ชาวบางนาเนี่ยน ที่ชื่นชอบเมนูสไตล์ยุโรป มองหาร้านอาหารไวบ์หรูแต่มีความสบาย ๆ มานั่งจิบไวน์เบา ๆ ได้ ไม่ต้องไปไหนไกลแล้ว เพราะมีร้านอาหารเปิดใหม่และติ๊กถูกทุกข้อที่ว่ามา ที่นี่คือ A Whale Restaurant Bangna บนถนนบัวนครินทร์ ไม่ไกลจากเมกาบางนานี่เอง

A Whale Restaurant เป็นร้านอาหารแนว European Bistronomy เสิร์ฟเมนูสไตล์นอร์ดิกโดยเชฟชาวเดนมาร์ก Nikolaj Lenz เชฟมากประสบการณ์ ที่รับหน้าที่เป็นทั้ง GM และ Executive Chef ซึ่งเชฟนิคเคยทำงานในโรงแรมและร้านอาหารทั่วโลกมาหลายสิบปี ร่วมกับเชฟชาวไทยฝีมือไม่ธรรมดาอย่าง เชฟแม้ว (Mel Rujimora) ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี รับหน้าที่เป็น Executive Sous Chef



ตัวร้านตั้งอยู่บนลานกว้าง ๆ บนถนนบัวนครินทร์ ที่ดูแล้วใหญ่อย่างกับปลาวาฬสมชื่อ แบ่งโซนออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ โซนแรกเป็นห้องอาหารที่ตกแต่งหรูหรา พร้อมที่นั่งแบบโซฟานั่งสบาย เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารทั้งมื้อสบาย ๆ หรือจะเป็นพิเศษก็เหมาะ


ขยับมาอีกโซนจะเป็น ค็อกเทลและไวน์บาร์ ที่แยกโซนออกมารองรับคนที่อยากได้ไวบ์มาดื่มมาดริงก์ชิลล์ ๆ โดยตรงนี้จะเห็นว่ามีไวน์ลิสต์ให้เลือกเยอะมาก ๆ ซึ่งเชฟเองมองว่าในละแวกนี้ ยังไม่ค่อยมีบาร์ที่มีครบเครื่องพร้อมบรรยากาศดี ๆ แบบในใจกลางเมืองมากนัก เลยเนรมิตขึ้นมาให้ชาวบางนาได้มาแฮงเอาต์กัน

และสุดท้าย เป็นโซนห้อง Private Room หรือโซน VIP ซึ่งจะอยู่แยกออกไปจากโซนบาร์หรือห้องอาหารเลย ให้ความเป็นส่วนตัวได้ดี สามารถใช้จัดงานสังสรรค์เล็ก ๆ งานประชุม ไปจนถึงจัดเวิร์คช็อปได้ ใครที่สนใจจัดงานอีเวนต์ ที่มีพื้นที่พร้อมใช้ และอาหารพร้อมให้บริการ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ สามารถรองรับแขกได้สูงสุด 30 คนนะ

กลับมาที่โซนบาร์ จะมองเห็นครัวเปิด ที่ใช้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แบ่งเป็นหลายสเตชันราวกับครัวห้องอาหารโรงแรม 5 ดาว และที่เตะตามาก ๆ นอกจากไวน์ลิสต์ที่ตั้งเรียงรายให้เลือกเต็มผนัง อีกฝั่งหนึ่งเราจะเห็นขวดโหลวัตถุดิบหมัก ดอง ที่ทางร้านคราฟต์เอง (เยอะมาก ๆ) เป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหาร รวมถึงใช้ในค็อกเทลด้วยนะ

โดยที่ A Whale Restaurant มีความตั้งใจที่จะใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น รวมถึงคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย เลยเน้นความโฮมเมด หยิบนู่นนี่มาแปรรูป ถนอมอาหาร แบบการหมักดองค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นซอส น้ำส้มสายชู บัลซามิก ซึ่งจะช่วยลด Food Waste ได้มากที่สุด
“เราเชื่อว่าทุกสิ่งที่ทำจะมีที่ผลตามมาเสมอในอนาคต โดยเฉพาะต่อโลกของเรา อย่างการปอกเปลือกแครอท หลายคนคงจะทิ้งมัน แต่เราเก็บเปลือกไว้ เพื่อหมักหรือทำให้แห้ง และสามารถใช้ต่อได้อีก เป็นแนวคิดว่าเราจะปล่อยให้มันไปเปล่า ๆ หรือไม่ เราต้องหาคำตอบ และเราต้องคิดล่วงหน้า”


และขอบอกว่าวัตถุดิบลับพวกนี้ ช่วยเติมรสให้อาหารที่ A Whale มีมิติขึ้นมาก ๆ และเชฟ Nikolaj เองยังเก่งกาจด้านการทำขนมปัง ทำให้เมนูขนมปังที่นี่ทำเองทั้งหมด มีทั้งบริออช และซาวโดจ์
A Whale Restaurant รวมเมนูที่เกิดจากความหลงใหลในการสร้างสรรค์อาหาร


มาครั้งนี้เราเริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย อย่าง “Nice” Tuna Salad (720 บาท) สลัดผักสดกรอบจานโต ที่เสิร์ฟมาพร้อมปลาทูน่าโบนิโตในซอสเอสกาเบเชกระป๋องจากสเปนของ Ortiz (ที่คัดมาแล้วว่ายี่ห้อนี้อร่อย!) เชฟจะคลุกเคล้าผัก กับเนื้อทูน่าแน่น ๆ และน้ำซอสเข้าด้วยกัน ให้ความหอม นัว เข้ากับความกรอบของผัก เป็นจานที่อร่อยมาก

อีกจานที่เราเลิฟมากคือ Grilled Octopus (780 บาท) ปลาหมึกย่าง สลัดคลุกเคล้าซอสรูแม็สกูสไตล์สเปน ที่ชอบมากคือ lamb sweetbread ที่ทำมาในรูปแบบโครเกต์ กรอบนอก นุ่มใน ให้ความมันคล้ายตับห่าน อร่อยมาก

Beef Tartare (350 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูเซอร์ไพรส์ ที่รสชาติไม่คุ้นเคยแต่อร่อย เป็นเนื้อที่คลุกเคล้าซอส XO โฮมเมด มายองเนสรสกระเทียมหรือ Aioli แบบฝรั่งเศส ท็อปด้วยไข่แดงออร์แกนิก รสนวล ๆ มีความเปรี้ยวนิด ๆ เสิร์ฟมากับขนมปังโทสต์ให้กินคู่กัน กินเพลินมาก ๆ

อีกจานที่ชอบ Hamachi Ceviche (650 บาท) เชฟใช้ปลาฮามาจิจากญี่ปุ่น นำเสนอในรูปแบบเซวิเช่ โดยหั่นปลาเป็นชิ้นเหมือนซาซิมิ แล้วนำไปใส่ในซอสบีทรูทที่มีพริกมะนาวให้ความสไปซ์แบบไทย ๆ และหยอดด้วยน้ำมันหลายชนิด เพิ่มมิติรสได้ดี

ฝั่งเมนูจานหลักเราลอง DRY AGED KLONG PHAI DUCK BREAST (840 บาท) เป็นอกเป็ดที่คัดสรรจากฟาร์มคลองไผ่ (เป็นเป็ดอารมณ์ดีจากฟาร์มชั้นนำ ที่เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ ปราศจากฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ) เนื้อเป็ดมีความนุ่ม ตัดกับเทกเจอร์หนังกรอบนิด ๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสบีทรูท พลัมหมัก และมัลเบอร์รี่ มีความเปรี้ยวกำลังดี เข้ากันได้ดีมาก


และยังเนื้อ Dry-aged ทั้งเนื้อโลคอล และเนื้อนำเข้า ให้เลือกได้หลายส่วนตามชอบ เราชอบที่ก่อนเสิร์ฟจานเนื้อ ทางร้านจะนำมีดมาให้เลือกก่อนด้วย เป็นกิมมิกสนุก ๆ ก่อนเข้าจานหลัก


ปิดท้ายด้วยของหวานที่มีทั้ง Bake Dark Choc Mousse “a la MARCELL” (240 บาท) เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ มาพร้อมวิปครีมเพิ่มความนวล ๆ ตัดรสด้วยซอสรสเข้มข้นที่มความเปรี้ยวนิด ๆ “MAG-NUM” Ice Cream (200 บาท) ต้องบอกว่าเชฟทำทุกองค์ประกอบขึ้นมาใหม่และทำให้มีหน้าตาคล้ายไอศกรีมแมกนั่มนะ
และยังมีอีกหลายเมนูอร่อย ที่น่าลองอีกมากมาย ใครที่มองหาร้านอาหารแนว Fine-Casual Dining ต้องลองมาแล้วล่ะ
A Whale Restaurant Bangna
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 17:30 -22:00 น.
ถนนบัวนครินทร์ บางพลี สมุทรปราการ
มีที่จอดถ
Google Maps