในอนาคตสามารถทำ Long table เป็นเชฟเทเบิลส่วนตัวได้
ไฮไลต์ของ Botti Wine Bar ก็ต้องเป็นไวน์แน่นอน ไวน์บาร์ที่นี่เน้นเสิร์ฟ Natural Wine ที่คัดสรรจากแหล่งผลิตทั่วโลกมาให้ผู้รักการจิบได้สัมผัสถึงรสชาติที่แตกต่าง จุดที่ทำให้คอไวน์ต้องหลงรัก Natural Wine คือความธรรมชาติแบบ ‘Nothing Added, and Nothing Taken Away’ ไม่ปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม และไม่ดึงอะไรออกมา ไม่ใส่สารเคมีเลยตั้งแต่ในไร่องุ่นไปจนถึงการบ่ม ทำให้ไวน์แต่ละขวดมีรสชาติที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์องุ่นและดินฟ้าอากาศในแต่ละปี
“อีกหนึ่งเสน่ห์ของ Natural Wine คือทุกขวดจะมีฉลากขวดไวน์ที่แตกต่างกัน ดีไซน์กราฟิกแปลกตาเมื่อวางเรียงกันทำให้การชิมไวน์ดูสนุกขึ้นไปอีก ตรงนี้เองเป็น Passion ของ คุณเจน – ญาณิศา สนธิจิรวงศ์ หนึ่งในพี่น้องที่ร่วมบริหาร Cucina Galleria ที่คัดฉลากไวน์เองกับมือทุกขวด ซึ่งแต่ละฉลากมีเพียง 1-2 ขวด และจะหมุนเวียนกันไปทุก ๆ 2 สัปดาห์”
นอกจากไวน์บาร์ ยังมีเมนูอาหารสไตล์ Home-cook คอยให้บริการเหล่านักชิมไวน์ที่แวะเวียนเข้ามา คุณเจบอกเราว่าเมนูที่เห็นเป็นเพียงเมนูที่มีเสริมให้กับลูกค้าที่มา เพราะมีหลาย ๆ คนถามหาอาหารอยู่บ่อย ๆ ความว้าวแรกที่เราเห็นคือรายชื่อเมนูแต่ละอย่างดูจริงจังจนแอบตกใจ นี่เรียกว่าร้านอาหารจริงจังได้เลย แถมแต่ละเมนูยังควบคุมโดยคุณเจน ที่มีดีกรี Le Cordon Bleu พ่วงท้าย
เมนูแรกที่เราได้ลองเป็น Curry rice bratwurst (250 บาท) ข้าวแกงกะหรี่ที่มาแบบแน่น ๆ ทั้งข้าวญี่ปุ่น แกงกะหรี่ที่เคี่ยวจนได้ที่ และไส้กรอกชิ้นโต เป็นจานที่อิ่มท้องแบบกินได้เพลิน ๆ ไม่เลี่ยนเกินไป อีกหนึ่งเมนูจริงจังที่เราเลือกเป็น Red wine spaghetti bolognese (250 บาท) ซอสโบโลเนสเนื้อวากิวแบบเข้มข้น จานนี้ซอสไม่ฉ่ำมากแต่เนื้อเน้น ๆ คือสัดส่วนเนื้อกับเส้นแทบจะพอ ๆ กัน ให้มาแบบไม่หวงเลย
แน่นอนว่ามาไวน์บาร์ ก็ต้องมีชีสให้กินคู่กันเราเลยลอง Truffle cheese & Cold cut platter (599 บาท) ครบเครื่องมากจัดมาแน่นบอร์ด มี Truffle salami ด้วยนะ Pairing กับไวน์เป็นอะไรที่ลงตัวสุด อีกหนึ่งเมนูกินสนุกก็ต้องเป็น Mix sausage (379 บาท) ไส้กรอกชิ้นใหญ่ 4 รสชาติ Bratwurst, Cheese, Garlic และ Chilli แน่น อร่อย แต่เราว่ารส Chilli แอบเผ็ดไปหน่อย (สำหรับคนไม่กินเผ็ดนะ)
การตกแต่งของ Botti Wine Bar มีความเรียบง่าย เลือกใช้โต๊ะไม้คู่กับเก้าอี้เบาะผ้าลายวินเทจเข้ากับผนังของห้อง ด้วยความที่บ้านหลังนี้ยังคงโครงสร้างหลักแบบเดิม ๆ ไม่มีการรื้อถอนหรือปรับเปลี่ยนอะไรใด ๆ ทำให้กลิ่นอายของไวน์บาร์มีความวินเทจและอบอุ่นเหมือนมานั่งจิบไวน์บ้านเพื่อน เป็นเสน่ห์ของไวน์บาร์ที่นี่เลยแหละ
อย่างที่บอกไปว่ามีโต๊ะไม่มาก ใครอยากจะมาชิลล์กับไวน์บาร์ไวบ์ดี ต้องจองก่อนนะ เพราะที่นั่งมีจำกัด จะได้ไม่เสียเที่ยว
Botti Wine Bar
เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) 17:30 – 23:30 น.
ซอยย่อยเล็กๆ ของถนนสาทร 12
สถานี BTS เซนต์หลุยส์ | ด้วยความเป็นซอยเล็ก ๆ ที่จอดรถเช็คกับทางร้านอีกทีนะ
Google Maps
