แม้ว่าเนื้อจะมีหลายส่วนให้เราเลือกชิม (และแทบทุกส่วนก็อร่อยไม่ไหว) แต่ส่วนของเนื้อที่เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักล่าเนื้อในบ้านเรา คงต้องยกให้ พิคานย่า Picanha นี่แหละ จริง ๆ แล้วนี่คือเนื้อส่วนสะโพกติดไขมัน หรือเนื้อส่วน Sirloin Cap (เซอร์ลอยด์) หรือ Rump Cap (รัมพ์) นั่นเอง ซึ่งนอกจากบ้านเราแล้ว ก็น่าจะมีประเทศแถบละตินมอเริกัน ที่เรียกเนื้อส่วนนี้ว่า พิคานย่า กันนะ
จุดเด่นของ พิคานย่า คือส่วนนี้จะมีเพียงแค่ 2 ชิ้นต่อตัวเท่านั้น รูปร่างของเนื้อจะคล้ายกับส่วนสตริปลอยด์ แต่จุดเด่นคือชั้นบนของชิ้นเนื้อจะมีชั้นมันที่ค่อนข้างหนา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเนื้อส่วนนี้ เวลานำไปย่างบนไฟแรง ๆ ให้มันด้านบนโดนความร้อน กลิ่นของมันจะหอมมาก ๆ และส่วนเนื้อก็จะสู้ฟันดีเชียวล่ะ
และนี่คือ 8 ร้านอาหาร ที่มีเมนู พิคานย่า เสิร์ฟ ให้เราได้ลองชิ้มชิมรสสูตรของแต่ละร้านที่มีความแตกต่างกันไป
ร้าน Brooks Brunch & Bar ตั้งอยู่ในซอย ถนนเลียบคลองประปา โดยใช้พื้นที่ข้าง ๆ กับโรงแรม Botanic Service Room โรงแรมขนาด 58 ห้อง ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ร่มรื่น เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของแขกที่มาพัก รวมถึงผู้คนละแวกนี้ด้วย เพราะร้านบรันช์ หรือค็อกเทลบาร์ลักษณะนี้ ยังไม่ค่อยมีมากนักในย่านนี้ และที่นี่เชื่อว่า เชื่อว่าถ้าวัตถุดิบดี ปรุงนิดหน่อยเพื่อดึงคาแรกเตอร์ออกมา ก็อร่อยได้แล้ว
เอาใจสายเนื้อ (อย่างเรา) ไม่ต้องสั่งสเต๊กชิ้นโต ก็มีเมนูเนื้อให้เลือกอย่าง Dipping Steak Sandwich (365 บาท) แซนด์วิชเฟรนช์เบรดชิ้นหนา ที่มาพร้อมเนื้อพิคานย่าสเต๊กแน่น ๆ กลิ่นรสเนื้อชัดเต็ม ๆ มีซุปหัวหอม ผักดองช่วยตัดเลี่ยน และเฟรนช์ฟรายให้กินเล่นคู่กัน แค่เมนูนี้ก็จุกแล้ว
รู้จักร้าน Brooks Brunch & Bar แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน เริ่ม 08:30 – 00:00 น. (บาร์ เริ่ม 17:00)
เลียบคลองประปาแจ้งวัฒนะฝั่งเมืองทอง
BTS วัดพระศรีมหาธาตุ แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
ร้าน Kemuri ใช้พื้นที่ชั้น 1 แม้พื้นที่จะไม่มาก แต่จัดร้านได้ดีเลย มีทั้งโต๊ะกรุ๊ปใหญ่ โต๊ะกรุ๊ปเล็ก และมีบาร์สำหรับมาคนเดียวหรือสองคนก็นั่งได้ด้วยนะ สไตล์ร้านตกแต่งแบบมินิมอล เน้นสีไม้ มีกลิ่นอายญี่ปุ่น ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นก้อนถ่านเรียงรายอยู่ ตรงนี้เป็นกิมมิก ที่ตั้งใจสื่อสารให้รู้ว่าที่ร้านใช้ถ่านเป็นหลัก ในเมนูจะแบ่งออกเป็นชุดข้าวหน้าเนื้อและชุดสุกี้ยากี้ สามารถเลือกชนิดของเนื้อได้ มีตั้งแต่ เนื้อ Brisket / เนื้อพรีเมียม Paleron (ใบพาย) / ลิ้นวัว / เนื้อวากิวเคะมุริ / พิคานย่า ไปจนถึง เนื้อวากิว A5 เลย
ชุดข้าวหน้าเนื้อพิคานย่าย่าง (590 บาท) เป็นเนื้อที่หอมเวลาย่างไฟ เสิร์ฟมาพร้อมข้าวญี่ปุ่น ชุดผักดองรวม กะหล่ำซอย ไข่ออนเซน ซุปดาชิ มีเครื่องเคียงเป็นต้นหอมซอย สาหร่าย และวาซาบิ แอบตกใจที่ให้เนื้อมาเยอะมาก มาแบบล้น ๆ ชอบที่พิคานย่าจะมีมันติดปลายทุกชิ้น เรียงออกมาสวยเลย ชิ้นหนากำลังเคี้ยวอร่อย ลองกินตามวิธีของ Kemuri แล้ว พบว่าเนื้อไปด้วยกันกับวาซาบิได้ดีมาก ๆ (ชอบวาซาบิแบบนี้มาก ๆ) เสริมรสเผ็ดที่ไม่ฉุนจนแสบจมูก ส่วนซุปดาชิกลิ่นปลาแห้งหอมชัดมาก กินรวมกับเนื้อก็อร่อย หรือจะซดเป็นซุปก็ยังได้
รู้จักร้าน Kemuri แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 17:00 – 00:00 น.
ถนนบรรทัดทอง
BTS สนามกีฬา / MRT สามย่านแล้วต่อพี่วิน | จอดรถได้ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ
ต้อนรับร้านอาหารใหม่ในบรรยากาศสุดชิลล์ มาในรูปแบบของ Casual Dining ที่เป็นได้ทั้งคาเฟ่สงบ ๆ ร้านอาหารให้ฝากท้อง ไปจนถึงไวน์บาร์ชิลล์ ๆ กับแก๊งดพื่อนหรือคนรักยามค่ำคืน ในย่านนาคนิวาส กับชื่อร้านที่แอบบอกกับเราอยู่แล้วว่า งานนี้เราจะได้เจอเมนูต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของ เลมอน เข้าร่วมด้วยหลากหลายจาน (และแก้ว) เลยล่ะ
ต้องบอกว่าเมนูอาหารของที่นี่จะมาในแนว Comfort Food ที่กินได้บ่อยไม่เบื่อ แถมยังราคาดีมาก ๆ อาทิ สปาเกตตี ข้าวซอย หรือเมนูข้าวต่าง ๆ แต่ถ้าเป็นสายเนื้อ เราอยากแนะนำ ข้าวผัดมันเนื้อ (220 บาท) ข้าวผัดกับมันเนื้อหอม ๆ (ที่ชิ้นเนิื้อในข้าวผัดก็ใหญ่มาก ๆ) ท็อปด้วย พิคานย่า ที่มาแบบมีเดียม ไข่ดาว และผักเคียง ก่อนทานแนะนำให้บีบเลมอนเสริมรสลงไปด้วย และ เนื้อย่าง Yuzu Salt (260 บาท) เนื้อส่วน พิคานย่า แบบมีเดียม (เลือกระดับความสุกได้) กินคู่กับเกลือยุซุ แค่นี้ก็ฟินแล้วล่ะ
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 23:00 น.
นาคนิวาส 19 ลาดพร้าว
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถาน
ลาดพร้าว 71 แล้วต่อพี่วิน | จอดรถได้ในซอย
ผ่านย่านอินทามระ 37 นอกจากสะดุดตากับโฮสเทลสีเขียวมะกอกอย่าง เฌอ โฮสเทล แบงค็อก ที่ชั้นล่างของโรงแรม ยังมีคาเฟ่ไวบ์ดีสีขาวแดง ที่สร้างอีกหนึ่งสีสันให้กับย่านชื่อว่า Lou Lou แม้ว่าหน้าตาของร้านจะมีความเป็นคาเฟ่มาก ๆ แต่เมื่อได้เปิดประตูเข้ามา เราจะได้กลิ่นหอมของอาหารเตะจมูกก่อนกลิ่นกาแฟเสียอีก ทั้งคู่บอกเรา ตั้งแต่แรกจริง ๆ เน้นอาหารมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะมันต่อยอดมาจากเมนูพาสต้าที่เคยทำ
แต่นอกจากพาสต้า ( ที่ร่ำลือเรื่องความอร่อย) สายเนื้อก็ยังมี Garlic & Olive Oil Picanha Don (259 บาท) เป็นข้าวที่เอาไปผัดกับมันเนื้อ ซึ่งมันเนื้อมักจะเป็นส่วนที่คนมักจะคัดทิ้ง เวลาตกแต่งเนื้อสเต็ก ทางร้านเลยครีเอตเอามาใช้ประโยชน์ ลด Food Waste ด้วยการนำไปคั่วกระทะให้มีความเกรียม ๆ ก่อนนำมาผัดไปกับข้าวอีกที จะได้ข้าวผัดที่มีเทกเจอร์กรุบ ๆ
รู้จักร้าน LOU LOU แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 10:00 – 22:00 น.
ปากซอยอินทามระ 37
MRT สุทธิสาร แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
อีกหนึ่งไวน์บาร์ที่จริงจังเรื่องอาหารไม่แพ้ที่ไหน และ Luigi Bangkok ขอเรียกสไตล์ของอาหารที่นี่ว่าเป็น Harmony Dish มากกว่าเป็น Fusion เป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์ของอาหารฝรั่งเศส และศาสตร์ของอาหารญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน โดยเชฟเลือกใช้เทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสเป็นส่วนมาก (แต่บางจานก็มีความสแปนิช หรืออิตาเลียนอยู่บ้าง) มาในรสชาติที่เข้าถึงง่าย ปรับให้ถูกปากคนไทยเพิ่มเติม อาหารมีตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยเล็ก ๆ สแน็กแกล้มเครื่องดื่ม ไปจนถึงเมนคอร์ส และของหวานปิดท้ายก็มี
นอกจากไบต์เล็ก ๆ จานทานเล่น จานซีฟู้ดที่เหมาะกับไวน์ขาวแล้ว คนชอบไวน์แดงก็ต้องลองจานเนื้อ ซึ่งที่นี่เองก้มีเมนูเนื้อให้เลือกหลายจาน แต่ถ้าเป็น พิคานย่า เราขอนำเสนอ Wagyu Picanya (1,790 บาท) ใช้เนื้อพิคานย่าจากออสเตรเลียที่เลี้ยงแบบ Full-Blood Wagyu ทำให้เนื้อนุ่มเป็นพิเศษ เสิร์ฟคู่กับ Pepper Sauce และมันฝรั่งบดเนื้อเนียน
รู้จักร้าน Luigi Bangkok แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 22:30 น.
ชั้น 2 Vanit Place อาคาร C พหลโยธิน
BTS อารีย์ แล้วเดิน | มีที่จอดรถ (มีค่าจอดนะ)
ขยับไปย่านนนทบุรี แถวปากเกร็ดกันบ้าง กับ Park Kret ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามคลองลัดเกร็ด ที่ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ชาบูปลาในชื่อ “ปลาจุ่ม” ที่หยิบเอาปลาไทยชื่อไม่คุ้น และหากินได้ไม่ง่ายนัก มาให้เราได้ลองชิม พร้อมอาหารไทยจานเด็ดอีกหลากหลาย
นอกจากนี้ ในโซนทางเข้าจะเห็นเตาบาร์บีคิวขนาดใหญ่ ที่ Park Kret River Club ยังมีบาร์บีคิวจาก Sloane’s พร้อมเสิร์ฟเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นที่แรกเลยที่เราจะได้ลองชิมเนื้อของ Sloane’s กัน ความโดดเด่นของแบรนด์นี้คือเป็น Butcher’s Company ที่ขายเฉพาะเนื้อ Free Range มีทั้งเนื้อ หมู ไส้กรอก ในหลากหลายส่วนให้เลือก แน่นอนว่าสาย พิคานย่า ก็สามารถลองเนื้อส่วนนี้ได้ด้วยเช่นกันนะ (ตรวจสอบเนื้อที่มีในแต่ละวันก่อนเข้าไปที่ร้านได้ จะได้ไม่เสียเที่ยว)
รู้จักร้าน Park Kret River Club แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 17:00 – 23:00 น.
(เสาร์ – อาทิตย์ เปิด 11:00 น.)
ซอยปากด่าน 5 บางตลาด ปากเกร็ด
รถไฟฟ้าสถานีกรมชลประทาน แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
อีกหนึ่งร้านอาหารยอดฮิตของใครที่ชื่นชอบ “ข้าวแมว” และ “ข้าวหมา” (อร่อยสุด ๆ) ที่มีสาขาทั้ง Warehouse 30 เอกมัย และอีกหนึ่งสาขาในย่านลาดกระบัง ที่บรรยากาศดีมาก ๆ และต้องบอกว่าสาขานี้เอาใจคนรักเนื้อเป็นพิเศษ เพราะมีเมนูเนื้อ (รวมถึงแกะ) ให้เลือกหลากหลายเลยล่ะ
หนึ่งจานที่เราอยากให้ลองคือ ข้าวผัดมันเนื้อเจ๊มล พิคานย่า (290 บาท) พิคานย่าหมักสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน โปะลงบนข้าวผัดมันเนื้อสูตรพิเศษของเจ๊มล ที่มันเนื้อแทรกอยู่ในข้าวผัดแบบเน้น ๆ ส่งกลิ่นมันเนื้อหอม ๆ ทั่วจาน
รู้จักร้าน Sweet Pista มากขึ้น กับสาขาล่าสุดที่เอกมัย ได้ที่นี่
เปิดทุกวัน 10:30 – 21:00 น. (เสาร์ – อาทิตย์ เปิด 08:30 น.)
ถนนลาดกระบัง (ข้างซอยลาดกระบัง 38)
ARL ลาดกระบัง แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
The HOME Bar ร้านอาหารและบาร์บรรยากาศดี ที่มีอาหารแนวเมดิเตอร์เรเนียนหน้าตาพิถีพิถัน Paring กับเครื่องดื่มแก้วสวย คลอเพลงแจ๊สเบา ๆ แต่ยังมีความ Casual สบาย ๆ เหมือนมากินดื่มบ้านเพื่อน ฝั่งเครื่องดื่มจะเน้นเป็นค็อกเทลกับไวน์ มีไวน์โลกใหม่จากออสเตรเลีย ที่คัดสรรกันมาเอง ด้านเมนูอาหารที่เสิร์ฟ จะเป็นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สเปน อิตาเลียน ที่รสชาติไม่ได้เข้าใจยาก ถูกปากคนไทย
แน่นอนว่าเมนูที่นี่มีให้เราได้ลองชิมเยอะมาก ๆ รวมถึงจาน พิคานย่า อย่าง Picanha Bourbon Sauce (950 บาท) เนื้อออสเตรเลีย ส่วนพิคานย่า ที่มีความนุ่ม แต่ยังมีเทกเจอร์ให้เคี้ยว หั่นชิ้นมาพอดีคำ เสิร์ฟมากับซอสพาร์สลีย์มาโย และมันฝรั่ง หรือจะเป็นเนื้อส่วนอื่น และจานหลักอื่น ๆ ก็มีให้สั่งได้ตามใจเช่นกัน
รู้จักร้าน The Home Bar แบบเต็ม ๆ พร้อมเมนูอื่น ๆ ได้ที่นี่
เปิด อังคาร – อาทิตย์ เวลา 13:30 – 23:30 น.
นวมินทร์ 111 แยก 15 (ด้านหน้าวาระเวลา)
มีที่จอดรถ