ย่านเยาวราช บริเวณเส้นถนนเจริญกรุง ต้องต้อนรับ คาเฟ่ ใหม่ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดมังกรอย่าง Blanco (บลองโค) กันแล้ว แต่ถึงจะเป็นคาเฟ่ใหม่ในย่าน แต่ก็ใช่ว่าฝีมือจะใหม่ไปด้วย เพราะจริง ๆ แล้ว Blanco เคยตั้งอยู่ในย่านสะพานควาย – ประดิพัทธ์มาก่อน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในย่านไชนาทาวน์ในเวลานี้
คุณแซนดี้ – ภรณี ทองนาคพันธ์ เจ้าของ คาเฟ่ Blanco เล่าให้ Routeen. ฟังว่า หลังจากที่อยู่ในย่านสะพานควาย – ประดิพัทธ์มาปีกว่า ๆ ก็มีโอกาสได้เจอพื้นที่ตรงนี้พอดี ด้วยทำเลที่ตั้ง และบรรยากาศที่คึกคัก จึงคิดอยากจะย้ายร้านมาอยู่ที่นี่แทน ด้วยความที่ทำคนเดียว หากจะเปิดเพิ่มอีกสาขา หรือสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา โดยให้พื้นที่เดิมยังอยู่ ก็กลัวว่าจะดูแลได้ไม่ดีพอ จึงเป็นที่มาว่าทำไม Blanco ถึงย้ายมายังย่านเยาวราชแห่งนี้
จากร้านหมูแผ่นเก่าแก่ สู่คาเฟ่และอาหารใต้จานเด็ด
คุณแซนดี้เล่าให้เราฟังว่า เดิมทีอาคารคูหาเดียวหลังนี้เคยเป็นร้านขายหมูแผ่น และยังเป็นโรงงานอบหมูแผ่นมาก่อน คุณแซนดี้รู้จักและเป็นพันธมิตรที่ดีกับ Brew Lab อีกหนึ่งร้านกาแฟคุณภาพที่มีอยู่หลายสาขาในบ้านเรา ซึ่งทำเลนี้เป็นของรุ่นพี่ของทาง Brew Lab มาก่อน จึงชักชวนมาทำอะไรกับพื้นที่แห่งนี้กัน
ตัวอาคารนี้มีทั้งหมดถึง 7 ชั้น และอายุเก่าแก่กว่า 70 ปี แต่ในเฟสแรกนี้จะใช้พื้นที่หลัก ๆ อยู่ที่ 3 ชั้นแรกก่อน โดยชั้น 1 ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ของคาเฟ่ ชั้น 2 เป็นที่ตั้งของครัว ทั้งขนมและอาหาร และเป็นพื้นที่นั่งรองรับในวันที่ลูกค้าเยอะเพิ่มเติม โดยในชั้นนี้จะเป็นโซนพัดลม เปิดหน้าต่างให้ลมระบายถ่ายเท และมีระเบียงให้ออกดูบรรยากาศด้านนอกได้ ส่วนพื้นที่ชั้น 3 ถูกปรับปรุงรอโครงการที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อาจเป็นพื้นที่ของร้านอาหารใต้ หรือเป็นพื้นที่มิกซ์ยูสอื่น ๆ
“เดิมทีตรงนี้เป็นโรงงานผลิตหมูแผ่นชื่อ บางกอกซินเฮียง ตอนเข้ามาพื้นที่ใหม่ ๆ ข้างในยังเต็มไปด้วยของเดิมของร้านขายหมูแผ่น อย่างเตาอบหมูแผ่นเองก็ยังอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งก็ยังคงเก็บเอาไว้ หลาย ๆ อย่างในร้านก็ยังคงเก็บของเก่าเอาไว้ อย่างชั้นโชว์สินค้า ก็ยังไม่เอาออก แต่ทาสีชั้นใหม่ให้เข้ากับตัวร้าน หยิบเอาตู้ใส่หมูแผ่นมาประดับไว้เป็นจุด ๆ พื้นกระเบื้อง บันไดไม้ ยังคงเป็นของเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
ตัวร้านที่ชั้นล่าง ถูกแบ่งออกผ่านงานตกแต่งของสถานที่เป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกบริเวณหน้าร้าน ที่ร่นหน้าร้านเข้ามาจากฟุตบาทเล็กน้อย เพราะอยากให้มุมข้างหน้าให้นั่งถ่ายรูปเล่น หรือชาวต่างชาติที่ชอบบรรยากาศโอเพ่นแอร์ ก็จะได้นั่งกันได้ เติมเสากลมต้นใหญ่มาอีกต้นที่นอกจากเพื่อคาวมสวยงามแล้ว ยังให้เป็นพื้นที่ตกแต่งตามธีมงานต่าง ๆ ในอนาคตด้วย
“ชื่อ คาเฟ่ เองก็ถูกขยายมาจากความเป็นมะพร้าวของทางร้านเช่นกัน คำว่า Blanco เป็นภาษาสเปนที่แปลว่า “สีขาว” ที่แทนสีของเนื้อมะพร้าว วัตถุดิบหลักของทางร้านนั่นเอง”
เมื่อเข้ามาในร้านจะเป็นส่วนที่สอง ที่ยังคงเก็บของเดิม ๆ เอาไว้เท่าที่สามารถเก็บได้ แล้วเพิ่มเติมงานตกแต่งด้วยวัสดุไม้สีอ่อนเข้าไปเพิ่มความเป็นคาเฟ่ให้มากขึ้น ความน่าสนใจอยู่ที่กำแพงกระเบื้อง ที่ด้วยความเก่า ทำให้กระเบื้องหลายแผ่นหลุดออก แต่ทางร้านไม่เลือกที่จะเลาะกระเบื้องเก่าออกหมด แต่ตัดแผ่นไม้สีเดียวกับตัวร้านตามขนาดของกระเบื้องที่หายไป แล้วติดแทนที่เดิม แม้จะดูคอนทราสแต่ก็สร้างความโดดเด่นได้ดี
โซนสุดท้ายด้านในสุด จะถูกตกแต่งมาในแนวโมเดิร์นตามสไตล์ของ คาเฟ่ ที่ดูคล้ายคลึงกับ Blanco สมัยอยู่สะพานควาย – ประดิพัทธ์เลย เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นห้องนอนของอาม่าสมัยร้านหมูแผ่น ซึ่งถูกปรับปรุงพื้นที่เก่าเพื่อให้เป็นห้องนอนไปแล้ว เมื่อไม่เหลือความเก่าอยู่ จึงทำการรื้อห้องนอนออก และตกแต่งใหม่ทั้งหมด ใช้เป็นกระเบื้องดินเผาสีส้มอิฐ แซมด้วยชั้นวางสีเขียว และเฟอร์นิเจอร์สีครีม เรียกว่าชอบแบบคลาสสิค หรือแบบโมเดิร์น ก็สามารถเลือกนั่งได้ตามใจ
ทำไมต้องมะพร้าว
จริง ๆ แล้วคุณแซนดี้ทำธุรกิจอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่แล้ว (ปัจจุบันก็ยังทำอยู่) ทั้งร้านชานมไข่มุกอย่าง CHAZEN ร้าน Tian Bao ร้านขนมสไตล์ไต้หวัน และร้าน บ้านเค้ก ที่เปิดให้บริการมากว่า 13 ปี มีซิกเนเจอร์ที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง “เค้กมะพร้าว” แน่นอนว่าเค้กมะพร้าวใน Blanco ก็เป็นสูตรเดียวกับของทางบ้านเค้ก แต่เปลี่ยนพรีเซนเทชันให้ถูกใจคนกรุงเทพฯ และเด็ก ๆ เจนใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังจับเอาความเป็นมะพร้าวมาเสิร์ฟในเมนูอื่น ๆ ด้วย ทั้งกาแฟ มัตฉะ ไปจนถึงไอศกรีมโฮมเมด
ทางร้านเลือกใช้มะพร้าวจากบ้านแพ้ว โดยเน้นนำน้ำมะพร้าวมาใช้โดยเฉพาะ แต่ในส่วนของเนื้อมะพร้าวจะใช้มะพร้าวสดที่สั่งคัดมาโดยเฉพาะ โดยเน้นใช้แบบ เนื้อหนังหมู ที่เนื้อด้านบนจะแข็งกรุบ ส่วนด้านหลังจะนิ่ม และการใช้มะพร้าวของแต่ละเมนูก็มีความแตกต่างกัน อย่างตัวเค้กมะพร้าว จะเลือกใช้น้ำมะพร้าวที่ออกเปรี้ยวเล็กน้อย แต่หากเป็นน้ำมะพร้าวสำหรับเครื่องดื่มจะหวานกว่า นวลกว่า
นอกจากเค้กและเบเกอรีแล้ว ร้านบ้านเค้กยังมีทั้งเครื่องดื่ม และอาหารใต้รอเสิร์ฟอยู่ด้วย คุณแซนดี้จึงดึงเมนูอาหารบางรายการมาไว้ใน Blanco คาเฟ่ นี้ด้วยเช่นกัน โดยนำ ผัดไทยไชยา (150 บาท) กับผัดไทยที่ซอสมีส่วนผสมของเครื่องแกงและกะทิ (ยังคงคอนเซปต์เรื่องมะพร้าวแม้กระทั่งเมนูอาหาร) ท็อปด้วยไข่ข้นด้านบน
และ บะหมี่ไข่ซี่โครงหมูพริกไทยดำ (380 บาท) ที่นอกจากจะหยิบเอาเมนูใต้มาแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนให้เข้าพื้นที่ โดยการใช้บะหมี่ไข่เยาวราชแทนเส้นใหญ่ทอด นำบะหมี่ไปทอดจนกรอบ ราดด้วยซี่โครงหมูพริกไทยดำชิ้นโตสูตรจากสุราษฎร์ธานี ท็อปด้วยไข่ดาวแบบเยิ้ม ๆ ซี่โครงหมูส่งตรงจากสุราษฎร์ธานี รสชาติเข้มข้น และชิ้นใหญ่มาก ๆ แต่กลับร่อนกระดูกและเนื้อเปื่อยนุ่มสุด ๆ (แอบเชียร์ให้ทางร้านออกไซซ์เล็กมาเหมือนกัน เผื่อใครมาคนเดียวแล้วอยากลองจะได้ลิ้มรสได้)
ไป Blanco ไม่อยากให้พลาดเมนูนี้
แน่นอนว่า Blanco เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากพันธมิตรที่ดีอย่าง Brew Lab โดยมีเฮาส์เบลนด์อยู่ทั้งหมด 2 ตัว ทั้งเมล็ดคั่วกลางค่อนเข้ม กาแฟเลอตอโกล จากช่างเปา จังหวัดตาก และเมล็ดคั่วกลางที่เบลนด์ระหว่างเอธิโอเปียและเลอตอโกล โดยในอนาคตน่าจะมีเมล็ดคั่วอ่อนมาเพิ่มด้วย เพื่อให้เป็น Everyday Coffee ที่รองรับทุกความต้องการของนักดื่มทุกคน
Coco Americano (130 บาท) น้ำมะพร้าวสดทั้งลูก เทกาแฟช็อตลงไป ความหวานที่ได้มาจากธรรมชาติในน้ำมะพร้าวล้วน ๆ Samui Island (130 บาท) น้ำมะพร้าวสดทั้งลูก ท็อปด้วยช็อตมัตฉะเกรดพรีเมียม แก้วนี้ไม่ใส่นม และได้ความหวานมาจากน้ำมะพร้าวล้วน ๆ เช่นกัน เรียกว่าสดชื่นดีมาก ๆ เลยล่ะ ส่วนใครที่ชอบเป็นชาไทย (ชาใต้) มากกว่า ก็เปลี่ยนเป็น Coconut Thai Tea ได้เช่นกันนะ
Coconut Lava Cake (150 บาท) เค้กตัดชิ้นใส่ลงในถ้วย ราดด้วยครีมมะพร้าวลาวาฉ่ำ ๆ ที่ทำจากน้ำมะพร้าว พร้อมเนื้อมะพร้าวด้านบน เนื้อเค้กวานิลลาเป็น Sponge Cake นุ่มฟู และหวานน้อยทั้งเนื้อเค้กและครีมด้านบน
อีกจานเป็น French Toast With Fruit (180 บาท) โทสต์โฮมเมดอบสดใหม่ทุกวัน ใช้แป้งญี่ปุ่นทำให้นุ่มกว่า เสิร์ฟพร้อมครีมสด น้ำผึ้ง เคียงด้วยผลไม้สดหลากหลายตามฤดูกาล ทั้งเชอร์รี่ องุ่นส้ม และแก้วมังกร
Coconut Ice Cream Cake (180 บาท) ที่ต้องบอกว่าไม่ใช่ไอศกรีมกะทินะ แต่เป็นไอศกรีมมะพร้าวที่ตั้งใจให้เรานึกถึงเค้กมะพร้าวของทางร้าน พร้อมราดครีมมะพร้าวลาวาด้านบน ไอศกรีมชาไทย ราดซอสมะพร้าว (120 บาท หากเป็นสกูปเดียว 90 บาท) ทางร้านใช้ชาเบลนด์ 3 สายพันธุ์ โดยมีชามาเลย์ ชาใต้ และชาซีลอน ราดด้วยซอสมะพร้าวเช่นเดิม เป็นไอศกรีมชาใต้ที่รสชัด และเข้ากันดีกับมะพร้าวมาก ๆ
สำหรับใครที่รักมะพร้าว หรือแม้กำลังมองหาอาหารใต้จานเดี่ยวกินง่าย ๆ แต่รสชาติส่งตรงจากสุราษฎร์ฯ แท้ ๆ ลองแวะมา Blanco อีกหนึ่งร้านเล็ก ๆ กับความตั้งใจใหญ่ ๆ ที่อยากพัฒนาพื้นที่ให้เติบโตขึ้น อยากหยิบความเป็นเยาวราชมาเจอกับความใต้ที่ทางร้านมี และอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ให้คนออกมาเดินย่านนี้กันมากขึ้น
Blanco
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 08:00 – 17:00 น.
ถนนเจริญกรุง (ตรงข้ามวัดมังกร)
MRT วัดมังกร แล้วเดิน | จอดรถได้ที่ I’m Chinatown (มีค่าบริการ)