เรียกว่า Routeen. เป็นแฟนตัวยงร้านบรันช์ ก็คงไม่เกินจริง เพราะถ้านับนิ้วดู เราตระเวนกินบรันช์กันมาหลายที่มาก ๆ เสมือนเติบโตที่อังกฤษ (แม้บางมื้อจะจ้วงยำแซ่บ แต่เราก็เลิฟไข่ดาวน้ำไม่เปลี่ยนแปลง) อย่างล่าสุด เราได้มีโอกาสแวะไปย่านศรีนครินทร์ เพราะรู้ข่าวมาว่า มีร้านคาเฟ่ใหม่เอี่ยม ชื่อว่า ร้าน BiraBica Coffee & Brunch คาเฟ่โฮมมี่ มีทั้งกาแฟ และบรันช์อร่อย ๆ รวมอยู่ที่นี่
BiraBica เป็นร้านสไตล์ Coffee & Brunch แม้จะเป็นเมนูมื้อสายแต่ก็พร้อมเสิร์ฟเช้าจรดเย็น ปักหลักอยู่ปากซอยศรีนครินทร์ 47 พิกัดดีมาก เพราะไม่ไกลจากศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ แถมถนนเส้นนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองพาดผ่าน ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว ทำให้เดินทางสะดวกขึ้นมาก
ตัวร้าน BiraBica ตั้งอยู่ริมถนน หัวมุมซอยศรีนครินทร์ 47 พอดี ด้านในตกแต่งให้มีความสบาย ๆ ไม่หวือหวามากนัก (แต่สวย) เน้นโทนไม้ ๆ เขียว ๆ ดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน แวะมาคราวนี้ เราได้พบกับคุณ แบงค์ – กิตติกวิน วามวรรัตน์ หนึ่งในเจ้าของร้าน ที่ออกมาต้อนรับเราด้วยความเป็นกันเองเลย
คุณแบงค์เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้าน BiraBica ว่าจริง ๆ แล้ว เดิมทีตัวเองเป็นพนักงานออฟฟิศนี่แหละ อยากจะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วตั้งแต่สมัยเรียนชอบไปหากาแฟดื่ม หาอาหารอร่อย ๆ กินด้วยกันกับคุณแม่ ซึ่งแนวที่ชอบจะเป็น สลัด พาสต้า ขนมปัง ตะลอนกินกันตอนสาย ๆ 10 – 11 โมง ซึ่งตอนนั้นคำว่า Brunch ยังไม่เป็นที่นิยมเลยด้วยซ้ำ พอเริ่มทำงานก็ยังกินแบบนั้นอยู่เรื่อยมาเป็น 10 ปี
“มีความคิดว่า ถ้าเราจะทำธุรกิจของตัวเองจริง ๆ คงเป็นอะไรที่เราชอบ ซึ่งคิดออกไม่กี่อย่างก็คือกาแฟ และมีอาหารด้วยแบบที่ชอบกินมาตลอด คอนเซปต์ร้านเลยออกมาเป็น Brunch & Coffee ที่มีทั้งอาหารและกาแฟ”
พอมีไอเดียว่าจะเปิดคาเฟ่ที่มีบรันช์ เลยมองหาที่เหมาะ ๆ คุณแบงค์เล่าติดตลกว่า ที่มาเจอตรงนี้ได้ เรียกว่าเป็นดวง หรือบุพเพอะไรแบบนั้นเลย เพราะด้วยความไม่ได้รู้จักนายหน้าหรือมีคอนเนคชันมาก เลยรีเสิร์ช และโพสต์ประกาศหาที่ให้เช่าตามโซเชียลทั่วไป ซึ่งก็หาไม่ได้เลย แต่อยู่ดี ๆ ก็มีคุณลุงคนหนึ่งทักมาบอกว่ามีที่ให้เช่านะ สนใจไหม
แล้วพอลองมาดูที่ครั้งแรก First Impression ที่เจอคุณลุง คือดูโหดมาก แต่พอได้คุยกัน ก็พบว่าคุณลุงใจดีมาก ๆ กลายเป็นได้ที่ตรงนี้ และอยู่ด้วยกันเป็น Neighborhood ที่สนิทกันไปเลย (สนิทถึงขนาดชวนกันไปซื้อของ หรือคอยมารดน้ำต้นไม้ให้เลยทีเดียว)
ด้าน Interior จะเห็นว่ามีความคุมธีมเขียวไม้ดูอบอุ่น ในขณะเดียวกันก็มีมู้ดอินเตอร์นิด ๆ มาจากการวางคอนเซปต์ของคุณแบงค์ ที่เอาสิ่งที่ตัวเองชอบ บวกกับประสบการณ์การตลาด (อยู่ในสายงานแบรนด์ดิ้งมาก่อน) ก็เลยมีใส่ดีเทลด้านการตลาดตั้งแต่การออกแบบร้าน วิเคราะห์ว่าอะไรที่ลูกค้าจะชอบ หรือกลุ่มลูกค้าต้องการ ออกมาเป็นคอนเซปต์ “โฮมมี่” ให้คนรู้สึกว่ามาที่ร้านแล้วเหมือนอยู่บ้าน มู้ดร้านเลยจะมีความเป็นไม้ ๆ อบอุ่น ๆ
ซึ่งนอกจากความโฮมมี่ ยังเรื่องชูความรักษ์โลกด้วย เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของสมัยนี้ ถ้าสังเกตดูแก้วน้ำที่นี่ หรือบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ จะใช้พลาสติกน้อยมาก ๆ ที่เราชอบมากคือความใส่ใจในการเลือกหลอด ซึ่งที่ร้านจะไม่ใช้หลอดกระดาษ เพราะยุ่ยง่ายมาก แค่เลือกใช้เป็นหลอดไม้ไผ่แทน (แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ยอม)
“เรายังมีอีกหนึ่งคอนเซปต์ที่วางไว้คือ อยากช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ลูกค้าช่วยเหลือร้านโดยการมาใช้บริการเรา ร้านเองก็แบ่งปันความช่วยเหลือส่งไปให้กับซัพพลายเออร์ หรือเกษตรกร ด้วยการชูวัตถุดิบหลัก ๆ ของไทยให้ได้เยอะที่สุด”
อย่างเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่ร้าน เป็น ‘กาแฟน้ำพร้าว’ ที่ฟังดูแล้วอาจจะทั่ว ๆ ไป แต่ทางเลือกใช้มะพร้าวอัมพวา ท็อปด้วยโฟมมะพร้าว กลิ่นมะพร้าว และมีเนื้อมะพร้าวเผาด้วย ให้แก้วนี้เป็น Absolutly มะพร้าวให้ได้มากที่สุด ซึ่งผลตอบรับก็ค่อนข้างดีเลย
“เราก็พยายามหา Product ใหม่ ๆ ของไทย มาสร้าง Value ให้คนรู้ว่าของไทยก็มีดีนะ นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะสื่อสารออกไป”
ร้าน BiraBica ร้าน Brunch ที่ใส่ใจไปถึงเครื่องดื่ม
อีกหนึ่งความตั้งใจของ BiraBica คือการให้ความสำคัญทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ให้ดีเท่า ๆ กัน เป็น Pain Point ที่คุณแบงค์เองเจอมาบ่อย ๆ ว่าร้านที่ทำอาหารได้ดี เครื่องดื่มมักจะไม่เด่นเท่า กลายเป็นตัวประกอบ หรือตัวเสริมเท่านั้น เลยอยากทำให้ที่นี่ไปสุดทั้งขาของอาหารและเครื่องดื่มเลย
โดยเมล็ดกาแฟทางร้านคัดเมล็ดที่ถูกปากหลาย ๆ คนอย่าง Brazil และ Lao Bolaven มีทั้งโทนนัตตี้ ช็อกโกแลต และโทนเปรี้ยว โดยวิธีการเลือกเมล็ดประจำที่ร้านน่าสนใจมาก ๆ ด้วยความชอบกาแฟอยู่แล้ว เลยเลือกซื้อกาแฟกว่า 30 ตัว แล้วชวนเพื่อน ๆ ที่ชอบกาแฟมาช่วย Blide Test ให้คะแนนกาแฟที่ชอบ จนผลออกมาเป็น บราซิล และลาว ที่ได้รับการโหวตมากที่สุด และในอนาคตจะมี House Blend ด้วยนะ
ส่วนเมนูอาหารอย่างที่บอกว่ามีเรื่องการซัพพอร์ตโลคอลด้วย แต่หัวใจสำคัญของ BiraBica คือวัตถุดิบต้องดี สะอาด และมีความพิถีพิถันที่สุด เหมือนทำอาหารให้คนในครอบครัวกิน
เราได้ลอง เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Coconut Meet Coffee (110 บาท) เอสเปรสโซ่ช็อตคั่วกลางเข้ม ผสมน้ำมะพร้าว 100% จากอัมพวา เพิ่มมิติรสด้วยโฟมมะพร้าวสูตรพิเศษของทางร้าน ท็อปด้วยเนื้อมะพร้าวเผาเพิ่มความหอม เป็นกาแฟมะพร้าวที่หอมหวานไม่ธรรมดา อร่อยมาก ๆ
อีกแก้วเป็น Apple Meet Coffee (120 บาท) เอสเปรสโซ่ช็อตคั่วกลางอ่อน ผสมน้ำแอปเปิลสกัดเย็นที่ทำสดใหม่ทุกวัน มีเทกเจอร์เนื้อแอปเปิลนิด ๆ ทั้งสดชื่นและยังคงได้รับประโยชน์จากแอปเปิลเต็ม ๆ
และยังมี เมนูพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความรักด้วยเครื่องดื่มสีหวาน Forever my Sweetheart ช็อกโกแลตไทยที่มีกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ผสมผสานกับนมสตรอว์เบอร์รีสูตรพิเศษของร้าน ไม่หวานเกินไป กำลังดีเลย
ฝั่งเมนูบรันช์ เราลอง Smoked Salmon Benedict (290 บาท) สโม๊คแซลมอนชิ้นหนา ให้มาแบบแน่น ๆ วางบนบันเบอร์เกอร์นุ่ม ๆ ท็อปด้วยไข่ดาวน้ำที่สุกกำลังเยิ้ม ราดซอสฮอแลนเดซสูตรเฉพาะ เสิร์ฟคู่กับสลัดออร์แกนิกกับซอสบัลซามิก จานนี้แน่นมาก!
Truffle Cream Sauce (230 บาท) สปาเกตตี้ผัดครีมซอสและทรัฟเฟิลเพสหอม ๆ ดึงความหวานจากหัวหอมแทนน้ำตาล เพิ่มเทกเจอร์ด้วยเห็ดแชมปิญองสด และพาเมซานชีสนัว ๆ
ตัดเลี่ยนด้วย BiraBica Salad (220 บาท) สลัดผักออร์แกนิก 4 ชนิด มาพร้อมสโม๊คแซลมอน ที่ใส่มาแบบแน่น ๆ และอะโวคาโดชิ้นหนา ราดซอสบัลซามิกสูตรเฉพาะของเชฟ เป็นจานที่ทั้งสดชื่นและได้แซลมอนจุใจมาก
คุณแบงค์แอบฝากเราอ้อนลูกค้าว่า “อยากให้ลูกค้าได้มาลอง เพราะเราใส่ใจในทุกขั้นตอนจริง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คำว่าต้นน้ำของเราคือ เราไม่ได้สนใจแค่ว่าวัตถุดิบที่เอามาเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุด แต่เรายังดูไปถึงว่า มันมาจากใคร จากที่ไหน อย่างผักออร์แกนิก ก็ต้องดูว่ามาจากของไทยหรือเปล่า เราอยากชูจุดนี้จริง ๆ”
เรียกว่าเป็นร้านที่ใส่ใจมาก ๆ และจะเป็นอีกหนึ่งร้านบรันช์ ที่เราจดเข้าลิสต์ว่าต้องแวะกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ ใครอยู่ย่านนี้ต้องมาลองแล้วล่ะ!
ร้าน BiraBica Coffee & Brunch
เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ 07:30 – 16:30 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 08:30 – 17:30 น.
ศรีนครินทร์ 47
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานี ศรีนครินทร์ 38 ทางออก 2 | มีที่จอดรถ
Google Maps