ไหน? ใครเป็นทาสของเจ้าสัตว์สี่เท้า (หรือบางทีก็มีมากและน้อยขากว่านั้น) ที่เรารักและเลี้ยงอย่างประคบประหงมบ้าง? เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ น่าจะมีสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองรักอยู่บ้างตัวสองตัว ไว้คลายเหงาและให้อยู่กับเราทุกวัน แล้วพอจำได้ไหมว่า ครั้งสุดท้ายที่พาพวกเขาออกไปสนุกข้างนอกด้วยกันนั้นนานแค่ไหนแล้ว? เพราะขนาดเราเองก็ยังต้องการการพักผ่อน และออกไปเปลี่ยนบรรยากาศนอกบ้าน กับคาเฟ่วิวดี ๆ พวกสัตว์เลี้ยงของเราก็คงไม่ต่างกัน ที่อยากจะออกไปข้างนอก และแวะไปคาเฟ่บ้าง
Routeen. จึงขอรวบรวม 9 คาเฟ่ Pet Friendly ยินดีต้อนรับเพื่อนซี้สี่ขาของเรามายังร้านด้วย ไว้เป็นตัวเลือกเผื่อวันพรุ่งนี้ จะลองพาพวกเขาออกไปคาเฟ่ข้างนอกบ้างนะ
Petrichor Cafe (เพททริเคอร์ คาเฟ่) เป็นร้านที่เกิดขึ้นโดยความตั้งใจของคุณ เต้ – ณัฐธิภา วารีศรศักดิ์ ที่อยากจะทำคอมมูนิตี้เพื่อคนรักสัตว์แบบครบวงจร มีโรงแรม สระว่ายน้ำ กรูมมิ่ง และร้านอาหาร แต่ที่เริ่มก่อนตอนนี้จะเป็นฝั่งคาเฟ่และกรูมมิ่งอย่างที่เห็น ด้วยความที่เป็นคนชอบสัตว์ชอบหมาแมว มีความฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากทำคาเฟ่อาบน้ำตัดขน และเลี้ยงน้องหมาอยู่แล้วด้วย เลยตัดสินใจไปเรียนอาบน้ำตัดขนจริงจัง เป็นช่างกรูมมิ่งเองเลย พอเริ่มมาทำกรูมมิ่ง ก็เริ่มวาง Process ว่าจะทำเป็น Community ที่มีทุกอย่าง ทั้งโรงแรม สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ Pet-friendly แต่ด้วยความที่การเริ่มต้นกิจการแรกเป็นโปรเจกต์นี้เลยอาจจะใหญ่เกินไปหน่อย ก็เลยลองทำบางส่วนเป็นตัวเริ่มต้นก่อน มาลงตัวที่กรูมมิ่งที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มพาร์ตคาเฟ่เข้ามา
สไตล์เครื่องดื่มของที่ร้านจะมีความแฟนซี ดูมีมิติ และตัวกาแฟเองก็จะมีความดื่มง่าย เพราะเริ่มมาจากตัวคุณเต้เองที่ไม่ดื่มกาแฟ พอได้มาทำธุรกิจที่มีกาแฟ เลยเลือกแบบโปรไฟล์กาแฟที่ดื่มง่าย ๆ คนไม่กินกาแฟก็เอนจอยได้ มี House Blend เป็นคั่วกลาง 3 ตัว คือ Mellow ลาว-บราซิล ออกโทนช็อกโกแลต นัตตี้ Sunny ไทย-เอธิโอเปีย ออกโทนฟรุตตี้ ดอกไม้ และ Moonshine ฮอนดูรัส-ไทย มีความหอมหวานมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ส่วนอาหารก็มีเชฟ มาเป็น Consult คิดสูตรต่าง ๆ ให้ จุดเริ่มต้นคิดไว้ว่าอยากให้เป็นสไตล์เม็กซิกัน-บรันช์ กินง่าย ๆ ก็เลยมีนาโช่ ทาโก้เข้ามา แต่ด้วยความที่พอเปิดมาสักพักลูกค้าก็อยากได้อะไรที่หลากหลายขึ้น เลยเพิ่มไลน์ใหม่ ๆ ที่เป็นสปาเก็ตตี้ ออกไปในทางตะวันตกมากขึ้น มีความวาไรตี้มากขึ้นเป็น All Day Brunch ที่ตอบสนองลูกค้ามีทั้งแบบทานง่าย ๆ ไปจนถึงทางอิ่มเลย
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/petrichor-cafe/
เปิดทุกวัน 09:30 – 18:30 น.
ทวีวัฒนา | มีที่จอดรถ
คนที่ชอบเมนูบรันช์ น่าจะคุ้น ๆ กับร้าน Kasnäs (คาส-นาส) กันบ้าง เปิดมาหลายปี และเป็นร้านที่เสิร์ฟเมนูบรันช์สไตล์นอร์ดิกจ๋า ๆ เลย ก่อนหน้านี้เปิดเป็นร้านเล็ก ๆ เป็นแนวป๊อบอัพ ขนาดไม่ใหญ่ ก่อนจะมีข่าวรีโนเวทและเปิดโฉมใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ที่น่ารักมาก ๆ คือที่ ร้าน Kasnäs BKK เป็น Pet Friendly ด้วย อนุญาตให้พาน้องหมาน้องแมวเข้าในด้านในร้านได้เลย โดยจะแบ่งโซนกันเล็กน้อย คือด้านที่เป็นพื้นปูนหรือ Café zone จะให้น้อง ๆ เข้ามาได้ ส่วนโซนด้านในที่เป็นพื้นไม้ ก็สงวนไว้สำหรับใครที่อาจจะไม่สะดวก ซึ่งพื้นที่ของน้อง ๆ ก็ถือว่าไม่น้อยเลย มีที่วิ่ง Outdoor โล่ง ๆ ด้วย วันที่เราไปก็ได้เจอกับคอร์กี้สาวสวยชื่อคะน้า มาเป็นนางแบบจำเป็นให้เรา
ที่ kasnäs มีโซนเครื่องดื่มจริงจังด้วยนะ มาพร้อมตู้ขนมยั่วตายั่วใจ พูดถึงเครื่องดื่ม คุณพุธบอกเราว่า จริง ๆ แล้วเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ แต่ด้วยความเป็นบรันช์ เลยจำเป็นต้องมีกาแฟเข้ามา และเริ่มสนใจเรื่องกาแฟมากขึ้น คุณพุธออกตัวว่า ไม่ได้เป็น Specialty เรื่องกาแฟ แต่รู้ Standard ของกาแฟ ว่ามันควรจะเป็นยังไง เลือกเมล็ดเอง ชิมเอง จนออกมาเป็น 2 เบสคือ คั่วอ่อน และคั่วกลาง-เข้ม ความน่าสนใจคือ ไม่ใช่แค่มีกาแฟ แต่เป็นกาแฟที่คิดมาแล้วว่าเข้ากับเมนูบรันช์ Paring กับอาหารแล้วเข้ากัน
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/kasnas-bkk/
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) 08:30 – 17:00 น.
ถนนสาทรเหนือ
MRT ลุมพินี แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
เพราะเดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นร้าน Pet Grooming มาก่อน จึงมีพื้นที่กว้างสำหรับให้น้อง ๆ วิ่งเล่น สะดุดตาด้วยต้นหลิวขนาดใหญ่ 2 ต้นในสวน ที่เจ้าของร้านชอบมาก ๆ จนต้องเก็บไว้ เจ้าของร้านค่อนข้างปรับเปลี่ยนพื้นที่ด้านนอกค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่การเปลี่ยนทางเข้าเสียใหม่ โยกพื้นที่จอดรถที่แต่ก่อนอยู่หน้าร้าน ให้ไปอยู่ด้านข้างแทน เพื่อขยายพื้นที่ของสวนให้ออกไปได้มากขึ้น ก่อรั้วขึ้นมาใหม่ด้านนอก และรื้อรั้วเดิมที่กั้นบริเวณแนวต้นหลิวออก (ก่อนหน้านี้เป็นรั้วที่เอาไว้ป้องกันน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงวิ่งออกไปข้างนอก) แล้วเปลี่ยนตรงนี้ให้เป็นพื้นที่ทางเข้า และเดินเข้ามาเจอทั้งตัวร้านและสวนที่สบายตาแทน
ทางร้านได้ KoffeePlus Coffee Roaster Academy ร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงบนเวทีประกวดที่เปิดมานานกว่า 10 ปี รวมถึงเจ้าของร้านยังเป็นพี่ชายของคุณวิ้นอีกด้วย มาช่วยออกแบบ House Blend ของทางร้านให้ ผ่านโจทย์ว่าจะต้องเป็นกาแฟที่เข้าใจง่าย และรสชาติดี เป็น Everyday Coffee ได้ ออกมาเป็น 3 ตัวด้วยกันอย่าง Boundless เบลนด์คั่วกลางที่เหมาะสำหรับทุกแก้ว มีโน้ตเป็นนัตตี้นิด ๆ คาราเมลและช็อกโกแลตหน่อย ๆ ใช้เป็นเมล็ดบราซิล โคลอมเบีย และไทย อีกตัวเอาใจคนชอบดื่มเบา ๆ กับ Tiny In Town เมล็ดคั่วอ่อนที่โน้ตเป็ลฟลอรัลและซิตรัส ใช้เมล็ดเอธิโอเปีย กัวเตมาลา และเมล็ดไทย สุดท้ายกับสเปเชียลเบลนด์อย่าง Little Cloud ที่เป็นคั่วกลางค่อนอ่อน บอดี้จะมีความฟรุ้ตตี้นิด ๆ ฟลอรัลหน่อย ๆ ด้วยเมล็ดเอธิโอเปีย ฮอนดูรัส และเมล็ดไทย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/acre-neighborhood-cafe/
เปิดทุกวัน (เว้นวันศุกร์) เวลา 9:00 – 17:30 น. (Last Order 17:00 น.)
พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 7 บางแคเหนือ
MRT หลักสอง แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
ตัว GROOT Hot Pot ร้านชาบู เองต้องบอกว่าถูกดัดแปลงมาจากโครงสร้างเก่าที่มากับที่ดินนี้อยู่แล้ว คล้ายว่าก่อนหน้านี้บริเวณนี้จะถูกสร้างเป็นหมู่บ้านจัดสรรมาก่อน และพื้นที่ของฟาร์มนี้น่าจะเคยตั้งใจให้เป็นคลับเฮาส์ของโครงการ (ที่หมู่บ้านไม่ได้เกิดขึ้นจริง) พื้นที่นี้จึงมีโครงสร้างของอาคารคลับเฮาส์ติดมาด้วย ซึ่งทางร้านก็ใช้ประโยชน์ของโครงสร้างนี้ด้วยการนำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ของร้านเสียเลย ด้วยตัวโครงสร้างด้านบนมีการกรุปาเก้เป็นเพดานเอาไว้ จึงใช้ไม้เพิ่มเติมในส่วนของตัวอาคารขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับตัวไม้เดิมที่มี แถมยังช่วยเสริมให้ความโฮมมี่ ความ Warm ของร้านที่ต้องการได้ด้วย ปาเก้บางส่วนถูกนำมาใช้ตกแต่งในส่วนต่าง ๆ ของร้าน เช่น เคาน์เตอร์ อีกเช่นเดียวกัน
ต้องเรียกว่าฮอตพอตของ GROOT Hot Pot ร้านชาบู เป็นสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นมาเอง ด้วยความที่คลุกคลีอยู่กับการทำร้านอาหาร และชอบทำอาหารอยู่แล้ว (โดยเฉพาะชอบซดน้ำซุป) จึงลองผิดลองถูกในสูตรต่าง ๆ ทั้งน้ำซุป ไปจนถึงน้ำจิ้ม จนลงตัวและถูกใจ โดยเน้นแบบโฮมเมดแทบทั้งหมด ทางร้านมีซุปให้เลือกถึง 4 ซุป ได้แก่ น้ำซุปใส น้ำซุปต้มยำ ซุปน้ำดำ และซุปหมาล่าที่ไม่ใช้ไขมันวัว แต่ใช้เป็นไขมักจากพืชแทน
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/groot-hot-pot/
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 11:00 – 21:00 น. (ศุกร์-อาทิตย์ ปิด 22:00 น.) Last Order 20:30 น.
ซอยทวีวัฒนา 33 ศาลาธรรมสพน์
MRT หลักสอง แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
จุดเริ่มต้นของร้านที่หน้าตาเหมือนโบสถ์นี้ เกิดขึ้นจากตำนานของเอธิโอเปียเรื่องหนึ่ง ที่มีเด็กเลี้ยงแพะคนหนึ่ง ทุก ๆ วันจะพาแพะออกไปเดินเป็นประจำ ซึ่งแพะของเขากลับเต้นสองขาได้! วันหนึ่งมีบาทหลวงคนหนึ่งเห็น จึงถามเด็กเลี้ยงแพะไปว่าทำไมแพะถึงเป็นแบบนี้ เด็กเลี้ยงแพะจึงบอกว่าเพราะแพะของเขากินเบอร์รี่เม็ดนี้เข้าไป บาทหลวงคนนั้นจึงเก็บเม็ดเบอร์รี่นี้ไปต้มดู เมื่อลองชิมก็รู้สึกตัวเองมีพลังงาน จึงเอาไปกินเมื่อเขาสวดมนต์ทุกวัน เรื่องราวนี้จึงกลายเป็นที่มาของคาเฟ่ทรงโบสถ์ที่ล้อไปกับตำนานเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนรักกาแฟ อาจจะไม่ใช่พื้นที่จริงจังสำหรับสายสเปเชียลตี แต่เป็นเพียงพื้นที่สำหรับคนที่รักการดื่มกาแฟในทุก ๆ วัน
ในส่วนของกาแฟเองก็มีคอนเซปต์ที่ชัดเจน แม้เจ้าของร้านจะบอกว่ากาแฟที่นี่เลือกง่าย ดื่มง่าย ไม่แฟนซีอะไรขนาดนั้น แต่ก็ยังดูน่าสนุก ตัวแรกเรียกว่า Body เมล็ดกาแฟเบลนด์ไทยคั่วเข้มจากแถบเชียงใหม่ ที่ให้รสคาราเมลและสโมคกี้หน่อย ๆ ถัดมาเป็น Soul ยังคงเป็นเมล็ดกาแฟเบลนด์ของไทย แต่คั่วกลาง ที่ออกนัตตี้และคาราเมล สุดท้ายกับ Spirit ที่เบลนด์ด้วยเมล็ดกัวเตมาลา โคลอมเบีย และไทย คั่วกลางค่อนอ่อน รสชาติจะออกฟรุตตี้หน่อย ๆ ซึ่งสามารถเลือกตามสะดวก แต่หากสั่งกาแฟนม เราว่า Soul กับ Spirit น่าจะเวิร์กไม่หยอก
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/bound-cafe-punnawithi/
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) เวลา 9:00 – 17:00 น.
(แต่ช่วงนี้ Soft Opening เปิดทุกวันนะ)
ซอยสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี 27) บางจาก
BTS ปุณณวิถี แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
เราได้เห็นความแข็งแรงของ runthru ที่ถูกคิดมาแล้วอย่างดี อย่างชื่อร้านก็บิดมาจากคำว่า Runthrough มาจากการซักซ้อม เป็นคอนเซปต์หลักของร้านที่อยากจะซักซ้อมจนเก่งและเชี่ยวชาญ เหมือนอย่างการทำร้านกาแฟ ในวันแรกอาจจะไม่เก่งมากก็ได้ แต่ถ้าซ้อม มันก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และ runthru ยังสื่อถึงการวิ่ง เป็นอีกหนึ่งแพชชั่นของเจ้าของร้านที่ชอบการวิ่ง จริงจังถึงขั้นจะไปมาราธอนเลย เมนูต่าง ๆ ในร้านเลยมีชื่อที่เกี่ยวกับการวิ่ง สอดคล้องกับเมนู เรื่องการวิ่งนี่ต่อยอดมาเป็นทั้งโปรโมชัน และการสะสมแต้มต่าง ๆ ด้วยนะ
ที่ร้านจะมีโซนเอาท์ดอร์ พร้อมที่นั่งฟีลแคมป์ ที่ตั้งใจทำเพื่อให้คนที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติได้มาเอนจอยกัน เพราะที่นี่มีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ คอยให้ร่มเงาถึง 3 ต้น ( ต้นประดู่ ต้นโพธิ์ และต้นหว้า) นั่งกันสบาย ๆ เหมือนได้ไปตั้งแคมป์ และโซนนี้ยังเป็น Pet friendly ด้วยนะ พาน้อง ๆ มานั่งเล่นที่โซน Outdoor ได้เลย ร้านพร้อมเตรียมน้ำเย็น ๆ ไว้ให้ด้วย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/runthru-bkk/
เปิดทุกวัน วันธรรมดา 08:00 – 16:30 น. | ส. – อา. 08:00 – 17:00
ปากซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 17
มีที่จอดรถ
พาสัตว์เลี้ยงของเราไปวิ่งเล่นตามคาเฟ่แล้ว ก็อย่าลืมดูแลเขาให้วิ่งเล่นอย่างแข็งแรงไปกับเราได้นาน ๆ ด้วยน้า สำหรับชาวคู้บอนและรามอินทรา ก็สามารถให้ ‘โรงพยาบาลสัตว์เพื่อคุณ’ ช่วยดูแลแบบครบจบในที่เดียวได้เลย ตั้งแต่อาบน้ำ ตัดขน การรักษา ตรวจเลือด เอ็กซเรย์ งานผ่าตัด ศัลยกรรม ไปจนถึงรับฝากเลี้ยงน้องหมาน้องแมวของเราด้วยนะ เปิดทุกวัน 09:00 – 21:00 น. พิกัดที่นี่เลย |
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่โดดเด่นในย่านนี้ แต่ยังแทรกความเป็นบ้านให้เข้ากับย่านนี้เข้าไป อีกทั้งยังอยากให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาจอยกันได้ จึงตั้งใจให้พื้นที่นี้แสดงออกถึง 3 คีย์เวิร์ดหลักอย่าง Friendly, Energize และ Welcome เพื่อสร้าง Waken Cafe ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างแข็งแรง ส่วนชื่อร้านอย่าง Waken นั้นก็มาจากคีย์เวิร์ดทั้ง 3 คำที่บอกไปก่อนหน้านี้เช่นกัน จึงเลือกคำนี้ที่สื่อถึงความสดใส สดชื่น และยังจำง่ายอีกด้วย โดยชื่อร้านที่ทำให้นึกถึงแสงแดดและยามเช้านี้ก็ถูกต่อยอดออกมาเป็นคาแรกเตอร์ของร้านอย่าง Biggy ที่มาเป็นน้องดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้น หน้าตาน่ารักดูเฟรนด์ลีตัวนี้นี่เอง
ส่วนเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ถูกพัฒนามาจากไอเดียเดียวกับตัวร้านเช่นกัน โดยเจ้าของร้านอยากให้ที่นี่เหมือนเป็นบ้าน ที่พร้อมต้อนรับเพื่อนบ้านละแวกนี้ และเพื่อน ๆ ทุกคนให้แวะเวียนเข้ามา และอยากให้ทุกคนได้ลองกินในสิ่งที่เราชอบกิน ซึ่งเจ้าของร้านเองเป็นคนที่สนใจในเรื่องของอาหาร Healthy ไม่ปรุงแต่งมาก ตัวเครื่องดื่มจึงคิดว่าอยากให้มีความ Comfort กับทุกคน ทั้งลูกค้า ทั้งผู้ดื่ม และบาริสต้า ตัวเมนูจึงไม่ได้แฟนซีมาก เน้นความคลาสสิคและเข้าใจง่าย แต่ยังมีความโดดเด่นและไอเดียแอบซ่อนอยู่ในแต่ละแก้วไม่น้อย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/waken-cafe-bangkok/
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) 09:30 – 17:00 น.
ถนนฉิมพลี ตลิ่งชัน
SRT ชุมทางตลิ่งชัน แล้วต่อพี่วิน | ไม่มีที่จอดรถ
Third House Cafe เป็นคาเฟ่น้องใหม่แบบสุด ๆ เพราะเพิ่งเปิดเมื่อ 2 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง ตอนที่เราแวะไปยังเป็น Soft-opening อยู่เลย ตัวร้านมี 3 ชั้น โดยชั้น 1 จะเป็นบาร์กาแฟ ตู้ขนม และห้องอบขนมที่ทำเป็นกระจกใส มองเห็นตอนอบขนมกันแบบสด ๆ ส่วนที่นั่งมีทั้งโต๊ะเดี่ยวและโต๊ะ Sharing ซึ่งจัดสรรพื้นที่ได้ค่อนข้างดี รองรับลูกค้าได้เยอะเลย ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่โล่ง ๆ โต๊ะไม่มากนัก สามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ในอนาคต อย่างเวิร์กชอป หรือถ่ายสินค้า และมีระเบียงให้ออกไปยืนชิลล์ เก๊กท่าถ่ายรูปได้ ส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่อยู่อาศัยนะ ไม่ได้เปิดให้ขึ้นไป
Third House Cafe ไม่ถึงกับเป็นสเปเชียลตี้ด้านกาแฟขนาดนั้น แต่ก็ให้ความสำคัญกับกาแฟจริงจังพอสมควร ทั้งเคยไปเรียนคอร์ส SCA (Specialty Coffee Association), Coffee Sensory พอชิมได้ว่ารสชาติกาแฟเป็นประมาณไหน และก็มีรุ่นพี่ที่เปิดร้านกาแฟ และมีโรงคั่วที่รู้จัก ทำให้มีกาแฟดี ๆ วางอยู่ในร้านเพียบ ซึ่งมี House Blend ถึง 2 ตัว เป็นกลาง-เข้ม และกลาง-อ่อน และมีเมล็ดพิเศษให้เลือกอีกถึง 11 ตัว ส่วนใครอยากจะพาน้อน ๆ มา ทางร้านก็ยินดี แต่รบกวนขอเป็นเจ้าตัวเล็ก หรืออยู่ในรถเข็นก่อนนะ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/third-house-cafe/
เปิดทุกวัน 07:00 – 17:00 น.
เพชรเกษม 55
MRT หลักสอง แล้วต่อพี่วิน | จอดรถได้ที่ริมกำแพงในซอย
พื้นที่คาเฟ่จะแบบออกเป็น 4 ส่วน คือด้านในร้านจะเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ชงกาแฟ มีที่นั่งเล็กน้อย ชั้น 2 ของบ้านจะมีห้องแอร์ให้นั่งได้อีกหลายโต๊ะ ตรงริมน้ำก็มีทำที่นั่งชิค ๆ ไว้ให้นั่งดูบรรยากาศริมคลอง และที่น่ารักมาก ๆ คือพื้นที่สนามหญ้า ทางร้านจะมีเก้าอี้ปิ๊กนิกให้ถือไปกางกันเอง เลือกที่เหมาะ ๆ แล้วนั่งได้เลยแบบฟรีสไตล์ หรืออยากจะปูเสื่อก็ได้นะ และแอบมีลานทรายเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ มาเล่นกันได้ด้วย (เพราะคุณแม่ก็มีหลานตัวน้อย ๆ เหมือนกัน) ที่สำคัญคือพื้นที่ตรงนี้ร่มรื่นมาก ๆ เพราะมีต้นจามจุรีและต้นหูกระจงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาอยู่ ส่วนใครจะพาสัตว์เลี้ยงมาด้วยก็ยินดีเลย
แน่นอนว่าที่นี่มีเมนูอาหารฝีมือคุณแม่ให้เราชิมหลายเมนูเลย แต่ต้องบอกว่าเมนูอาหารที่ร้านอาจไม่ได้มีพร้อมตลอดทุกวัน เพราะคุณแม่เป็นคนลงมือทำทุกเมนู หากวันไหนล้าก็อาจมีพักบ้าง ที่นี่เลยจะมีเมนูของคาวอย่างเบอร์เกอร์มาเสริมทัพจาก Ampol Burgur ร้านเบอร์เกอร์โฮมเมดจากบางแสน ในฝั่งเครื่องดื่มก็เยอะไม่แพ้กัน เมนูกาแฟที่ร้านจะใช้เมล็ดกาแฟ House Blend 2 กลุ่ม คั่วกลางเข้ม เป็นบราซิล-โคลัมเบีย และคั่วอ่อน เป็นเอธิโอเปีย กัวเตมาลา-เทพเสด็จ เชียงใหม่ ตรงนี้เป็นฝีมือของลูกชายล้วน ๆ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://routeen.co/grandma-garden-bkk/
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) 10:00-19:00 น.
ซอย นาวีเจริญทรัพย์ บางแค
MRT หลักสองแล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ