ใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวคันไซอย่างโอซากา และเกียวโต จะต้องเซฟโพสต์นี้เอาไว้เลย เพราะ Routeen. จะมาแบ่งปัน #ร้านอาหาร และ #คาเฟ่ ที่เราได้แวะเวียนไปในโอซากาและเกียวโต แต่ละที่มีความเด็ดดวงที่ไ่ม่ควรพลาดอย่างไร ไปดูพร้อมกันได้เลย
โอซากา
Mondial Kaffee 328
อีกหนึ่งคาเฟ่ที่มีหลายสาขากระจายอยู่ทั่วโอซากา แต่เราอยากชวนทุกคนมานั่งที่สาขา Tugboat ที่นี่เป็นสเปซสุดเท่ที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุม ที่ตัดกันระหว่างแม่น้ำคิสุ (Kizu) และแม่น้ำชิรินาชิ (Shirinashi) ทำให้ได้วิวแบบ Riverside ที่เก๋กว่าที่ไหน และบรรยากาศก็ชิลล์สุด ๆ ไปเลย
นอกจากกาแฟ ที่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายแล้ว (แต่ยังเน้นไปที่คั่วกลางค่อนอ่อนอยู่) เรื่องเบเกอรี และขนมอบของที่นี่ก็จริงจังมาก ๆ จนถึงมีห้องอบขนมโชว์ให้เราได้ดูขั้นตอนการทำแบบชัด ๆ กันไปเลย โดยเครื่องดื่มจะเริ่มต้นที่ 600 เยนเท่านั้น ส่วนเค้ก เราลองตัวขายดีอย่าง Shine Muscat Tart (990 เยน) ที่ทาร์ตไม่หวานเลย แต่ได้ความหวานจากองุ่นสดแทน ลงตัวดีมาก ๆ
โอซากา
#Bontemps
เดินชอปย่านอเมริกามุระเหนื่อย ๆ แล้วเติมน้ำตาลกับโดนัทสไตล์เกาหลีที่ร้าน Bontemps กันหน่อยไหม ร้านปลอดโปร่งด้วยขนาด 2 ชั้น มีที่นั่งกว้างขวาง ตกแต่งมาในแบบสตรีต ๆ หน่อย ๆ ด้วยบรรยากาศแบบไมอามี และสเก็ตบอร์ด
ที่นี่จะเป็น Twist Donuts ที่มีหน้าให้เลือกเยอะมาก ๆ มาถึงแล้วอยากให้ลอง Salted Caramel ที่ท็อปด้วยเนยชิ้นโต รสชาติหอมมันสุด ๆ
หากงงว่ารูฟท็อปนี้อยู่ตรงไหน ทำไมอยู่ใกล้ชิดกับปราสาทโอซากาจัง ต้องบอกว่าเขาตั้งอยู่บนอาคาร Miraiza อาคารที่ได้สถาปัตยกรรมรูปแบบ European Romanesque ที่ตั้งอยู่ก่อนถึงจุดซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทนั่นเอง
ที่นี่จะแบ่งเวลาให้บริการเป็นสองช่วง มื้อกลางวันและโซนคาเฟ่ จะเปิดตั้งแต่ 11:30 น. ไปจนถึง 16:00 น. และทางรูฟท็ิอปจะปิดเพื่อเคลียร์พื้นที่เล็กน้อย เพื่อให้บริการในช่วงดินเนอร์ตั้งแต่เวลา 16:30 น. เป็นต้นไป โดยไฮไลต์ในช่วงดินเนอร์จะเป็นบาร์บีคิวที่ยกเตาย่างขนาดใหญ่มาให้เราย่างกันได้ตามใจ
โอซากา
#OkonomiyakiDan
มาถึงโอซากา ยังไงก็ต้องแวะร้านพิซซาญี่ปุ่น (โอโคโนมิยากิ) นี่แหละ และในย่านฮิตอย่าง Dotonbori นั้น มีร้านโอโคโนมิยากิที่เปิดยาว ๆ จนถึงตีสี่ ที่ลงเครื่องดึกแค่ไหน ก็ยังแวะกินได้เสมอ
ตัวร้านตั้งอยู่บนตึก ที่เดินเลยป้ายป็อกกี้ไปนิดเดียวก็ถึง ตัวร้านจะมาในแบบดั้งเดิม ฟีลญี่ปุ่นโลคอลมาก ๆ เป็นร้านที่มีกระทะแบนร้อนอยู่บนโต๊ะ ที่ร้่านจะมีให้เลือกทั้ง Okonomiyaki และ Modanyaki (พิซซาญี่ปุ่นแบบใส่เส้นลงไปด้วย คล้ายสไตล์ฮิโรชิมะ) ราคาเริ่มต้นที่ 850 เยนเท่านั้น
โอซากา
たこつぼ
นี่คือร้านที่ขายทั้งทาโกยากิ และโอโคโนมิยากิ (พิซซาญี่ปุ่น) มาแนะนำ ที่สำคัญร้านนี้ได้ Michelin Guide มา 5 ปีติด!
แม้จะพูดว่าที่นี่มีทาโกยากิที่เป็นตัวชูโรงจนทำให้ได้รับ Michelin Guide มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2563 แต่จริง ๆ แล้วทางร้านมีเสิร์ฟเฉพาะเมนู อะกะชิยากิ (Akashiyaki) เท่านั้น คือการนำไข่มาผสมกับแป้ง ใส่ไส้ด้วยปลาหมึก หยอดลงบนแผ่นเหล็กที่ทำเป็นหลุมตื้น ๆ เวลากินจะจุ่มกับซุปอะกะชิยากิ ซุปขึ้นชื่อจากเมืองอะกะชิ ในจังหวัดเฮียวโงะ ที่อยู่ไม่ไกลโอซากานั่นเอง
โอซากา
#Syan
ใครคิดถึงอาหารไต้หวัน แม้ว่าจะมาเที่ยวญี่ปุ่น แต่เราก็ลองชิมอาหารไต้หวัน ฝีมือคนไต้หวันแท้ ๆ ได้ที่นี่ ร้านตั้งอยู่ในย่านนิปปอนบาชิ ที่เหล่าคนรักแอนิเมะและของเล่นต้องแวะมาอยู่แล้ว
เรียกว่าหลาย ๆ เมนูของไต้หวัน แทบจะหาได้ที่นี่ทั้งหมด ทั้งหลู่โร่วฟ่าน (ข้าวหน้าหมูสามชั้น) ผีตั้นโท่วฝู (เต้าหู้กับไข่เยี่ยวม้า) เหยียนซูจี (ไก่ทอดสไตล์ไต้หวัน) และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย
โอซากา
#TsukemenSuzume
สำหรับคนรักราเมนจิ้มจุ่ม หรือ Tsukemen (ท์สึเคมน) ที่ชอบซุปแบบข้นคลั่ก (เพราะเวลาซุปไม่ข้นพอ มันจะสูดเส้นไม่อร่อย ซุปไม่เกาะเส้นมากนัก) เราอยากแนะนำร้านนี้เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านท์สึเคเมนที่ซุปข้นถูกใจสุด ๆ
ตัวร้านขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้อาจต้องรอคิวนานหน่อย ต้องกดสั่งที่ตู้ก่อน โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ด ซุปแน่นและหอมปลามาก ๆ ส่วนใครที่รู้สึกเหนียวคอไป บนโต๊ะมีกาน้ำร้อนให้เติมเจือจางอยู่นะ
เกียวโต
Blue Bottle Coffee Truck
ไปจิบมัตฉะลาเต้แก้วขึ้นชื่อของ Blue Bottle ในบรรยากาศกลางวัดญี่ปุ่นสุดเก่าแก่ที่บรรยากาศหาที่ไหนไม่ได้ในวัด Kenninji เป็นวัดนิกายเซนที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต โดยมารูปแบบ Coffee Truck กับคอนเซปต์ที่ให้เราได้ออกไปดื่มกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ
ความพิเศษครั้งนี้คือการร่วมมือกับ Gion Tsujiri ในการนำเสนอมัตฉะลาเต้เป็นที่แรกของ Blue Bottle ด้วย โดยใช้มัตฉะ Dahonzan Kenninji Purveyor Jutoku ที่ทางวัดใช้มานาน ให้เราได้ลองด้วย เสัียดายที่ตอนนี้โปรเจ็กต์พิเศษนี้จบไปแล้ว แต่ข่าวดีคืออาจจะกลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนะ
เกียวโต
#LELABO CAFE KYOTO MACHIYA
แฟน ๆ ของน้ำหอมชื่อดังจากนิวยอร์กอย่าง Le Labo ต้องไม่พลาดคาเฟ่แห่งแรกของเขา ที่ตั้งอยู่ที่เกียวโตนี่เอง และเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตัวร้านจะตั้งอยู่ในบ้านไม้เก่าตั้งแต่ปี 1879 ซ่อนอยู่ภายในโชว์รูมของ Le Labo เองเลย ให้เดินทะลุตัวร้านเข้าไป จะเจอสวนญี่ปุ่นเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางบ้าน คาเฟ่จะตั้งอยู่ติดกับสวนนั้น โดยเป็นคาเฟ่ที่ไม่มีที่นั่ง (ซื้อกลับเท่านั้น) มาพร้อมทั้งกาแฟ มัตฉะ และขนมอบแบบมังสวิรัติรออยู่