หนึ่งในคาเฟ่ที่กำลังบูมในกรุงเทพฯ เวลานี้ คงต้องยกให้ คาเฟ่ ชา ที่เอาใจคนรักคาเฟอีนที่ไม่ใช่กาแฟบ้าง หลังจากที่บ้านเราถูกครอบครองโดยชานม (ไข่มุก) มาหลายปี แต่จริง ๆ แล้วชาใสง่าย ๆ ที่คัดใบชาดี ๆ นี่แหละ ที่หลายคนเริ่มสนใจ และชื่นชอบกันมากขึ้น และนี่คือ 6 ร้าน Tea House ในกรุงเทพฯ ที่เปิดใหม่ในช่วงนี้ ให้เราได้ตามไปเช็กอินจนครบ
จากความสนใจในชาของ Larry Ke หนุ่มจากเมืองไถจง ไต้หวัน ผู้ชื่นชอบและรักประเทศไทยจนอยู่มายาวนาน วันหนึ่งจึงรู้สึกว่าบ้านเรายังไม่มี Tea House ดี ๆ กับเขา และชาไต้หวันก็มีคุณภาพและน่าสนใจไม่น้อย จึงเปิด คาเฟ่ ชา Casa Formosa ขึ้นมา และเลือกย่านทรงวาดเป็นที่ตั้ง ด้วยความคล้ายคลึงกับย่านเมืองเก่าของไทเปอย่าง Dadaocheng (ต้าเต้าเฉิง) ที่มีหน้าตาของบ้านเรือนคล้ายกัน และยังติดกับแม่น้ำ ที่ทั้งสองเมืองประวัติศาสตร์ที่ใกล้เคียงกันอย่างการค้าขายกับเรือที่มาจากแม่น้ำเช่นเดียวกัน และที่ต้าเต้าเฉิงเองก็พัฒนาการค้ามาได้ด้วยการขายใบชา และตั้งชื่อโดยหยิบคำว่า Formosa ซึ่งเป็นชื่อเดิมของไต้หวันมาประกอบ แล้วเพิ่ม Casa ที่แปลว่า บ้าน ในภาษาละตินเข้าไป
ตัวชาที่ร้านจะแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือชาที่บ่มเข้ม (Deep Oxidation) รสของชาก็จะเข้ม รวมถึงสีของชาด้วย กับชาบ่มอ่อน (Light Oxidation) ที่เบาลงมา สีของชาจะใสกว่าคล้ายชาเขียว โดยการบ่มชานี่แหละคือตัวที่สร้างประเภทของชาแบบที่เราคุ้นเคยกัน เช่น ชาเขียว ชาดำ ชาแดง ชาอู่หลง ซึ่งมาจากกระบวนการบ่ม ชาอู่หลงจะบ่มอยู่ที่ 15-80 % ส่วนชาดำจะบ่มที่ 100% หรือชาเขียวก็จะไม่ผ่านการบ่มเลย เป็นต้น ซึ่งที่ร้านเองจะเน้นไปที่ชาอู่หลง เพราะไต้หวันจะเน้นผลิตใบชาอู่หลงเป็นหลักนั่นเอง
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Casa Formosa ได้ที่นี่ https://routeen.co/casa-formosa-songwat/
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 10:00 – 18:00 น.
ถนนวานิช 1 สัมพันธวงศ์ ทรงวาด
MRT วัดมังกร | ไม่มีที่จอดรถ
สายชานมเลิฟเวอร์จะต้องรัก cha bar เหมือนเราแน่ ๆ เพราะเค้าคิดค้นสูตรชานมที่กินได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิด ด้วยการใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ (และยังอร่อย) มาทดแทน เปิดมานานตั้งแต่ปี 2018 ต่อยอดเป็นไลน์ขนมหวาน ไอศกรีมอีกหลายเมนู เป็น Guilt free dessert ที่ดีต่อใจสุด ๆ ล่าสุดไม่นาน cha bar ก็ได้เปิดพื้นที่ใหม่ เป็นสาขาหลักของร้าน ใช้ชื่อว่า cha bar HQ (headquater) จากที่ปกติสาขาอื่น ๆ มักจะเป็น grab&go แบบไว ๆ สาขานี้ก็ทำพื้นที่ให้นั่งได้ยาว ๆ เลย การตกแต่งยังคงใช้หิน Terrazzo เป็นหลัก ตัดกับสีทองที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เราไปช่วงบ่ายพอดีกับแสงกระทบร้านสวยมาก
มาทั้งทีขอจัดเต็มหน่อย เริ่มที่ ชานมคลาสสิกไข่มุกข้าวไรซ์เบอร์รี่ (ไซซ์ M 75 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง เบสเป็นชาดำจากเชียงราย ใช้ความหวานจากนมข้นหวานที่ทำจากนมสดเเละน้ำตาลมะพร้าว ความหวานปกติของร้านจะอยู่ที่ 25% เราว่ากำลังดีเลย มีไข่มุกเคี้ยวหนึบรสสัมผัสเหมือนบัวลอย อีกแก้วขอลองเป็น ชาผลไม้รวม (ไซซ์ M 85 บาท) ชาเขียวใสที่มีผลไม้สดอัดแน่นเต็มแก้ว ทั้งเลมอน แตงโม เสาวรส สับปะรด แอปเปิ้ล และมีน้ำผึ้งด้วย ได้ความสดชื่นแบบไม่ต้องพึ่งไซรัปเลย
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Cha Bar HQ ได้ที่นี่ https://routeen.co/cha-bar/
จันทร์ – พฤหัส 11:00 – 20:00 น. และ ศุกร์ – อาทิตย์ 11:00 – 21:00 น.
โครงการ Dragon town จุฬา
MRT สามย่านหรือหัวลำโพง แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
Gimbocha หรือ ชากิมบ้อ เป็น คาเฟ่ ชา จีนสมัยใหม่ที่เข้าใจง่าย และมีคาแรกเตอร์การ์ตูนคุณยายเป็นภาพจำ หลาย ๆ คนอาจเป็นแฟนคลับร้านตั้งแต่สมัยอยู่หนองแขม ในปี 2021 ก่อนจะย้ายเข้ามาในเมือง ที่ซอยเกษมสันต์ 1 ในปี 2022 (ข้าง ๆ หอศิลป์ กรุงเทพฯ) ขยับเข้ามาหาลูกค้า และเดินทางง่ายขึ้น เรียกว่าใจกลางเมืองเลยล่ะ ไม่ไกลจาก BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ล่าสุด Gimbocha ย้ายบ้านใหม่อีกครั้ง แต่ย้ายครั้งนี้ไม่ได้ไปไหนไกล ขยับจากบ้านหลังเดิมแค่ 2 หลังเอง ย้ายบ้านคราวนี้ร้านมีขนาดใหญ่ขึ้น มีสวนหน้าบ้านเพิ่มความโฮมมี่ และมีที่นั่งเพิ่มขึ้นด้วย
เมนูที่ร้านยังเน้นชาจีนเป็นหลักเหมือนเดิม ซึ่งใบชามีทั้ง สั่งตรงจากจีน ไต้หวัน เยาวราช หรือสั่งตรงจากไร่เมืองไทยก็มี รวมกว่า 30-35 ตัว สำหรับเมนูก็มีทั้งชาร้อน ชาเย็น ชานม ชาผลไม้ และชาดอกไม้ ให้เลือกได้ตามชอบเลย เราชอบที่เค้าเอาชาจีนมาพรีเซนต์แบบเข้าใจง่าย คนไม่เคยกินชาจีนก็อินได้ไม่ยาก ในฝั่งเมนูเย็นจะแบ่งเป็น Single Ice Tea ที่ใช้ใบชาแค่ชนิดเดียว เน้นคาแรกเตอร์ของชาแบบชัด ๆ จะมีเรื่อง Taste note หรือ Aftertaste เหมือนเวลาดื่มกาแฟ อีกฝั่งเป็น Blended Tea เน้นความหลากหลายของวัตถุดิบ มีความแฟนซี เปรี้ยวหวานซ่าสดชื่น
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Gimbocha ได้ที่นี่ https://routeen.co/gimbocha-cafe/
เปิดทุกวัน (เว้นวันพฤหัส) 11:30 – 19:00 น.
ซอยเกษมสันต์ 1
BTS สนามกีฬาแห่งชาติ (สะดวกสุด)
Have A Nice Day เริ่มมาจากความชอบดื่มชาของเจ้าของร้าน มีชาจีนอยู่ในชีวิตมาตลอด ซึ่งเป็น Serious Chinese Tea เลยมองว่าจริง ๆ เป็นชาที่อร่อยและมีเสน่ห์ และยังมีโอกาสไปจีนบ่อย ๆ เห็นว่าร้าน Tea House เป็นที่นิยมมาก ๆ คนรุ่นใหม่ก็เข้าถึงชาแบบนี้มากขึ้น แต่ในไทยยังรู้สึกว่าหายากอยู่เลยอยากทำ คาเฟ่ ชา ขึ้นมา เพื่อทำให้ชาจีนดูเข้าใจง่าย เลยปรับวิธีการนำเสนอให้เข้ากับคนสมัยใหม่ มีทั้งชานม ชาผลไม้ ซึ่งใบชาแต่ละใบที่ร้านคัดมา เป็นชาจีนแท้ มีเยอะมาก ๆ สามารถพูดคุยกับ Tearista หรือคนชงชาได้เลยว่าอยากได้รสชาติแบบไหน
ส่วนเมนูหลักที่ทางร้านคิดมาแล้วว่าดีและเข้าใจง่าย จะแบ่งเป็นเมนูร้อนและเย็น ซึ่งในฝั่งของเมนูเย็นจะมีใบชายืนพื้นอยู่ 5 เบส เลือกได้ทั้งชาผลไม้และชานม คัดมาแล้วว่าจับคู่กันแล้วอร่อย สำหรับชาผลไม้จะใช้เป็นผลไม้สดทั้งหมด ไม่ใช้ไซรัปเลยเพราะไม่อยากให้รสชาโดนไซรัปผลไม้กลับจนไม่ได้กลิ่น ส่วนใบชาสำหรับชาร้อนจะเป็นอีกล็อตนึง แบ่งประเภทจากการอบและกรรมวิธีที่ของแต่ละเมือง ไล่ระดับตั้งแต่ชาไลต์ ๆ แบบ Floral Tea ไปจนถึงระดับเข้มอย่าง Dark Tea ซึ่งแต่ละประเภท ทางร้านจะเลือกคัดตัวดัง ๆ มาไว้ให้เลือกชิมได้แบบไม่ต้องไปไกลถึงเมืองจีน
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Have A Nice Day Tea House & Bar ได้ที่นี่ https://routeen.co/have-a-nice-day-tea-house-and-bar/
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 10:00 – 18:00 น.
ริมถนนใหญ่ถนนเอกมัย ใกล้ ๆ ซอยเอกมัย 6
นี่คือ คาเฟ่ ชา ที่พยายามเชื้อชวนเราให้เดินเข้าไปค้นหาความสงบ ผ่านบรรยากาศของร้าน และชาเขียวแก้วโปรด กับ Ksana (กาซานา) ด้วยคอนเซปต์ที่อยากพาทุกคนหลีกหนีจากความวุ่นวาย (ที่สุดท้ายเกิดเป็น Tagline ของร้านอย่าง Escape From Chaos ขึ้นมา) เพราะคนเมืองอย่างเรา ๆ นั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายจริง ๆ ในขณะเดียวกัน พื้นที่ที่ให้หลบหลีกสิ่งเหล่านั้นก็มีน้อยมาก ๆ เลยต้องหาสื่อกลางในการนำเสนอความสงบนั้น พอมอง ๆ กันก็พบว่า ชาเขียวนี่แหละ จะเป็นสิ่งที่สามารถสื่อไปถึงความสงบได้ดีที่สุด
ทางร้านตั้งใจคัดชาเขียวที่มีคุณภาพตรงจากเมืองอุจิ ประเทศญี่ปุ่น จากฟาร์มอายุกว่า 400 ปี ที่ร้านมีมัตฉะให้เลือก 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ Coastal Breeze ซึ่งเป็นชาเกรดท็อปที่ใช้ในพิธีชงชา ชาตัวนี้จะให้ความรู้สึกรีแลกซ์ ไม่ขม เป็นชาพันธุ์ Samidori, ตัวที่สองคือ Bitter Rainforest เอาใจคนที่ชอบชาติดขมหน่อย ๆ ตัวนี้จึงค่อนข้างสตรอง โดยใช้ชาพันธุ์ Yabukita, สุดท้ายกับ Smokey Peaks เป็นโฮจิฉะที่ค่อนข้างอโรมามาก ๆ และมีความสโมกกี้ขึ้นมาอีกนิด
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Ksana ได้ที่นี่ https://routeen.co/ksana-matcha-store/
เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 17:30 น.
ชั้น 2 อาคาร OCC – One City Centre เพลินจิต
BTS เพลินจิต | มีที่จอดรถ
ไม่นานมานี้เราได้เจอกับร้านชานมไต้หวันที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง ในซอยสาธุประดิษฐ์ 6 เป็นร้านที่นำเข้าใบชาจากไต้หวันแท้ ๆ รสชาติแบบออริจินอลเพราะคนคิดสูตรเป็นชาวไต้หวันเองเลย แต่ใครที่เป็นแฟนคลับชานม อาจจะเคยได้ยินชื่อ Teaory มาก่อนแล้ว เพราะเดิมทีเค้าเริ่มจากเดลิเวอรี่มาตั้งแต่ปี 2020 มีฐานลูกค้าเหนียวแน่น ติดใจ และกลับมาสั่งเรื่อย ๆ ทางร้านเลยตัดสินใจลองเปิดหน้าร้าน คาเฟ่ ชา ดู ตั้งใจให้เป็นพื้นที่รวม Tea Lover มานั่งจิบชากินขนมกัน
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นก่อนจะทำร้านชานมไต้หวัน มาจากความชอบดื่มชาของคุณชมพูเจ้าของร้าน ที่เป็นชานมเลิฟเวอร์มา 4-5 ปีแล้ว และมีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น บังเอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชานมบูมมาก แต่ราคาก็แอบสูงเกินกว่าจะดื่มได้ทุกวัน ด้วยความบังเอิญ (ที่โชคดีสุด ๆ) คุณชมพูมีแฟนเป็นชาวไต้หวันเลยชวนทำชานมดื่มเอง ทั้งคัดใบชา คิดสูตร ทำเองกินเองมาตลอด จนกระทั่งกลับมาไทย แล้วไม่เจอร้านชานมที่ถูกใจสักที เลยสานต่อรสชาติที่ตัวเองชอบ เริ่มทำเดลิเวอรี่ขายเองซะเลย เบสชาไต้หวันที่นี่จะมีถึง 6 ตัว คัดมาแล้วว่าคนไทยน่าจะเข้าใจง่าย มีคาแรกเตอร์และกลิ่นชัดเจน คือ Assam / Tie Guanin จะมีความเข้มหอม Earl Grey / Osmanthus หรือชาดอกหอมหมื่นลี้ มีความหอมโทนดอกไม้ชัด ๆ ส่วน Ceylon จะมีความหอม นุ่ม เบา และสุดท้ายคือ Traditional ใบชาที่มีกลิ่นคล้ายกาแฟ
อ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของ Teaory Teahouse ได้ที่นี่ https://routeen.co/teaory-teahouse/
เปิดทุกวัน จ.-ศ. 09:00 – 18:00 น. | ส.-อา. 10:00 – 18:00 น.
สาธุประดิษฐ์ 6
BTS เซนหลุยส์ แล้วต่อพี่วิน | จอดรถริมถนน